เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สี จิ้น ผิง และภริยา เดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคม 2566 ตามคำเชิญของนายเหงียน ฝู จ่อง (Nguyễn Phú Trọng) เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
การเยือนเวียดนามครั้งนี้เป็นการเยือนครั้งที่ 3 ของนาย สี จิ้น ผิง ในฐานะหัวหน้าพรรคและรัฐจีน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความหมายอย่างยิ่ง เนื่องในโอกาสที่ทั้งสองประเทศเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูต ถือเป็น การสานต่อกิจกรรมการแลกเปลี่ยนระดับสูงระหว่างสองประเทศ นับตั้งแต่การเยือนจีนครั้งประวัติศาสตร์ของเลขาธิการพรรค นาย เหวียน ฝู จ่อง (Nguyễn Phú Trọng) (30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2565) ผู้นำระดับสูงของทั้งสองฝ่ายหารือเชิงลึกถึงแนวทางที่สำคัญและครอบคลุมเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์และยกระดับความความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามและจีน ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำระดับสูงของทั้งสองฝ่าย เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองต่อไป ส่งเสริมขอบเขตความร่วมมือในเชิงลึกอย่างแข็งขันมากขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยในการเปิดโอกาสให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายเข้าสู่ช่วงการพัฒนาใหม่ที่แท้จริงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่ายทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเวียดนามและจีนในเชิงยุทธศาสตร์ยังคงมีการพัฒนาอย่างมั่นคง และบรรลุความสำเร็จที่สำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะ ตั้งแต่ต้นปี 2566 หลังจากที่จีนปรับนโยบายการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือโดยตรงระหว่างทั้ง 2 ประเทศได้รับการฟื้นตัวเป็นอย่างมากและบรรลุการพัฒนาเชิงบวกหลายประการ
ปัจจุบัน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศยังคงเป็นจุดสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ในช่วงที่การค้าระหว่างจีนและพันธมิตรต่างๆ มีการลดลง ประเทศเวียดนามยังคงเป็นหนึ่งพันธมิตรที่ยังคงรักษาการค้าและการความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับจีนได้ จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามและเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ขณะที่เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในอาเซียนและเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 8 ของโลก มูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามและจีนในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 139,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ข้อมูลศุลกากรของจีนสูงถึง 185,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในด้านการลงทุน ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา จีนลงทุน 3,060 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเวียดนาม คิดเป็นร้อยละ 18.7 ของเงินลงทุนต่างประเทศที่ได้รับใบอนุญาตใหม่ทั้งหมด อยู่ในอันดับที่ 4 (รองจากสิงคโปร์ เกาหลีใต้ และฮ่องกง) แต่เป็นผู้นำในจำนวนโครงการลงทุนใหม่ในเวียดนาม (คิดเป็นร้อยละ 22.1)
ผู้นำระดับสูงของทั้งสองฝ่ายได้หารือในเชิงลึกในประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น การกระชับความร่วมมือในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ตลอดจนเสริมสร้างการประสานงานและความร่วมมือในเวทีพหุภาคี นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายลงนามในเอกสารความร่วมมือที่สำคัญหลายฉบับในด้านต่าง ๆ เช่น พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการกักกันพืชสำหรับแตงโมที่ส่งออกจากเวียดนามไปยังจีน บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือทางรถไฟเวียดนาม – จีน โดยเร่งดำเนินการโครงการรถไฟสาย เหอโข่ว (Hekou) – ยูนนาน (yúnnán) –หล่าวกาย (Lao Cai) – ฮานอย (Ha noi)- ไฮฟอง (Hai Phong) ความร่วมมือการลงทุนในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล การส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนด้านการพัฒนาสีเขียว เป็นต้น
ข้อคิดเห็น สคต
ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เวียดนามและจีนได้เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน ความสัมพันธ์เวียดนาม-จีนยังคงรักษาการพัฒนาที่มั่นคงพร้อมความก้าวหน้ามากขึ้น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ายังคงเป็นจุดสำคัญในความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ในบริบทของการค้าที่ลดลงระหว่างจีนและคู่ค้าต่างๆ เวียดนามเป็นหนึ่งในคู่ค้าที่ยังคงรักษาการค้าที่มั่นคงกับจีนได้ มูลค่าการค้าทวีภาคีระหว่างเวียดนามและจีนในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่า 139,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามและเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในขณะที่เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในอาเซียนและเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 8 ของโลก สินค้าหลักที่เวียดนามส่งออกไปยังประเทศจีน ได้แก่ โทรศัพท์และส่วนประกอบ คอมพิวเตอร์ สินค้าเกษตรกรรม ป่าไม้และการประมง เครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นต้น และสินค้าหลักที่เวียดนามนำเข้าจากประเทศจีน ได้แก่ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ ผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เป็นต้น โดยความร่วมมือระหว่างเวียดนามและจีนในการส่งเสริมการเชื่อมโยงทางรถไฟและทางบก อำนวยความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกสินค้าที่ด่านชายแดน จะช่วยเพิ่ม การขนส่งสินค้าผ่านแดนจากไทยไปยังประเทศจีนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมของจีนในการลงนามในการนำเข้าสินค้าเกษตรของเวียดนาม โดยเฉพาะผลไม้ จะเพิ่มการแข่งขันกับการส่งออกผลไม้ของไทยไปยังตลาดจีนเช่นกันด้วย
อ่านข่าวฉบับเต็ม : เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม