หน้าแรกTrade insightอาหารอื่นๆ > อุตสาหกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงอินเดียกลายเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าหลายล้านล้านรูปี

อุตสาหกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงอินเดียกลายเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าหลายล้านล้านรูปี

 

อินเดียกลายเป็นตลาดศักยภาพและเต็มไปด้วยโอกาสสําหรับอุตสาหกรรมและธุรกิจสัตว์เลี้ยง ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในอินเดียมีขนาดประมาณ 1 พันล้านรูปีในปี 2544 และคาดว่าจะขยายตัวถึง 2.63 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2575 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 19.2% ตามข้อมูลการวิจัยตลาดและบริษัทที่ปรึกษา Market Decipher ที่มีการคาดการณ์ระหว่างปี 2545 – 2575 โดยการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เลี้ยงสุนัขในอินเดียได้กระตุ้นหมวดค่าใช้จ่ายอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งอาหารแบบจำเพาะและปรับแต่งตามผู้ซื้อ นอกเหนือจากอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผลิตจากสัตว์ปีกและเนื้อแดงทั่วไปแล้ว ยังคงมีอุปสงค์และอุปทานของผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงอื่น เช่น ปลาแซลมอนแอตแลนติก เป็ดไม่มีกระดูก และไข่นกกระทา (สำหรับสุนัข) เป็นต้น ซึ่งเจ้าของก็ยินดีจ่ายเงินหลายพันรูปีสำหรับค่าอาหารรายเดือนให้แก่สัตว์เลี้ยงของตน แบรนด์ต่างๆ ที่จำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงในอินเดียมีการนำเสนออาหารที่มีวัตถุดิบหลักเกรดเดียวกับคนทาน (Human Grade) ซึ่งกำลังได้รับความนิยม จากรายงานที่เผยแพร่โดย Statista การเลี้ยงสุนัขในอินเดียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและคาดว่าจำนวนสุนัขเลี้ยงจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 43 ล้านตัวภายในปี 2569 ส่งผลให้ยอดจำหน่วยอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นตามมา

ข้อมูลเพิ่มเติม
1. จากข้อมูลบริษัท Dogster ระบุถึง 12 สถิติที่น่าสนใจสำหรับภาคอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในอินเดีย ได้แก่ 1) อินเดียมีสุนัขสัตว์เลี้ยงประมาณ 30 ล้านตัว 2) อินเดียมีแมวจรจัดมากกว่า 9 ล้านตัว 3) อินเดียมีแมวเลี้ยงในบ้านประมาณ 5.5 ล้านตัว 4) อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงมีมูลค่าประมาณ 900 ล้านเหรียญสหรัฐ 5) ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงของอินเดียคาดว่าจะสร้างมูลค่าประมาณ 650 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 6) บริษัท Mars International เป็น บริษัทอาหารสัตว์ชั้นนำ 7) สัดส่วนของรายจ่ายในผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงคิดเป็น 20% ของอุตสาหกรรม 8) ยอดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงคิดเป็นประมาณ 500 ล้านกิโลกรัม 9) ประมาณ 80% ของอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นการซื้อแบบออฟไลน์ 10) ในปี 2569 คาดว่าจะมีสุนัขเลี้ยง 43 ล้านตัว 11) อุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 19% ต่อปีในอีก 10 ปีข้างหน้า และ 12) อุตสาหกรรมให้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงคาดว่าจะสูงถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568

2. การเติบโตของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงและการลงทุนในอินเดีย : อินเดียเป็นผู้นำตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยมีบริษัท Mars Inc. เป็นผู้นําภาคการลงทุน ควบคู่ไปกับบริษัทสำคัญในตลาดอย่าง Nestlé Purina Farmina และ Indian Broiler Group ประกอบกับปัจจัยทางสังคมที่มีการปรับเปลี่ยน ทั้งมาตรฐานการครองชีพ การรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นและการกำกับดูแลธุรกิจอย่างเหมาะสม ทำให้อินเดียเป็นตลาดที่น่าสนใจในด้านการลงทุนอาหารสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในเมืองใหญ่อย่างเมืองเดลี มุมไบ และบังกาลอร์ มีค่าใช้จ่ายอาหารสัตว์เลี้ยง ประมาณ 4,000 – 5,000 รูปีอินเดีย (50-60 เหรียญสหรัฐ) ต่อเดือน ในขณะที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงในเมืองระดับ tier II เช่น นาคปุระ
สุราษฎร์ จันดิการ์ อินดอร์ และ ชัยปุระ จะมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 1,500 ถึง 2,500 รูปีต่อเดือน ( 30-40 เหรียญสหรัฐ )

3. เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท Royal Canin (ฝรั่งเศส) ได้เปิดตัวโรงงานแห่งใหม่ด้วยเงินลงทุน 13.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรัฐมหาราษฏระ การเปิดตัวโรงงาน ในครั้งนี้เป็นโรงงานแห่งแรกในอินเดียและเป็นโรงงานบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชีย ภายในโรงงานประกอบด้วยเครื่องบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติและระบบเครื่องจักรกลการผลิตอื่นๆ ที่มีความสามารถในการแปลงบรรจุภัณฑ์จากแบบค้าส่งในปริมาณเป็นแบบค้าปลีกตามสัดส่วน

ข้อคิดเห็น
1. ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในอินเดียเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงและพัฒนาการความต้องการของผู้บริโภค การเติบโตนี้เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่นการเพิ่มขึ้นของรายได้ และการขยายตัวของสังคมเมือง เนื่องจากผู้เลี้ยงสัตว์มีความรู้และมีความใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพและโภชนาการของสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น เจ้าของสัตว์เลี้ยงจึงมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพตามลำดับ ในด้านผู้ผลิตเองก็กำลังตอบสนองด้วยการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ด้วยสูตรในส่วนผสมต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพเฉพาะของสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมีในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์บางกลุ่ม เช่น ความอ่อนไหวด้านราคาและความชอบในอาหารสัตว์เลี้ยงที่ทําเอง ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของอินเดียจะยังคงขยายตัวต่อไป เป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างประเทศและผู้ประกอบการไทยสามารถเจาะตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีศักยภาพและมีประชากรมากที่สุดในโลก
2. จำนวนสัตว์เลี้ยงในตลาดอินเดียนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในทางเดียวกันนั้นก็หมายถึงการขยายตัวของอุตสาหกรรมสำหรับผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่จะมีแนวโน้มขยายตัวควบคู่กันไป จากสถิติ GTA ระบุว่า สินค้าอาหารสุนัขหรือแมว จัดทำขึ้นเพื่อการขายปลีก (HS Code 230910) ในปี 2567 (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) อินเดียนำเข้าจากไทย มูลค่า 12.39 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 29.36 % ประเทศไทยเป็นตลาดนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) อันดับที่ 1 ของอินเดีย ครองสัดส่วนตลาด 55.83 % รองลงมา คือ แอฟริกาใต้ (11.83%) ฝรั่งเศส (9.72%) อิตาลี (2.93%) และอินโดนีเซีย (2.33%) ทั้งนี้ ความท้าทายที่สำคัญอยู่ที่การตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เนื่องจากประเทศต้องพึ่งพาการนำเข้ามากกว่า 50% ของผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในอินเดียมีมูลค่ากว่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงครองสัดส่วนตลาดประมาณ 70% ในขณะที่ สินค้าของใช้ของตกแต่งและผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงคิดเป็นประมาณ 20% หากแนวโน้มอัตราการขยายตัวยังคงเติบโตใน
ทิศทางบวก ตัวเลขจากข้อมูลข้างต้นคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอีก 10 ปีข้างหน้า และเมื่อพิจารณาจากขนาดประชากรของอินเดีย หากการมีการเพิ่มจำนวนผู้มีสัตว์เลี้ยงต่อไป ตลาดอินเดียแห่งนี้อาจกลายเป็นผู้เล่นหลักในตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงของโลกก็เป็นได้

ที่มา:
1. https://themachinemaker.com/news/royal-canin-inaugurates-new-plant-with-rs-100-crore-investment-in-maharashtra

2.https://www.petfoodindustry.com/regions/central-western-southern-asia/article/15661114/mars-petcare-india-growing-at-doubledigits-postpandemic

 

อ่านข่าวฉบับเต็ม : อุตสาหกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงอินเดียกลายเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าหลายล้านล้านรูปี

Login