จาการ์ตา (ANTARA) – สำนักงานรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาล (BPJPH) ภายใต้กระทรวงกิจการศาสนา แสดงความมุ่งมั่นที่จะประสานความร่วมมือกับกระทรวงสหกรณ์และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการเร่งรัดการรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาลแก่ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ“ผู้ประกอบธุรกิจ SME สามารถยื่นขอการรับรองฮาลาลได้โดยตรงโดยใช้โปรแกรมการรับรองฮาลาล (Sehati) ฟรี ซึ่งมีโควต้าจำนวนถึงหนึ่งล้านหน่วยสำหรับปี 2566” Aqil Irham หัวหน้า BPJPH กล่าวในแถลงการณ์
กระทรวงกิจการศาสนาเสนอโปรแกรมนี้ให้กับ SMEs ที่ส่งเสริมโดยกระทรวงสหกรณ์และ SMEs (Kemenkop UKM) เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการรับรองฮาลาลได้ โครงการเร่งรัดการรับรองฮาลาล เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดว่าอินโดนีเซียจะมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองฮาลาล 10 ล้านชิ้นในปี 2567 ซึ่งอินโดนีเซียยังตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ฮาลาลระดับโลกภายในปี 2567
“เราหวังว่ากระทรวงสหกรณ์และ SMEs จะให้การสนับสนุนในการอำนวยความสะดวกการออกใบรับรองฮาลาลให้กระจายทั่วถึงผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด อำเภอ และเมืองทั่วอินโดนีเซีย”
Irham เน้นย้ำว่าการรับรองฮาลาลเป็นกุญแจสำคัญในการให้ความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยแก่ผู้บริโภค เนื่องจากต้องครอบคลุมหลายขั้นตอนเพื่อรับประกันผลิตภัณฑ์ว่าฮาลาล เขาอธิบายว่าผู้บริโภคควรตระหนักว่าหลักการฮาลาลถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตหรือไม่และอย่างไร ตั้งแต่ส่วนผสม การแปรรูป การบรรจุ จนถึงการนำเสนอ
ในขณะเดียวกัน Rahmadi ผู้ช่วยฝ่ายอำนวยความสะดวกและคุ้มครองธุรกิจขนาดเล็ก กระทรวงสหกรณ์และ SMEs กล่าวว่า “กระทรวงสนับสนุน BPJPH อย่างมากในโครงการรับรองฮาลาลฟรีหนึ่งล้านรายการ” ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข่งขันให้กับผลิตภัณฑ์ของธุรกิจขนาดเล็กในอินโดนีเซีย
วิเคราะห์ผลกระทบ โอกาส/แนวทางการปรับตัวของภาครัฐ/ภาคเอกชน/ผู้ประกอบการไทย
สำนักงานรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาล (BPJPH) ภายใต้กระทรวงกิจการศาสนา ร่วมมือกับกระทรวงสหกรณ์และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการเร่งรัดการรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาลแก่ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศจำนวนหนึ่งล้านในปี 2566
อินโดนีเซียเป็นประเทศมุสลิมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก การส่งเสริมตรารับรองฮาลาลในผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของอินโดนีเซียเป็นขั้นตอนรองรับตามประกาศรัฐบาลอินโดนีเซีย ฉบับที่ 39/2021 ว่าด้วยองค์การรับรองผิตภัณฑ์ฮาลาลของอินโดนีเซีย ที่กำหนดให้สินค้าที่จำหน่ายในอินโดนีเซียต้องได้รับการรับรองฮาลาล โดยปัจจุบันเป็นช่วงยกเว้นแก่ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ระหว่าง 17 ตุลาคม 2562 – 17 ตุลาคม 2567 กล่าวคือหลังจาก 17 ตุลาคม 2567 ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ที่จำหน่ายในอินโดนีเซียต้องแสดงตรารับรองฮาลาล ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์สินค้าไทยในอินโดนีเซียที่ยังไม่มีตรารับรองฮาลาลจะได้รับผลกระทบหลังพ้นกำหนดดังกล่าว
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)