หน้าแรกTrade insight > เปิดเทอมปีนี้ พ่อแม่ชาวฮังการีอ่วม อุปกรณ์การเรียนปรับราคาสูงขึ้น 10-20%

เปิดเทอมปีนี้ พ่อแม่ชาวฮังการีอ่วม อุปกรณ์การเรียนปรับราคาสูงขึ้น 10-20%

ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ วันที่ 11-15 กันยายน 2566
www.thaitradebudapest.hu / Facebook Fanpage: @ThaiTradeBudapest
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Pavel Danilyuk @ Pexels

 

ในฮังการี สถานศึกษาระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กันยายนของทุกปี ส่วนมหาวิทยาลัยมักจะเปิดภาคเรียนในสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน โดยปกติแล้ว พ่อแม่รวมทั้งนักศึกษามักจะเริ่มซื้อสินค้าอุปกรณ์การเรียนหลังวันที่ 20 สิงหาคม เป็นสัญญาณที่ระบุว่าฤดูร้อนกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว และเข้าสู่ช่วง Off-season ของการท่องเที่ยว เด็กๆ เตรียมตัวกลับเข้าโรงเรียน ร้านค้าปลีกจึงมักจะเริ่มจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายสินค้า Back to School

 

ช่วงระหว่างปลายเดือนสิงหาคม-กลางเดือนกันยายน เป็นช่วงเวลาที่ผู้ปกครองมีภาระค่าใช้จ่ายสูงมากกว่าปกติ เพราะต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนให้ลูกๆ ทั้งเครื่องเขียน สมุดจดบันทึก หนังสือเรียน กระเป๋า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์กีฬา กล่องข้าว กระบอกน้ำดื่ม จนถึงเสื้อผ้าและรองเท้าใหม่ ซึ่งความจำเป็นของการซื้อสินค้าเหล่านี้ เป็นเพราะการที่ครูแต่ละชั้นเรียนกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละปีอะไรบ้าง และต้องใช้อุปกรณ์การเรียนอะไร ยังไม่รวมถึงค่าเช่าหอพัก และค่าเรียนพิเศษต่างๆ ดังนั้น ช่วงเปิดภาคเรียนจึงเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เม็ดเงินสะพัดในตลาดสูงมากที่สุดช่วงหนึ่งในรอบปี

 

ในปีนี้ ด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและภาวะเงินเฟ้อที่ยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าจ้างที่แท้จริง (Real Wage) ของแรงงาน และกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมลดลง ผู้ปกครองจึงเลือกซื้อสินค้ามือสองที่คุณภาพดีก่อน หากต้องซื้อสินค้าใหม่ จะตระเวนซื้อสินค้าจากหลายแหล่งให้ได้ราคาถูกที่สุดแทนการซื้อทีเดียวจากแหล่งเดียว บางรายรอจนถึงการประชุมผู้ปกครองครั้งแรกหลังวันเปิดเทอม เพื่อจะได้รับทราบจากครูก่อนว่าในปีการศึกษานี้เด็กต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง แล้วจึงซื้อใหม่เท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ ผู้บริโภคชาวฮังการีโดยทั่วไปมีความอ่อนไหวต่อราคา (Price Sensitivity) สูง ปัจจัยด้านราคาขายจึงเป็นปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งในการเลือกซื้อสินค้า

 

แหล่งซื้อสินค้าในฮังการี มีอยู่สามช่องทางหลัก คือ ร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนโดยเฉพาะ ร้านค้าปลีก ที่จำหน่ายสินค้าอื่นๆ ด้วย เช่น Spar, Lidl, Penny Market, Aldi และร้านขายของชำรายย่อยอื่นๆ และห้างสรรพสินค้าไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เช่น Interspar, Tesco และ Auchan

 

ผลสำรวจจากผู้บริโภคในช่วงเวลาเปิดเทอมนี้ สรุปได้ว่า

  1. บริษัทผู้ให้คำปรึกษาทางการเงิน BiztosDöntés.hu ระบุว่า ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในวัยเรียนอย่างน้อย 1 คนจะใช้เงินซื้อสินค้าเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียน เฉลี่ยที่ 50,000 โฟรินท์ต่อคน (ประมาณ 5,000 บาทต่อคน) ยังไม่รวมค่าเสื้อผ้า
  2. ผลสำรวจด้านมูลค่าการสั่งซื้ออุปกรณ์การเรียนจากลูกค้าของบริษัทผู้จำหน่ายของเล่น เสื้อผ้า และเครื่องใช้สำหรับเด็กรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฮังการี ได้แก่ REGIO JÁTÉK ได้สำรวจผู้บริโภคราว 1,600 ราย ระบุว่า ระหว่างกลางเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ผู้ปกครองราวกึ่งหนึ่งที่สำรวจฯ ใช้เงินประมาณ 20,000-30,000 โฟรินท์ต่อคน (ประมาณ 2,000-3,000 บาท) ส่วนที่ใช้เงินประมาณ 30,000-40,000 โฟรินท์ต่อคน (ประมาณ 3,000-4,000 บาท) คิดเป็น 25% และผู้ปกครองที่ใช้เงินประมาณ 20,000 โฟรินท์ต่อคน (ประมาณ 2,000 บาท) คิดเป็นประมาณ 20% ยังไม่รวมค่าเสื้อผ้านอกจากนี้ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ราว 1,300 คนจาก 1,600 คน ซื้อสินค้าเตรียมเปิดภาคเรียนที่หน้าร้านสาขา ไม่นิยมซื้อสินค้าทางช่องทางออนไลน์ เพราะต้องการทดลองจับต้องสินค้าจริงก่อน โดยเฉพาะสินค้าประเภทเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ที่ต้องพอดีกับตัวเด็ก
  3. ด้านผลสำรวจจากหนังสือพิมพ์ด้านเศรษฐกิจและการเงิน Pénzcentrum ระบุว่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่ที่มีบุตรหลานในวัยเรียนอย่างน้อย 1 คน คิดเป็น 43.59% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้เงินซื้อสินค้าอุปกรณ์การเรียนในช่วง 25,000-40,000 โฟรินท์ต่อคน (ประมาณ 2,500-4,000 บาท) ยังไม่รวมค่าเสื้อผ้า

จากผลสำรวจเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า พ่อแม่ชาวฮังการีที่ซื้อสินค้าอุปกรณ์การเรียนให้บุตรหลาน จะใช้เงินอยู่ในช่วงประมาณ 20,000-50,000 โฟรินท์ หรือประมาณ 2,000-5,000 บาท ต่อเด็ก 1 คน

 

ในปัจจุบัน สถานศึกษาหลายแห่งปรับการเรียนการสอนมาใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น บริษัทผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องเขียน Vectra-Line Plus Kft. เปิดเผยว่า ยอดขายสินค้าประเภทบัตรคำและแผ่นป้ายเพื่อการศึกษาหดตัวลง สอดคล้องกับแนวโน้มในปัจจุบันที่ผู้ปกครองจำนวนมากซื้อแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ให้บุตรหลาน ตามแนวโน้มรูปแบบการศึกษาในปัจจุบัน

 

สำหรับเสื้อผ้าสำหรับนักเรียนนั้น นักเรียนโรงเรียนรัฐของฮังการีสามารถสวมชุดไปรเวทมาโรงเรียน โดยโรงเรียนจะบังคับใส่เครื่องแบบนักเรียนในวันเปิดภาคการศึกษา วันสอบเข้ามหาวิทยาลัย และพิธีการสำคัญเท่านั้น ทว่าโรงเรียนเอกชนบางแห่ง กำหนดชุดเครื่องแบบเฉพาะของโรงเรียนที่จะต้องซื้อจากโรงเรียนเท่านั้น ทำให้ผู้ปกครองมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น

 

ตัวอย่างราคาสินค้าจำเป็นสำหรับการเปิดภาคเรียน ที่จำหน่ายในแหล่งต่างๆ รวบรวมโดยหนังสือพิมพ์ด้านเศรษฐกิจและการเงิน Pénzcentrum

(หมายเหตุ 10 โฟรินท์ มีมูลค่าประมาณ 1 บาท)

จำนวน

รายการสินค้า

ร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าอื่นๆ ด้วย เช่น Spar, Lidl, Penny Market, Aldi

ไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เช่น Interspar, Tesco, Auchan

ร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนโดยเฉพาะ

1 แพ็ค (แพ็คละ 5 เล่ม) สมุดบันทึกมีเส้น 745 240 750
1 แพ็ค (แพ็คละ 2 เล่ม) สมุดบันทึกลายตาราง 298 96 300
1 เล่ม สมุดโน้ตเพลง 149 48 150
1 แพ็ค (แพ็คละ 2 เล่ม) สมุดบันทึกธรรมดา 298 96 300
3 แฟ้ม แฟ้มพลาสติก 1,797 1,197 1,650
10 ใบ กระดาษ/พลาสติกห่อปกสมุด 499 549 600
10 ใบ กระดาษ/พลาสติกห่อปกหนังสือ 399 799 990
10 แผ่น กระดาษวาดรูป 111 179 390
1 แพ็ค (แพ็คละประมาณ 10 แผ่น) กระดาษสำหรับเขียน 111 179 250
1 แพ็ค (แพ็คละประมาณ 10-50 แผ่น) กระดาษสี 1,599 399 380
1 ชุด สีอะครีลิก 999 299 2,150
1 ชุด สีน้ำ 699 1,190
1 ชุด (ชุดละ 3 ด้าม) แปรง/พู่กัน 179 570
1 ชุด (ชุดละ 2 แท่ง) กาวแท่ง 999 198 900
1 เล่ม กรรไกร 149 550
1 ชุด ดินน้ำมัน 699 599 990
1 ชุด (ชุดละ 12 แท่ง) ปากกาเมจิกสี 1,299 199 1,190
1 ชุด (ชุดละ 4 แท่ง) ดินสอดำ ความเข้มเกรด HB 799 588 600
1 ชุด (ชุดละ 6 แท่ง) ดินสอไม้ 899 389 165
1 ชุด (ชุดละ 12 แท่ง) ชุดดินสอสีไม้ 799 299 1,160
1 ชุด (ชุดละ 2 ก้อน) ยางลบแพ็คคู่ 799 299 220
1 อัน ไม้บรรทัด 99 220
1 อัน กบเหลาดินสอ 799 99 450

