ประเทศไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศต้นๆ ที่ชาวไต้หวันนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ซึ่งนับเป็นโอกาสของไทยในการเผยแพร่วัฒนธรรม อาหาร สินค้า สปา และรวมถึงธุรกิจโรงแรม เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในหมู่ชาวไต้หวันที่เคยไปเที่ยวเมืองไทย นำมาสู่ความชอบรับประทานอาหารไทย พักผ่อนโรงแรมในไทย ซึ่งสำหรับชาวไต้หวันแล้ว ถือว่ามีความคุ้มค่าสูงมาก ทั้งคุณภาพ ความสวยงามของโรงแรม ทัศนียภาพ อาหาร และราคาที่พัก ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้นักลงุทนชาวไต้หวันที่มีธุรกิจในเชียงใหม่ได้กลับมาสร้างโรงแรมโดยตกแต่งบรรยากาศแบบไทยขึ้น ในกลางเมืองเจียอี้ ซึ่งถือเป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของไต้หวัน โดยใช้ชื่อ โรงแรม Anna King ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดตะวันออกที่ถือเป็นตลาดสดเก่าแก่นับร้อยปีของเจียอี้ ตัวอาคาร 5 ชั้น สี Peacock Blue ที่ถูกประดับประดาด้วยเส้นสายสีทอง ทำให้ดูแล้วมีความโดดเด่นและสะดุดตาเป็นอย่างมาก จนทำให้โรงแรมแห่งนี้กลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตแห่งใหม่ของเจียอี้ในหมู่ชาวไต้หวันและชาวต่างชาติที่มีโอกาสได้มาเยือนเมืองแห่งนี้
นายหวงเฉาหยุน เจ้าของโรงแรมเปิดเผยว่า แรงบันดาลใจของการออกแบบตกแต่งโรงแรมแห่งนี้ มาจากภาพยนตร์ Anna and the King จึงมีการนำงานออกแบบและหัตถศิลป์ของไทย มาวางประดับตกแต่งอยู่มากมาย เพื่อสร้างบรรยากาศให้คล้ายกับฉากต่างๆ ในภาพยนตร์ อันจะทำให้แขกผู้มาเยือนมีความรู้สึกแบบเสมือนได้ไปอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่บานประตูใหญ่ด้านหน้าที่เป็นงานประติมากรรมโลหะฝังบานประตูไม้ซึ่งนำเข้าจากประเทศไทย โดยอุปกรณ์ตกแต่ง เช่น โคมไฟ งานไม้แกะสลัก และของประดับตกแต่งต่างๆ ที่ประดับทั่วโรงแรม ทั้งห้องโถงใหญ่ ระเบียง ทางเดิน ห้องอาหาร ลิฟท์ ห้องน้ำ และห้องพัก ต่างก็เปี่ยมไปกลิ่นอายของประเทศไทย โดยเฉพาะในส่วนของห้องพัก ที่มีอยู่ 51 ห้องได้ถูกตกแต่งให้มีบรรยากาศแบบไทยประยุกต์ พร้อมตั้งชื่อตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของไทย เช่น พัทยา เชียงใหม่ สมุย เป็นต้น
ในส่วนของร้านอาหาร ทางโรงแรมได้นำร้านอาหารไทยชื่อดังจากเชียงใหม่ คือ ร้าน Woo Café มาเปิดให้บริการอยู่ในชั้น 1 ของโรงแรม โดยนำเชฟจากประเทศไทยมาควบคุมดูแลการปรุงอาหาร จึงทำให้สามารถเสิร์ฟอาหารไทยที่ได้รสชาติแบบไทยแท้ พร้อมทั้งมีบริการเสิร์ฟอาหารเช้าแบบไทยสำหรับแขกที่มาเข้าพักด้วย
ปัจจุบัน ประเทศไทยแทบจะกลายเป็นตัวแทนของฤดูร้อนในความคิดของชาวไต้หวัน ห้างร้านและโรงแรมต่างหันมาจัดเทศกาลไทยกันอย่างคึกคักนับตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นเทศกาลสงกรานต์ไปจนถึงราวเดือนสิงหาคมของทุกปี ล่าสุด Renaissance Taipei Shihlin Hotel ที่เป็นโรงแรมในเครือ Marriott Hotel ก็ได้จัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 5 ปีด้วยการนำเชฟใหญ่ของร้านอาหารไทยจากโรงแรม Renaissance Phuket มาประจำอยู่ในร้านอาหารตะวันตกของโรงแรม พร้อมจัดเทศกาลอาหารไทยในแบบบุพเฟต์ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ โดยนำเสนออาหารไทยใน 4 ธีมหลัก ได้แก่ แบบไทยเหนือ ไทยใต้ ตลาดนัดกลางคืน และอาหารทะเล ซึ่งมีอาหารไทยรวมนับสิบเมนูมาให้เลือกรับประทานได้อย่างจุใจ
ที่มา : United Daily News / NOWnews (August 08, 2023)
ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.
Soft Power ของไทยที่ได้รับความนิยมและสะท้อนให้เห็นในไต้หวันอันดับต้นๆ คือ อาหารไทย โดยปัจจุบันมีร้านอาหารไทยกระจายตัวอยู่ในไต้หวันนับพันแห่ง โดยส่วนใหญ่เจ้าของเป็นชาวไต้หวัน อย่างไรก็ดี Brand ร้านอาหารไทยที่มาเปิดในไต้หวัน อย่าง Nara และบ้านผัดไทย สามารถเติบโตได้ดีมากในไต้หวัน และขยายสาขาจนมีจำนวนสาขาในไต้หวันมากกว่าในไทย และประเทศอื่นๆ ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ Brand ไทยอื่นๆ ที่สนใจเข้ามายังตลาดไต้หวัน
นอกจากนี้ ปัจจุบันเริ่มมีสวนอาหารขนาดใหญ่ที่ตกแต่งในสไตล์ไทยเปิดตัวมากขึ้น เช่น ร้านเกาเจี่ยวอู ที่เมืองผิงตง ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศของไต้หวัน โดยทางร้านได้นำเรือนไทยขนาดใหญ่ และศาลาไทยมาตั้งไว้ในร้าน โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปถ่ายภาพเช็คอิน และยังมีสวนอาหารไทยกุ้ยหลิน ในเมืองหยุนหลิน ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยที่ได้รับตราเครื่องหมาย THAI SELECT ก็ได้นำเอาประติมากรรมและงานศิลปะแบบไทยแต่งประดับตกแต่งร้านจนทำให้มีชาวไต้หวันเข้าไปถ่ายภาพเช็คอินได้เช่นกัน และจากการเปิดตัวของโรงแรม Anna King ที่ตกแต่งภายในให้มีบรรยากาศไทยสำหรับการถ่ายภาพเช็คอิน แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการบริโภคของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์และความประทับใจในการไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ผ่านการเช็คอินถ่ายภาพลงสื่อ Social Media นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าตลาดโรงแรมของไต้หวันถือเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสำหรับงานออกแบบและสถาปัตยกรรมของไทยเช่นกัน
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)
