ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อความงาม อาทิ เครื่องเป่าผมกำลังเติบโต ไม่ใช่เพียงเพราะโอกาสในการพบปะผู้คนมากขึ้น แต่ยังเป็นเพราะผู้คนส่วนมากเริ่มตระหนักถึงรูปลักษณ์โดยไม่จำกัดว่าเป็นเพศใด Panasonic Holdings, Sharp และ Dyson ต่างแข่งขันกันเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
โชว์รูมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้านความงามที่ Panasonic เปิดในโอโมเตะซันโดกรุงโตเกียวเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ได้กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ดึงดูดผู้เข้าชมได้ประมาณ 500 คนต่อวันในช่วงสุดสัปดาห์ นอกจากจะสามารถทดลองไดร์เป่าผม อุปกรณ์เสริมความงามบนใบหน้า และเครื่องโกนหนวดแล้ว ยังสามารถตรวจสอบคุณภาพผิวและเส้นผมได้ทำให้ได้รับความสนใจจากคนหนุ่มสาวจำนวนมาก
Panasonic เป็นผู้ครองอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นในการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าด้านความงามหลายชนิด รวมถึงเครื่องเป่าผม ฉนวนสำคัญคือผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากรุ่นใช้งานทั่วไปทั้งความง่ายในการใช้งานและประสิทธิผล ผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ที่จัดจำหน่ายในหลากหลายระดับราคาทำให้ดึงดูดความรู้สึกด้านสุนทรีย์ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคได้อีกด้วย
Sharp ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศยังคงอยู่เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ได้เปิดตัวเครื่องเป่าเผ่าใหม่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยราคาสำหรับรุ่นไฮเอนด์คือ 44,000 เยน มีจุดเด่นคือการลดไฟฟ้าสถิตและลดเวลาการเป่าผมให้แห้งในระยะเวลาสั้น ทำให้ยอดขายในเดือนแรกเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่าของรุ่นก่อนหน้า
ผลิตภัณฑ์เสริมความงามกลุ่มดูแลเส้นผม เช่น เครื่องเป่าผมและเครื่องม้วนผม ซึ่งใช้ในการจัดแต่งทรงผม กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลของบริษัทวิจัย Euromonitor คาดว่าตลาดในประเทศในปี 2023 จะเพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมาคือ 111.7 พันล้านเยน ซึ่งสูงกว่าเครื่องซักผ้า 1.5 เท่า และสูงกว่าตู้เย็น 1.2 เท่า
บริษัทจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ ต่างเริ่มเข้าสู่ตลาดดังกล่าวเช่นกัน เมื่อเดือนกรกฎาคม ELECOM ลงทุน 9.6 พันล้านเยนเพื่อซื้อ Tescom Electric Group ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดกลาง โดยมุ่งเน้นการลงทุนการพัฒนาเครื่องหนีบผมแบบพกพาที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีควบคุมแบตเตอรี่ของตัวเองและในปี 2022 I-ne เปิดตัวอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์เสริมความงามบนใบหน้าระดับไฮเอนด์หรือเลเซอร์กำจัดขน
ที่มาข่าวและรูปภาพ : Nikkei MJ Online วันที่ 24 ตุลาคม 2566
https://www.nikkei.com/article/DGXZQOUF122X60S3A910C2000000/
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)
