หน้าแรกTrade insightอาหารอื่นๆ > ไต้หวันเตรียมผ่อนคลายความเข้มงวดในการนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง

ไต้หวันเตรียมผ่อนคลายความเข้มงวดในการนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง

คณะกรรมการการเกษตรของไต้หวัน (Council of Agriculture) ได้ส่งหนังสือเวียนต่อประเทศสมาชิก WTO เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ตามเอกสาร G/SPS/N/TPKM/616 ว่าด้วยการผ่อนคลายกฎระเบียบการนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยง (Quarantine Requirements for the Importation of Dog and Cat food) ซึ่งจะลดขอบเขตสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงจำพวกอาหารสุนัขและแมวจากประเทศสมาชิกของ WTO ที่ต้องควบคุมหรือหรือจัดระเบียบนำเข้าลง โดยจะผ่อนปรนให้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์ที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนสูง เช่น อาหารกระป๋อง หรืออาหารแห้งอัดเป็นเม็ด ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปเม็ดหรือแคปซูล ที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์ดั้งเดิมจากโรงงาน ไม่เป็นสินค้าที่ต้องควบคุมอีกต่อไป ส่งผลให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูงและบรรจุในบรรจุภัณฑ์มิดชิดไปไต้หวันโดยไม่มีข้อจำกัด

อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าอาหารสัตว์ที่ผลิตจากเนื้อสัตว์ที่ผ่านกรรมวิธีผลิตด้วยอุณหภูมิต่ำยังคงต้องดำเนินขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง เช่นการขึ้นทะเบียนเป็นโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงไปไต้หวัน และจะต้องแนบใบรับรองสุขอนามัยผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เนื่องจากไทยยังไม่ได้ดำเนินการให้ไต้หวันยอมรับว่าไทยเป็นเขตปลอดการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อย โรคนิวคาสเซิล และโรคไข้หวัดนก

ร่างระเบียบดังกล่าวอยู่ระหว่างการเปิดให้แสดงความเห็นต่อการแก้ไขระเบียบได้ภายใน 60 วันนับจากวันประกาศ (สิ้นสุด วันที่ 11 สิงหาคม 2023)

ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.

ไทยเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่สำคัญอันดับ 1 ของไต้หวัน โดยมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 37 ของการนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของไต้หวัน การผ่อนคลายกฎระเบียบการนำเข้าโดยลดขอบเขตสินค้าที่ต้องควบคุมหรือจัดระเบียบการนำเข้า นับว่าเป็นผลดีกับการส่งออกของไทยมายังไต้หวัน นอกจากนี้ ความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างทางสังคม ทำให้ในปัจจุบันชาวไต้หวันหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจากข้อมูลของคณะกรรมการการเกษตรไต้หวันชี้ว่า จนถึงสิ้นปี 2565 มีการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมวในไต้หวันรวมทั้งสิ้นเกือบ 3 ล้านตัว เป็นตัวเลขที่มากกว่าจำนวนประชากรเด็กที่อายุไม่ถึง 15 ปีบริบูรณ์เสียอีก และหากรวมถึงสุนัขและแมวที่ไม่ได้รับการฝังชิป น่าจะมีจำนวนรวมมากกว่า 5 ล้านตัว จึงถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login