การคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศญี่ปุ่นสำหรับปีงบประมาณ 2568 ที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2568 ได้ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1.8 ล้านล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4.32 แสนล้านบาท) จากการคาดการณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 50 ล้านล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 12 ล้านล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นกำไรสูงสุดเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน นอกจากนี้ ธุรกิจการท่องเที่ยวขาเข้าและธุรกิจบันเทิงยังคงเติบโตได้ดี และเงินเยนที่อ่อนค่าก็มีส่วนช่วยเพิ่มผลกำไรเช่นกัน
ประมาณ 230 บริษัท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนบริษัททั้งหมดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้ปรับประมาณการผลประกอบการขึ้น การปรับขึ้นนี้มีสาเหตุหนึ่งมาจากการรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเท่าที่เคยมีมา บริษัท ANA Holdings มีการใช้บริการสายการบินระหว่างประเทศที่คึกคัก จึงได้เพิ่มประมาณการกำไรสุทธิขึ้น 20,000 ล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4.8 พันล้านบาท) ส่วนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Mitsui Fudosan พบว่าอัตราค่าเฉลี่ยห้องพักในโรงแรมปรับตัวสูงขึ้น
ด้านทรัพย์สินทางปัญญาก็มีผลประกอบการที่ดีเช่นกัน Sony Group ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิขึ้น 1 แสนล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท) เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการใช้บริการเกมออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะมีผลกำไรสูงสุด Bandai Namco ก็ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิขึ้น 1.8 หมื่นล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4.32 พันล้านบาท) จากการออกเกมใหม่ดรากอนบอล ส่วน Sanrio และ Konami เองก็ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิขึ้นเช่นกัน
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในญี่ปุ่นในปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 36,869,900 คน รัฐบาลญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีจำนวนชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นและจะเกิน 40,000,000 คน ตลาดที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวขาเข้าคาดว่าจะเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป และความต้องการในธุรกิจบริการ เช่น การจัดหาห้องพักโรงแรมและการรับประทานอาหารนอกบ้านจะขยายตัวต่อไปในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าของไทยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าว
อ่านข่าวฉบับเต็ม : กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านล้านเยน ธุรกิจการท่องเที่ยวขาเข้าและบันเทิงเติบโตดี
