หน้าแรกTrade insightการค้าระหว่างประเทศ > FDI กัมพูชายังคงเติบโต สวนทางกับเศรษฐกิจโลก

FDI กัมพูชายังคงเติบโต สวนทางกับเศรษฐกิจโลก

  • FDI หรือการลงทุนจากต่างประเทศในกัมพูชายังคงมีเสถียรภาพ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค แม้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงยืดเยื้อ พร้อมกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงดำเนินต่อไป
  •  นาย Chea Vuthy รองเลขาธิการคณะกรรมการการลงทุนและคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษกัมพูชาของ CDC เปิดเผยว่า เนื่องจากกัมพูชามีศักยภาพทางเศรษฐกิจ สันติภาพ เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ และภาคเอกชนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่สำคัญ ได้ทำให้การไหลเข้าของการลงทุนจากต่างประเทศในกัมพูชาถือว่าดีที่สุดในกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  •  กัมพูชาได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ทั้งนี้ ในปี 2563 อาเซียนได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศลดลงประมาณร้อยละ 40 แต่กัมพูชายังได้ที่ประมาณ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  •  อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกัมพูชาได้ติดอันดับ 1 ในการลงทุนทั้งหมด เนื่องจากความเชื่อมั่นสถานการณ์การลงทุนภายในประเทศและความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชา ในขณะที่ด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) คือ การลงทุนจากจีน มีอัตราสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 42.1 ไทย ร้อยละ 1.09 ญี่ปุ่น ร้อยละ 0.98 Cayman Islands ร้อยละ 0.52 Samoa ร้อยละ 0.50 เกาหลีใต้ร้อยละ 0.45 British Virgin Islands ร้อยละ 32 สิงคโปร์ ร้อยละ 0.31 และมาเลเซีย ร้อยละ 0.19
  • ทั้งนี้ วงเงินลงทุนครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2566 มีจำนวน 128 โครงการ (เงินลงทุน 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เทียบกับ 111 โครงการ (เงินลงทุน 3.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565
  • โดย ตัวเลขการลงทุนในประเทศตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2565 ระบุว่า การเติบโตของการลงทุนด้านการท่องเที่ยวมีปริมาณมากที่สุดอยู่ที่ ร้อยละ 40 ภาคอุตสาหกรรม ร้อยละ 25.5 โครงสร้างพื้นฐานประมาณ ร้อยละ 30.6 และภาคการเกษตรยังมีจำนวนน้อย ร้อยละ 3.8
  • การลงทุนในจังหวัดส่วนใหญ่อยู่ระหว่างร้อยละ 70-80 และในพนมเปญอยู่ระหว่างร้อยละ 20-30 การลงทุนระดับจังหวัดได้กระจายไปยังบางจังหวัด ได้แก่ กันดาล กัมปงสปือ สวายเรียง กรุงพระสีหนุ ตาแก้ว และจังหวัดอื่นๆ

ความเห็นของสำนักงานฯ

  1. กัมพูชากำลังถูกจับตามองว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าลงทุนที่สุดในกลุ่ม CLMV โดยมีโอกาสการลงทุนที่สดใส มีแนวโน้มการเติบโตด้านการส่งออกที่ชัดเจนมาก โดยเฉพาะการค้ากับสหรัฐอเมริกา แม้ว่าปัจจุบันปริมาณการส่งออกได้ลดลงบ้างเล็กน้อย เนื่องจากทั่วโลกกำลังประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ
  2. ในมุมมองของนักลงทุน กัมพูชา คือ คำตอบของการควบคุมต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี เนื่องจากกัมพูชามีต้นทุนการผลิตต่ำ จึงได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น และด้วยแรงสนับสนุนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) จึงมีแนวโน้มว่านักลงทุน เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เริ่มเปลี่ยนฐานการผลิตมาสู่กัมพูชา เนื่องจากกัมพูชามีเสถียรภาพทางการเมือง มีนโยบายที่เป็นมิตรกับการลงทุนมาโดยตลอด และกัมพูชามีกำลังซื้อจากประชากรในวัยทำงานเพิ่มมากขึ้น และยังมีฐานะดีขึ้นอีกด้วย จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเฉลี่ยมากถึง 7-8% ต่อปี ทำให้ประชากรกัมพูชามีฐานะทางเศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันชนชั้นกลางสัดส่วน 20% ของประชากรทั้งหมดนั้นมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ขยายตัวหลังวิกฤตโควิด-19 ตลอดจนโครงสร้างด้านประชากรศาสตร์ที่มีประชากรในวัยทำงานมากขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยด้านการค้าเสรีในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นกลไกผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้นในกัมพูชา
  3. กลุ่มธุรกิจที่โดดเด่นมากเป็นพิเศษในกัมพูชา คือ อุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และรองเท้า ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจเกี่ยวข้องกับการเกษตร และการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ตัวแทนการท่องเที่ยว และบริการขนส่ง เป็นที่น่าจับตามองและน่าสนใจลงทุน สำหรับนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมาก

—————————

Phnom Penh Post

สิงหาคม 2566

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ, กัมพูชา

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login