- สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เปิดตัว “ระบบ National Single Window : NSW” อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของรัฐบาลกัมพูชาที่ได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ การอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา
- ระบบ NSW เป็นระบบใหม่ของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ที่สามารถทำงานร่วมกับระบบที่มีอยู่แล้ว เช่น E-customs, ASYCUDA, Pre-Arrival Manifest System เป็นต้น
- ระบบ NSW จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ส่งออก-ผู้นำเข้า สามารถยื่นขอใบอนุญาต ใบรับรอง และเอกสารที่จำเป็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและนำเข้าสินค้าไปยังทุกกระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้องพร้อมๆ กัน เพื่อขออนุญาตใช้แบบฟอร์มพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ และยังมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงกับระบบ NSW ของอาเซียน เช่น ข้อมูลของใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ข้อมูลพิธีการศุลกากร และข้อมูลเอกสารด้านการค้าอื่นๆ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์กับประเทศสมาชิกอาเซียน
- ทั้งนี้ การเปิดดำเนินการของระบบฯ จะสร้างประโยชน์ให้ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยให้ความสะดวกในการดำเนินการผ่านพิธีการฯ ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังมีข้อมูลที่แม่นยำสำหรับการวิเคราะห์ความเสี่ยง และความต้องการด้านเอกสารต่างๆ อีกด้วย
ความเห็นของสำนักงานฯ
- ที่ผ่านมา การยื่นขอใบอนุญาต ใบรับรอง และเอกสารที่จำเป็นต่างๆ สำหรับสินค้าส่งออก-นำเข้า ที่อยู่ในบัญชีรายการต้องห้ามและต้องกำกัดของรัฐบาลกัมพูชา ต้องเสียเวลาและเงินเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ การเปิดตัวระบบ NSW จะช่วยอำนวยความสะดวกในการบริการ ลดเอกสาร โดยการบริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านหน่วยงานภาครัฐและสถาบันที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้รวดเร็ว ประหยัดเวลา และเงิน รวมทั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การค้าชายแดนระหว่างกัมพูชา-ไทย มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะผู้ประกอบการไทย เนื่องจากที่ผ่านมากัมพูชานำเข้าสินค้าจากไทยมากกว่าการส่งออก ซึ่งการเปิดตัวระบบ NSW ในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกสินค้ามายังกัมพูชาได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ประหยัดเวลา และเงิน มีความโปร่งใส ลดระบบราชการในการขอเอกสารต่างๆ เป็นต้น
————————–
ที่มา: Fresh News and Samdech Thipadei Hun Manet, Prime Minister of Cambodia
พฤษภาคม 2567
อ่านข่าวฉบับเต็ม : “ระบบ National Single Window (NSW)” ดำเนินการอย่างเป็นทางการในกัมพูชาแล้ว