สมาชิกของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (Vietnam Automobile Manufacturers’ Association: VAMA ) ระบุว่า ในเดือนเมษายน 2566 ยอดขายรถยนต์ทุกประเภทมีจำนวน 22,409 คัน ลดลงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยรถยนต์นั่งส่วนบุลคลมีจำนวน 15,748 คัน ลดลงร้อยละ 27 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีจำนวน 6,487 คัน ลดลงร้อยละ 19 และรถยนต์อเนกประสงค์มีจำนวน 174 คัน ลดลงร้อยละ 51 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566 ยอดขายรถยนต์ประกอบในประเทศจำนวน 13,325 คัน ลดลงร้อยละ 18 ในขณะที่ยอดขายรถยนต์นำเข้ามีจำนวน 9,084 คัน ลดลงร้อยละ 34 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2566
ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 สมาชิกของสมาคมมียอดขายรถยนต์ทั้งหมด 92,801 คัน ลดลงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรถยนต์นั่งส่วนบุลคลลดลงร้อยละ 35 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ลดลงร้อยละ 9 และรถยนต์อเนกประสงค์ลดลงร้อยละ 58 ในเดือนเมษายน 2566 Thanh Cong (TC Group) ยอดขายรถยนต์ 4,592 คัน ทำให้ยอดขายรวมในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 19,328 คัน ในขณะเดียวกัน VinFast ขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 5,487 คัน
TC Group อยู่อันดับหนึ่งที่มียอกขายมากที่สุด ตามมาด้วย Toyota จำนวน 4,247 คัน Ford จำนวน 3,298 คัน Kia จำนวน 2,656 คัน Mazda จำนวน 1,944 คัน Honda จำนวน 2,183 คัน และ Mitsubishi จำนวน 1,700 คัน
ในเดือนเมษายน 2566 รถยนต์ที่ขายดีที่สุดเป็น VinFast VF e34 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เดือนเมษายนยังเป็นเดือนที่บริษัทแท็กซี่ไฟฟ้าสีเขียว SM เปิดทำการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ VF e34 ซึ่งส่งผลดีต่อยอดขาย VF e34 ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก กำลังซื้อที่ลดลงอย่างรวดเร็วทำให้ผู้ประกอบการจำหน่ายรถยนต์ประสบปัญหาอย่างมาก ในบริบททางเศรษฐกิจที่ยากลำบากและความผันผวนในตลาดการเงินและอสังหาริมทรัพย์มีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายอย่างเข้มงวด และความสามารถในการรับมือกับปัญหาทางการเงินของธุรกิจยังไม่แข็งแกร่งพอ
(จาก https://vietnamnews.vn/ )
ข้อคิดเห็น สคต
แม้ว่า ผู้ประกอบการรถยนต์ในประเทศได้คาดการณ์ถึงความยากลำบากที่เกิดจากเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยสูงในประเทศ และมีการกระตุ้นยอดขาย โดยจัดโปรโมชั่น สนับสนุนค่าจดทะเบียน แต่ยอดขายรถยังไม่เป็นไปตามคาด โดยธนาคารขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อจำกัดอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ผู้บริโภครัดเข็มขัดการใช้จ่ายและนำเงินฝากธนาคาร และในการซื้อรถก็ยากขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังประสบปัญหาจากที่ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ธนคารส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับการสินเชื่อรถยนต์มากนัก ในช่วงที่ผ่านมาการซื้อรถยนต์ส่วนใหญ่ซื้อในรูปแบบของเงินกู้ธนาคาร แต่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้ผู้บริโภคเข้มงวดในการซื้อ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดรถยนต์และรถยนต์มือสอง ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อรถยนต์น้อยลง ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ในประเทศอย่างมาก ซึ่งหากยอดขายรถยนต์ในตลาดเวียดนามลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนจากไทยมายังเวียดนามในอนาคต
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)
