Supreme Council for Investment (SCI) ของอียิปต์ ซึ่งมีประธานาธิบดี Abdel-Fattah Al-Sisi เป็นประธาน ได้มีข้อตัดสินใจรวม 22 ข้อ ที่มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในระบบเศรษฐกิจ อำนวยความสะดวกและดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และปรับปรุงกฎระเบียบและขั้นตอนการลงทุนให้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ย่นระยะเวลาในการออกใบอนุญาตภายใน 10 วัน
นอกจากนี้ รัฐบาลอียิปต์ได้กำหนดเป้าหมายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการอำนวยความสะดวกการลงทุนในระยะถัดไป เช่น การปรับปรุงนโยบายด้านภาษีให้มีความชัดเจนและเอื้อประโยชน์แก่นักลงทุนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายจะให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี และการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการดำเนินการในการจัดตั้งธุรกิจภายใต้กำกับดูแลของ General Authority for Investment and Free Zones (GAFI) แบบเบ็ดเสร็จในเว็บไซต์เดียวโดยอาศัยความร่วมมือระหว่าง GAFI และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
การออกข้อตัดสินใจเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนของ SCI ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลอียิปต์ในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจและการลงทุนของอียิปต์ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและลดบทบาทของการลงทุนโดยภาครัฐ ซึ่งสอดคล้องกับการแนวทางที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้กำหนดไว้สำหรับอียิปต์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจที่อียิปต์กำลังเผชิญโดยเร็วต่อไป
ความเห็น/ข้อเสนอแนะ
การออกข้อตัดสินใจเพื่ออำนวยความสะดวกการลงทุนของ SCI เป็นการสานต่อนโยบายของรัฐบาลอียิปต์ชุดปัจจุบันที่กำลังจะเปลี่ยนอียิปต์จากประเทศที่นำเข้าสินค้าจำนวนมาก ไปสู่ประเทศที่ผลิตเพื่อทดแทนนำเข้า และประเทศที่ผลิตเพื่อการส่งออกในท้ายที่สุด โดยมีเป้าหมายให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการลงทุนเพื่อเพิ่มการส่งออกเป็นร้อยละ 65 ภายใน 3 ปี (ปี 2568)
ข้อตัดสินใจของ SCI ดังกล่าวให้ความสำคัญกับการลดอุปสรรคของขั้นตอนในการลงทุนในอียิปต์ โดยเฉพาะการจัดตั้งธุรกิจ การลงทุนในพื้นที่อุตสาหกรรม และการขอใบอนุญาตจำเป็น อีกทั้งยังได้พัฒนากรอบกฎหมายใหม่ ๆ ที่ครอบคลุมประเด็นการระงับข้อพิพาททางการค้า การบังคับใช้สัญญา การส่งเสริมการคุ้มครองการลงทุน และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาการลงทุนอียิปต์ ที่เดิมมักเป็นการดำเนินการโดยภาครัฐ หรือเอกชนรายใหญ่ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับภาครัฐ และคาดว่าจะช่วยเพิ่มตัวเลขการส่งออกของอียิปต์เป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ภายในปี 2568 [1]
นอกจากนี้ หากประสบความสำเร็จ อียิปต์จะสามารถดึงเม็ดเงินกลับเข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก ทั้งจากการส่งออกสินค้าและจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยลดภาวะการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศของอียิปต์ลงได้
อย่างไรก็ดี แม้ว่าอียิปต์จะมีข้อตัดสินใจเพื่ออำนวยความสะดวกการลงทุนในภาพรวมแล้ว แต่ยังคงมีปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการเข้าไปลงทุนในอียิปต์ เช่น ค่าเงินปอนด์อียิปต์ที่มีความผันผวนขาดเสถียรภาพ กฎระเบียบและขั้นตอนการนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรที่ยังมีความซับซ้อน อัตราดอกเบี้ยสูง และภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่หรือขยายกิจการที่มีแล้ว และไม่เอื้อต่อพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย อียิปต์จึงควรต้องพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบ รวมทั้งแก้ไขอุปสรรคและปัญหาด้านการเงินและการคลังอย่างเป็นมีบูรณาการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป
https://english.ahram.org.eg/NewsContent/50/1201/501527/AlAhram-Weekly/Egypt/Opening-up-to-investors.aspx
https://www.egypttoday.com/Article/1/124603/Egyptian-political-parties-propose-reforms-to-boost-investment-attractiveness
[1] ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีภาคเอกชนอียิปต์เพียงร้อยละ 1 เท่านั้น ที่ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)