Nielsen IQ บริษัทชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภคของโลก เป็นผู้นำในการนำเสนอมุมมองพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพลวัตของ 2 ตลาดที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ในรายงาน State of Nation สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในตลาด สินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้เร็วหมด (FMCG) และ สินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสินค้าคงทน (Tech and Durables Segment :T&D) ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออีและประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยพบว่ายูเออีมีการเติบโตของสินค้า FMCG แข็งแกร่งที่ร้อยละ 4.1% สินค้า T&D เติบโตที่ร้อยละ 2.8 และรูปแบบการค้าแบบดั้งเดิมขยายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.4 ซึ่งสูงกว่าการค้าแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) อย่างมาก ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียมีสินค้า FMCG เติบโตที่ร้อยละ 1.8 ขณะที่สินค้า T&D ลดลงเล็กน้อย ร้อยละ 1.1 ส่วนการค้าแบบดั้งเดิม เติบโตที่ร้อยละ 2.4 ซึ่งเหนือกว่าการค้าแบบสมัยใหม่
สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและพลวัตตลาด
สองประเทศมหาอำนาจของ GCC ยังมีผลงานที่ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานโลกในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่
- ยูเออี คาดว่าจะมีการเติบโตที่น่าประทับใจที่ร้อยละ 4 ในปี 2567 การเติบโตจะเร่งตัวขึ้นเป็นร้อยละ 1 ในปี 2568 ถูกขับเคลื่อนโดยกิจกรรมที่แข็งแกร่งในภาคการท่องเที่ยว การก่อสร้าง และบริการทางการเงิน
- ซาอุดีอาระเบีย คาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 5 ในปี 2567 การเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.6 ใน ปี 2568 เนื่องจากมีการกระจายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทั้งสองตลาดสามารถรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำมากเป็นพิเศษ โดยยูเออีที่ร้อยละ 2.4ซาอุดิอาระเบีย ที่ร้อยละ 1.7 อัตราเงินเฟ้อเหล่านี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ ร้อยละ 5.8 อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคงสำหรับการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ความอ่อนไหวในการส่งเสริมการขาย และพฤติกรรมผู้บริโภค
รายงานเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การตลาดในซาอุดีอาระะเบียและยูเออี โดยมีจุดสนใจในกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดราคาแบบชั่วคราว (Temporary Price Discounts :TPR) หรือส่วนลดราคาชั่วคราว โดยซาอุดีอาระเบียมีการเพิ่มขึ้นของการโปรโมชั่นสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างมาก โดยมีการลดราคาแบบชั่วคราว (TPR) เป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายที่โดดเด่น ส่วนยูเออีรักษาระดับการส่งเสริมการขายคงที่ โดยมีการเพิ่มขึ้นของ TPR ร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีก่อน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคและตลาดในภูมิภาคเหล่านี้
ผลกระทบต่อแบรนด์และผู้ค้าปลีก
รายงานได้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่เป็นจุดเด่นว่า คุณภาพยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคในทั้งสองตลาด ผู้บริโภคร้อยละ 72 เต็มใจที่จะจ่ายราคาพรีเมียมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง แต่ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในยูเออีนั้นแสดงให้เห็นถึงการแบ่งขั้วที่ชัดเจนระหว่างแบรนด์ราคาประหยัด (เติบโตร้อยละ 15) และแบรนด์พรีเมียม (เติบโตร้อยละ 20) ในทางตรงกันข้าม ตลาดซาอุดีอาระเบียขับเคลื่อนโดยแบรนด์หลักเป็นส่วนใหญ่ โดยแสดงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ร้อยละ 14 และทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด
นอกจากนี้ รายงานยังชี้ให้เห็นว่าการค้าแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) กำลังมีแรงขับเคลื่อนที่น่าทึ่ง โดยเติบโตเร็วกว่าการค้าสมัยใหม่ (Modern Trade) ในทั้งสองตลาด โดยการค้าแบบดั้งเดิมในยูเออีเติบโตอย่าง น่าประทับใจที่ร้อยละ 6.4 และซาอุดีอาระเบียเติบโตที่ร้อยละ 2.4 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของความชอบในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค
ผลการดำเนินงานของกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG)
ทั้งสองตลาดแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณที่น่าพอใจใน MAT Q3’24 โดยยูเออีบันทึกการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่สำคัญที่ร้อยละ 4.1% และการเติบโตของปริมาณร้อยละ 2.8 ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียแสดงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยการพิ่มของมูลค่าร้อยละ 1.8% และการเติบโตของปริมาณร้อยละ 1.9%
หมวดอาหารแช่แข็ง และ ผลิตภัณฑ์นมเป็นผู้นำการเติบโตในทั้งสองตลาด โดยเฉพาะในซาอุดีอาระเบียที่ขนมขบเคี้ยวโดดเด่นในฐานะอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุด
หมวดหมู่อาหารแช่แข็งและผลิตภัณฑ์นมเป็นผู้นำการเติบโตในทั้งสองตลาดโดยเฉพาะในซาอุดีอาระเบียที่ขนมขบเคี้ยว (Snacking) โดดเด่นในฐานะอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุด
อิทธิพลของโลกดิจิทัลและการบริโภคอย่างชาญฉลาด E-commerce ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตแบบสองหลักอย่างแข็งแกร่งในทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในหมวดหมู่ที่ไม่ใช่อาหาร สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับดิจิทัลที่เร่งตัวขึ้นในหมู่ผู้บริโภค นอกจากนี้เพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านต้นทุน ผู้บริโภคเลือกที่จะซื้อของออนไลน์เพื่อรับข้อเสนอที่ดีกว่า ลดการเดินทาง และประหยัดค่าน้ำมัน การเปลี่ยนแปลงนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสะดวกสบายและความสามารถในการตัดสินใจใช้จ่ายของผู้บริโภค
กลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าคงทน
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสินค้าคงทน (T&D) แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง โดยยูเออีมีการเติบโตร้อยละ 2.8 ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียประสบกับการลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.1 การเติบโตของยูเออีขับเคลื่อนหลักโดยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งใน แท็บเล็ต (+ร้อยละ 11) สมาร์ทวอทช์ (+ร้อยละ 3) และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (+ร้อยละ 6)
ภาคโทรคมนาคม ซึ่งมีส่วนแบ่งรายได้ร้อยละ 50 ของทั้งสองตลาด แสดงแนวโน้มที่แตกต่างกัน นำโดยการเติบโตในยูเออี แต่ประสบกับการถดถอยในซาอุดีอาระเบีย
ทั้งสองตลาดแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่น่าทึ่ง โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานอยู่ประมาณ 45,000 รายการในแต่ละตลาด และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึง 19,000 รายการต่อปี
แม้ว่าผลิตภัณฑ์พรีเมียมจะยังคงครองยอดขายอยู่ แต่ผู้เล่นในตลาดสินค้าราคาประหยัดกำลังได้รับส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงความชอบของผู้บริโภคและพลวัตของตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลง
สรุป
เพื่อสนับสนุนผู้ซื้อ ธุรกิจควรพิจารณาเสนอส่วนลดและตัวเลือกในการซื้อจำนวนมากมากขึ้น และต้องเน้นย้ำถึงคุณค่าและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อรักษาและดึงดูดลูกค้า ธุรกิจควรใช้กลยุทธ์การขายออนไลน์มากขึ้นเพื่อลดต้นทุนหน้าร้านและเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นให้กับผู้ซื้อที่มองหาข้อเสนอพิเศษทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งข้อมูลในการวิเคราะห์จะสามารถช่วยให้บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ค้าปลีกชั้นนำที่เข้าไปในตลาดยูเออีและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นตลาดหลักของภูมิภาคตะวันออกกลาง สามารถคาดการณ์พฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในทุกแพลตฟอร์มการค้าปลีก ใช้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและชัดเจน
อ่านข่าวฉบับเต็ม : NielsenIQ เผยอินไซต์ผู้บริโภคยูเออี หันลดค่าใช้จ่าย-ซื้อของลดราคา