หน้าแรกTrade insightการค้าระหว่างประเทศ > เซ็นแล้ว 5,000 ตัน! กล้วยอีสานพร้อมผงาดในตลาดญี่ปุ่น

เซ็นแล้ว 5,000 ตัน! กล้วยอีสานพร้อมผงาดในตลาดญี่ปุ่น

เซ็นแล้ว 5,000 ตัน! กล้วยอีสานพร้อมผงาดในตลาดญี่ปุ่น
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) นำคณะผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นเดินทางมาเซ็นสัญญาซื้อกล้วยจากกลุ่มเกษตรกรอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมาเป็นจำนวน 5,000 ตัน เป็นเม็ดเงินที่ลงสู่กลุ่มเกษตรกรโดยตรงกว่า 100 ล้านบาท
นางสาวณัฐิยา สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้เป็นสักขีพยานในการเซ็นสัญญาซื้อขายกล้วยหอมไทย ระหว่างกลุ่มเกษตรกรอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และคณะผู้ซื้อชาวญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแคนทารี โคราช จังหวัดนครราชสีมา ตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ซึ่งให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส โดยเน้นการรดน้ำที่รากดูแลคนตัวเล็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเกษตรกร โดยให้ใช้การทำงานเชิงรุกและบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ รวมทั้งให้เร่งใช้ประโยชน์จากผลของการเจรจา FTA ที่มีอยู่ มาใช้ในการผลักดันให้มีปริมาณการส่งออกของสินค้าไทยสู่ตลาดโลกได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งในส่วนของการส่งออกกล้วยนั้น ประเทศไทยเองก็ได้รับสิทธิประโยชน์จากกรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น (JTEPA) ซึ่งยกเว้นภาษีให้กล้วยจากประเทศไทยเป็นจำนวน 8,000 ตันต่อปีอยู่แล้ว
แต่ที่ผ่านมาเราเองกลับใช้ประโยชน์ได้ไม่ถึงครึ่งของโควต้าดังกล่าว จึงเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีในการเพิ่มการส่งออกกล้วยผ่านช่องทางดังกล่าวนี้ตามนโยบายที่ได้รับมา จนในวันนี้กรมสามารถสร้างผลลัพธ์เร่งด่วนในแบบ Quick win ได้สำเร็จภายใน 100 วัน ด้วยยอดขายได้ถึง 100 ล้านบาทเลยทีเดียว
สำหรับที่มาของการเซ็นสัญญาสั่งซื้อกล้วย จำนวน 5,000 ตัน ของผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นในครั้งนี้
นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้จับมือทำงานบูรณาการร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อมุ่งขยายตลาดกล้วยไทยในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ตนก็ได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านกล้วยชาวญี่ปุ่นลงพื้นที่ไปยังจังหวัดนครราชสีมาเพื่อพัฒนาเทคนิคการปลูกให้กล้วยในพื้นที่ให้มีคุณภาพและปริมาณตามความต้องการของตลาดญี่ปุ่นโดยทันที “นอกจากนี้แล้ว ทางสำนักงานเองได้รับข้อมูลมาว่า กล้วยหอมของไทยนั้นเป็นพันธุ์กล้วยหอมทองซึ่งนอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ในปัจจุบัน เรายังเป็นแหล่งผลิตที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลกอีกด้วย จึงได้ใช้เป็นหนึ่งในจุดขายในการทำการตลาดกับผู้นําเข้าชาวญี่ปุ่น และเมื่อได้พาคณะผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นไปเยี่ยมชมสวนกล้วยที่ได้รับการพัฒนาและได้ลองชิมผลผลิตแล้ว ต่างก็พอใจเป็นอย่างมาก
จนทำสัญญาซื้อขายในทันที ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่ากล้วยไทยจะยังสามารถขยายตลาดได้มากกว่าโควต้า 8,000 ตันต่อปีที่ไม่มีภาษีได้อีกอย่างแน่นอน” ทูตพาณิชย์ประจำประเทศญี่ปุ่นกล่าวเสริม
ในส่วนของทางจังหวัดนครราชสีมาเองนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล
กล่าวว่า “อำเภอเสิงสางเป็นแหล่งผลิตกล้วยหอมทองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยมีพื้นที่เพาะปลูกกล้วยหอมทองถึง 1,350 ไร่ และมีปริมาณผลผลิตได้ถึง 8,100 ตันต่อปี ดังนั้น จึงเพียงพอต่อเป้าความต้องการของตลาดญี่ปุ่นในปีหน้าอย่างแน่นอน และไม่เพียงเท่านี้ ด้วยศักยภาพของเกษตรกรในจังหวัดที่ได้รับการพัฒนาและเชื่อมโยงตลาดญี่ปุ่นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ก็ยังมีความพร้อมในการเพิ่มพื้นที่เพราะปลูกเพื่อรองรับความต้องการตลาดหากมีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย”
นอกจากจังหวัดนครราชสีมาแล้ว ทางสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งออกกล้วยจากภูมิภาคอื่นๆเพิ่มเติม อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพัทลุง และ จังหวัดอื่นๆอีกด้วย ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169
*******************************
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
….พฤศจิกายน 2566

อ่านข่าวฉบับเต็ม : เซ็นแล้ว 5,000 ตัน! กล้วยอีสานพร้อมผงาดในตลาดญี่ปุ่น

Login