“ข่าวดี !!!” เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร (หรือ Euro Zone) พบว่า เศรษฐกิจของเยอรมันไม่ได้อย่างที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้ ในขณะที่ “ข่าวร้าย !!!” ก็คือ การที่เศรษฐกิจเยอรมันไม่ได้แย่มากนั้น ไม่ใช่เพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว เป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ ใน Euro Zone กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอยเหมือนกัน และจากการประมาณการของของ Eurostat เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของ Euro Zone โดยเฉลี่ยลดลง 0.1% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สำหรับประเทศที่ถือเป็นแชมป์ในด้านเศรษฐกิจในไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ ลัตเวียและเบลเยียม เพราะเศรฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.6% และ 0.5% ตามลำดับ ในขณะที่ประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจแย่ที่สุด ได้แก่ ไอร์แลนด์และออสเตรีย โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ หดตัว 1.8% และ 0.6% ตามลำดับ ในบรรดา 4 ประเทศหลักด้านเศรษฐกิจ สเปนมีการขยายตัวที่ดีอย่างน่าทึ่ง โดยเศรษฐกิจของสเปนขยายตัว 0.3% หลังจากที่ในไตรมาสก่อนหน้าก็ขยายตัวขึ้น 0.4% และ 0.6%
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนี ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 อยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสที่ 4 ปี 2019 ซึ่งพูดง่าย ๆ ว่า ขยายตัวเท่ากับช่วงก่อนการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเยอรมนี ในสหภาพยุโรปโดยรวม GDP ที่แท้จริงสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดถึง 3.5% โดยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจะมีก็เพียงสาธารณรัฐเช็กเท่านั้นที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเลวร้ายกว่าในเยอรมนี โดยเศรษฐกิจของสเปนขยายตัวเพิ่มขึ้น 3% ในขณะที่ ฝรั่งเศสและอิตาลี เศรษฐกิจขยายตัว 2% โดยประมาณ หากตั้งสมมติฐานว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีขยายตัว 3.5% เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป GDP ในปีนี้จะสูงขึ้นคิดเป็นมูลค่า 120 พันล้านยูโร หรือเทียบเท่ากับมูลค่าของรถยนต์ Volkswagen รุ่น Golf ใหม่จำนวน 4 ล้านคัน และเมื่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจเติบโต 120 พันล้านยูโร จะทำให้หน่วยงานด้านภาษีมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นประมาณ 30 พันล้านยูโร และบริษัทประกันสังคมก็จะมีส่วนสนับสนุนเพิ่มเติมในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างได้ง่ายขึ้น จากการสอบถามนักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg พบว่า มีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีไตรมาสที่ 4 น่าจะหดตัวลง 0.1% โดยในช่วงวันส่งท้ายปี โดยเฉลี่ยตลอดทั้งปีเศรษฐกิจของเยอรมนีน่าจะหดตัว 0.2% หรือ 0.3% เว้นแต่สำนักงานสถิติกลางจะแก้ไขอะไรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ถูกนำมาแสดงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ดีขึ้น โดยการผลิตในภาคอุตสาหกรรม การค้าระหว่างประเทศ และการค้าปลีก ในเดือนกันยายนไม่ได้ดีตามที่คาดไว้ และอาจทำให้นักสถิติต้องปรับตัวเลขลงอีก เพราะเมื่อประมาณการการพัฒนาทางเศรษฐกิจแบบด่วน ในช่วงไตรมาสที่ 3 เหล่านักสถิติต้องอาศัยการคาดการณ์เป็นหลัก เนื่องจากมีข้อมูลในการคำนวณไม่เพียงพอ ขณะนี้เราก็ทราบแล้วว่า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิตมีกำลังลดลง 1.4% ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง ภาคการส่งออกของเยอรมนีก็ลดลง 2.4% การนำเข้าลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และบริษัทค้าปลีกมียอดขายลดลงกว่าเดือนก่อน 0.8% ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าเป็นการเริ่มต้นไตรมาสที่ 4 ที่ไม่ค่อยดีเอาเสียเลย และล่าสุดดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจของสถาบันเพื่อการวิจัยทางเศรษฐกิจ ของมหาวิทยาลัยมิวนิค (Ifo – Institut für Wirtschaftsforschung an der Universität München) พบว่า เศรษฐกิจเยอรมนีได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของธนาคาร Hamburg Commercial Bank (HCOB) ได้ไต่ขึ้น อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน โดยอยู่ที่ 40.8 จุด ซึ่งก็ยังต่ำกว่าเกณฑ์การเติบโตที่ 50 จุดอยู่มาก ด้านนาย Cyrus de la Rubia หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก HCOB กล่าวว่า “การพัฒนาเศรษฐกิจของเยอรมนีนั้นคล้ายคลึงกับเครื่องบินที่กำลังจะลงจอด โดยจะลดความเร็วลงเมื่อเครื่องบินไกล้จะลงถึงพื้น” จริงๆ แล้วในเดือนตุลาคมกำลังการผลิตในธุรกิจภาคการผลิตยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะลดกำลังลงช้ากว่าในเดือนก่อนหน้าก็ตาม
สำหรับ ธุรกิจบริการ (ไม่รวมบริการทางการเงินและประกันภัย) ยังดำเนินไปได้ค่อนข้างดี จากตัวเลขล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2023 ยอดขายเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับยอดขายของเดียวกันของปีที่ 2022 ยอดขายตามปีปฏิทินหลังการหักลบค่าแปรผันตามฤดูกาลขยายตัวขึ้น 3.5% อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่า ยอดขายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงมีสัญญาณของการชะลอตัวเช่นกัน ในอดีตตามประสบการณ์แสดงให้ทราบว่า ความอ่อนแอทางเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) ในเยอรมนีมักจะจบลงด้วยการขยายตัวขึ้นของธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งหลังจากนั้นนำไปสู่การลงทุนและรายได้ที่เพิ่มขึ้นในประเทศ สำหรับตอนนี้ “ Kiel Trade Indicator” จากสถาบันเศรษฐกิจโลก (Ifw – Institut für Weltwirtschaft) ก็ขยายตัวขึ้นเมื่อต้นไตรมาสที่ 4 อย่างเห็นได้ชัด นักเศรษฐศาสตร์จาก Ifw แจ้งในรายงานว่า ในเดือนตุลาคม 2023 การค้าโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากที่เดือนก่อน มีการอ่อนกำลังลงมาก โดยครั้งสุดท้ายที่มีการเพิ่มกำลังขึ้นอย่างแข็งแกร่งอย่างเช่นในปัจจุบันก็คือในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักสถิติ IFW เขียนในรายงานว่า “ตัวเลขการซื้อขายที่แข็งแกร่งเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับไตรมาสที่ 4” การปรับตัวขึ้นนี้ได้รับแรงผลักดันจากประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปอื่น ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจริงๆ เมื่อพิจารณาจากประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่ลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ใน Euro Zone ซึ่งอย่างน้อยก็ยังมีแสงแห่งความหวังหลงเหลืออยู่บ้าง
จาก Handelsblatt 8 ธันวาคม 2566
อ่านข่าวฉบับเต็ม : เศรษฐกิจเยอรมนียังทรงตัว…ไม่หดตัวลงแล้ว