- ถนนเลียบชายฝั่งเมืองมุมไบ (ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Chattrapati Sambhaji Maharaj Coastal Motorway) เป็นทางด่วนแยกระดับความยาว 29.2 กม. ที่กำลังก่อสร้าง 8 เลน ซึ่งจะวิ่งเลียบแนวชายฝั่งตะวันตกของมุมไบ เชื่อมระหว่าง Marine Drive ทางตอนใต้กับเมือง Kandivali ทางตอนเหนือ คาดว่าจะมีการใช้งานถึง 130,000 คันต่อวัน และจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างมุมไบตอนใต้และตอนเหนือ จาก 2 ชั่วโมง เหลือเพียง 40 นาที โดยจะใช้งบประมาณก่อสร้างโครงการจำนวน 13,060 ล้านรูปี (1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โครงการนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างคือระยะทาง 10.58 กม. จาก Worli จนไปถึง Marine Drives ส่วนที่สองคือ Bandra-Worli Sea Link ความยาว 5.6 กม. ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นและเปิดใช้แล้วตั้งแต่ปี 2010 และส่วนสุดท้ายที่พึ่งเริ่มดำเนินการคือจาก Bandra – Kandivali
- โครงการส่วนแรกจะมุ่งเน้นไปที่การลดเวลาเดินทางไปและกลับจากมุมไบตอนใต้เป็นหลัก คือถนนชายฝั่งมุมไบระยะทาง 10.58 กม. เป็นโครงการต้นแบบของ Uddhav Thackeray หัวหน้าคณะรัฐมนตรีของรัฐมหาราษฏระ โครงการทางด่วน 8 เลนที่เชื่อมต่อ Marine Drive ในมุมไบตอนใต้กับจุดสิ้นสุด Worli ซึ่งจะเชื่อมต่อส่วนที่สองทางทะเลระหว่าง Bandra-Worli โครงการนี้คาดว่าจะมีราคาประมาณ 12,700 ล้านรูปี ดำเนินการไปแล้วกว่า 73% และมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2566 หากแล้วเสร็จจะเป็นอุโมงค์ถนนใต้ทะเลแห่งแรกในอินเดีย โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อมุมไบเหนือและกลาง ลดเวลาการเดินทางจากกว่า 40 นาที เหลือเพียง 12 นาที โครงการนี้ประกอบด้วยอุโมงค์ใต้ทะเลกว้าง 40 ฟุต สะพานยกพื้นสูง ถนนยกระดับ อุโมงค์คู่ผ่านเนินเขา Malabar พื้นที่สีเขียว กำแพงกันคลื่น และทางแยกการจราจร นอกจากนี้ ยังถมทะเลเพื่อก่อสร้างถนน 8 เลน เลนจักรยาน สวนสาธารณะ โรงละคร อีกด้วย ทั้งนี้ จะเป็นโครงการต้นแบบให้กับเมืองชายฝั่งอื่นๆ ที่ประสบปัญหาการจราจรหนาแน่น โดยมีการศึกษาอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าการถมทะเลจะไม่ส่งผลกระทบต่อรูปแบบหรือระดับคลื่นทะเล
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อคิดเห็น
ถนนชายฝั่งมุมไบเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและขยายเศรษฐกิจอินเดียเพิ่มขึ้น ดังนี้
1. บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดเรื้อรังในมุมไบ
2. อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ และผู้คนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจในมุมไบ
3. คาดว่าจะมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแถบพื้นที่เลียบชายฝั่ง การเชื่อมต่อที่ดีขึ้นและทิวทัศน์ที่งดงามของถนนจะทำให้พื้นที่มีมูลค่าเพิ่มสูงยิ่งขึ้น
4. โครงการนี้คาดว่าจะสามารถกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงภาคส่วนต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว การบริการ และการค้าปลีก
5. ถนนเลียบชายฝั่งจะช่วยให้สามารถเข้าถึงท่าเรือต่างๆ ตามแนวชายฝั่งตะวันตกได้ดีขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มกิจกรรมของท่าเรือได้ ส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น โลจิสติกส์ คลังสินค้า และการค้า
6. ด้วยการจราจรที่คล่องตัวยิ่งขึ้น ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลงและปล่อยมลพิษน้อยลง สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังนำไปสู่การประหยัดต้นทุนสำหรับผู้สัญจรและธุรกิจอีกด้วย
7. ลดความแออัดของการจราจรและคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลง จะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัย และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจได้เพิ่มขึ้น
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)