อียิปต์จะจัดสรรเงิน 127.7 พันล้านปอนด์อียิปต์ (4.14 พันล้านดอลลาร์) สำหรับโครงการอุดหนุนด้านอาหารสำหรับปีงบประมาณที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เพิ่มขึ้นจาก 90 พันล้านปอนด์อียิปต์ (2.92 พันล้านดอลลาร์) ในปีก่อนหน้า เนื่องจากอียิปต์เป็นประเทศอาหรับที่มีประชากรมากที่สุดกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากร 105 ล้านคนของอียิปต์อาศัยอยู่ในความยากจน และชาวอียิปต์จำนวนมากพึ่งพารัฐบาลในการจัดหาสินค้าพื้นฐานในราคาที่จับต้องได้ผ่านเงินอุดหนุนจากรัฐและโครงการอื่นที่คล้ายคลึงกัน
รัฐสภาของประเทศอนุมัติงบประมาณ 3 ล้านล้านปอนด์ (97.41 พันล้านดอลลาร์) สำหรับปี 2566-2567 และยังได้ตั้งงบประมาณสำหรับราคาน้ำมันที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลของน้ำมันดิบเบรนต์ ประมาณการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ร้อยละ 4.1 และอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ร้อยละ 16
กระทรวงการคลังของอียิปต์คาดการณ์ว่าจะต้องใช้ข้าวสาลี 8.25 ล้านตันสำหรับโครงการอุดหนุน โดยอียิปต์เป็นหนึ่งในผู้นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก และเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน เนื่องจากยูเครนเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก
ความคิดเห็น/ข้อสังเกต
นับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซีย ค่าเงินของอียิปต์อ่อนค่าลงเกือบครึ่ง และนักลงทุนต่างชาติถอนเงินออกจากตลาดคลังของอียิปต์ไปแล้วกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกิดภาวการณ์ขาดแคลนสกุลเงินต่างประเทศ ดังนั้นอียิปต์จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน ตามมาตรการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยแปรรูปกิจการของรัฐให้เป็นของเอกชนมากขึ้น และสร้างสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ
ในเดือนกุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรี Mostafa Madbouly ได้เปิดเผยรายชื่อบริษัทของรัฐกว่า 30 แห่งที่จะขายให้กับนักลงทุนภายในปีนี้ และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อียิปต์ได้ประกาศแผนการดึงดูดการลงทุนมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า การแปรรูปและการลงทุนจากต่างประเทศเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน เนื่องจากรัฐบาลต้องชำระหนี้ต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
โดยอียิปต์ได้ลงนามข้อตกลงทางการเงินมูลค่า 460 ล้านดอลลาร์สำหรับรถไฟใต้ดินของกรุงไคโรกับเกาหลีใต้ และกระทรวงการคลังของอียิปต์ประกาศขายหุ้นร้อยละ 9.5 ในบริษัทเทเลคอมอียิปต์ที่ควบคุมโดยรัฐ เป็นเงิน 3.75 พันล้านปอนด์อียิปต์ (122.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) อีกทั้งรัฐบาลอยู่ระหว่างการเจรจากำลังดำเนินการเพื่อขายโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ใน Beni Suef ทางตอนใต้ของกรุงไคโร ซึ่งเป็นข้อตกลงมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์กับบริษัท Actis LLP และ Edra Power Holdings Sdn Bhd เพื่อผลักดันโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ
ท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อียิปต์จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารและเชื้อเพลิงขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชนอียิปต์ การขาดแคลนหรือการปรับราคาที่สูงขึ้นจะกระทบต่อความมั่นคงภายใน โดยรัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุปทานของอียิปต์มีการหารือกับรัสเซีย จีน และอินเดียยังคงดำเนินต่อไปเกี่ยวกับการจ่ายเงินสำหรับการนำเข้าโดยใช้สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์
——————————————–
https://www.aljazeera.com/news/2023/6/14/egypt-approves-budget-amid-privatisation-drive-economic-crisis
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)