 ที่มา: Pénzcentrum

 

รัฐบาลฮังการีให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีนโยบายสนับสนุนสิทธิ์การเข้าถึงการศึกษาภาคบังคับของเด็กและเยาวชน ไม่ว่าจะถือสัญชาติใดก็ตาม หากเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลจะไม่มีการเก็บค่าเทอม อีกทั้ง ยังมีเงินอุดหนุนค่าอุปกรณ์การเรียนและอาหารกลางวันสำหรับบุตรหลานของกลุ่มเปราะบาง เช่น ประชาชนที่มีระดับรายได้ต่ำ เป็นต้น การศึกษาภาคบังคับในประเทศฮังการีเริ่มตั้งแต่ชั้นอนุบาล 3 ขวบ จนถึงประถมศึกษาปีที่ 8 อายุประมาณ 14 ปี ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งชาติฮังการี ระบุว่า ในปีการศึกษา 2565-2566 มีนักเรียนนักศึกษาอยู่ในระบบการศึกษาภาครัฐราว 1,852,000 คน คิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ

 

รัฐบาลฮังการียังมีนโยบายสนับสนุนให้ครอบครัวที่มีบุตรหลานเข้าเรียนในระบบการศึกษา คือให้หนังสือเรียนฟรีตามหลักสูตรแกนกลาง และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้จ่ายเงินสนับสนุนในการซื้ออุปกรณ์การเรียน โดยใบเสร็จจะต้องออกภายในช่วงเวลาที่กำหนดจากร้านค้าที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ที่หน่วยงานปกครองท้องถิ่นแต่ละท้องที่ระบุเท่านั้น เพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้กับร้านค้า SME ในพื้นที่

ข้อคิดเห็นและบทวิเคราะห์ของ สคต.

 

เมื่อพิจารณาจำนวนนักเรียนนักศึกษาในฮังการี แสดงให้เห็นถึงความต้องการและค่าใช้จ่ายสำหรับสินค้าอุปกรณ์การเรียนอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศยังชะลอตัวด้วยภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ผู้บริโภคในฮังการีระมัดระวังการจับจ่ายมากขึ้น โดยจะเลือกซื้อสินค้าใหม่ที่จำเป็นและมีราคาถูก ตลอดจนพิจารณาซื้อสินค้ามือสองที่ยังมีคุณภาพดีมากขึ้น ดังนั้น หากผู้ผลิตและส่งออกสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์การเรียนที่มีคุณภาพแต่ราคาไม่แพง อาจมีช่องทางขายในตลาดฮังการี หรืออาจจะติดต่อกับสถาบันการศึกษาโดยตรง เพื่อสร้างเครือข่าย และประชาสัมพันธ์สินค้าออกสู่ตลาด

 

อนึ่ง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับเทคโนโลยีระบบ 5G อันเป็นเทคโนโลยีสำคัญของโลก เริ่มเข้ามามีบทบาทในการจัดการเรียนการสอนในทั้งห้องเรียนและระบบ e-Learning มากขึ้น ถึงแม้ภาวะโรคระบาดจะสิ้นสุดลงโดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาเอกชน ดังนั้น อุปกรณ์สื่อการสอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสื่อดิจิทัล เช่น จอโทรทัศน์แบบ Smart TV คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน แท็บเลต โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เครื่องโปรเจคเตอร์ และสื่อออนไลน์ จึงมีบทบาทมากขึ้นในสถานศึกษา ทั้งนี้ ผู้ส่งออกไทยอาจแสวงหาคู่ค้าที่มีสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มและสามารถส่งเสริมการผลิตได้ดีขึ้น เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ประกอบ ซึ่งเป็นสินค้าหลักประเภทหนึ่งที่ไทยส่งออกมายังฮังการี นอกจากนี้ ยังมีสินค้าหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

 

สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ ขอแนะนำงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในฮังการีในช่วงปี 2566-2567 ดังต่อไปนี้

  1. งานแสดงสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และระบบอัตโนมัติ Electrosub
    ณ ศูนย์ประชุม Europa Event Center กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
    ระหว่างวันที่ 11-12 ตุลาคม 2566
    เว็บไซต์ผู้จัดงาน: https://electrosub.hu/
  1. งานแสดงสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ InnoElectro
    ณ ศูนย์ประชุม MOM Event Center กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
    ระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน 2567
    เว็บไซต์ผู้จัดงาน: https://innoelectro.com/en

 

ที่มาของข้อมูล

 

มอนเตเนโกรระงับการนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์จากเนื้อสุกรจาก 43 ประเทศทั่วโลก 🐷 เนื่องจากโรค ASF ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้ส่งออกเนื้อสุกรจากไทย

สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์
11-15 กันยายน 2566

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login