อินเดียประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความร่วมมือทางวัฒนธรรมกับตุรกีและอาเซอร์ไบจานอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากทั้งสองประเทศแสดงจุดยืนสนับสนุนปากีสถานในช่วงเหตุการณ์ความตึงเครียดทางทหารระหว่างอินเดีย-ปากีสถาน ภายใต้ปฏิบัติการ “Operation Sindoor”
การเคลื่อนไหวครั้งนี้นำโดย สมาพันธ์ผู้ค้าทั้งหมดของอินเดีย (Confederation of All India Traders: CAIT) ซึ่งเป็นองค์กรการค้าที่มีสมาชิกกว่า 80 ล้านราย ครอบคลุมสมาคมการค้ากว่า 40,000 แห่งทั่วประเทศ โดยมีผู้นำการค้ากว่า 125 รายจาก 24 รัฐ เข้าร่วมการประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ กรุงนิวเดลี
ที่มาของการคว่ำบาตร
ตุรกีและอาเซอร์ไบจานประกาศจุดยืนสนับสนุนปากีสถานบนเวทีโลก ระหว่างที่อินเดียปฏิบัติการทางทหารเพื่อตอบโต้การก่อการร้ายในพื้นที่พาฮาลกัม (Pahalgam) ส่งผลให้อินเดียมองว่าเป็นการ “หักหลัง” หลังจากเคยให้ความช่วยเหลือทั้งสองประเทศในยามวิกฤต
โดยนายประวีณ คานเดลวาล ส.ส.และเลขาธิการ CAIT กล่าวว่า “ตุรกีและอาเซอร์ไบจานเคยได้รับความช่วยเหลือจากอินเดียในยามวิกฤต แต่กลับเลือกยืนข้างปากีสถาน ประเทศที่มีภาพลักษณ์สนับสนุนการก่อการร้ายระดับโลก”
สำหรับผลจากการประชุมได้มีมติสำคัญ ดังนี้:
- ยุติการนำเข้า-ส่งออกกับตุรกีและอาเซอร์ไบจานโดยทันที
- ระงับความร่วมมือทางการค้า กับบริษัทและคณะผู้แทนจากทั้งสองประเทศ
- ห้ามส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือธุรกิจในประเทศดังกล่าว โดยบริษัททัวร์หรือตัวแทน
- เสนอหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์และการต่างประเทศ เพื่อทบทวนความสัมพันธ์ทางการค้าแบบทวิภาคี
- รณรงค์สร้างการตระหนักรู้ทั่วประเทศ เรื่องการคว่ำบาตร โดยเน้นประเด็นความมั่นคงและอธิปไตยทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ CAIT ยังเรียกร้องให้ วงการภาพยนตร์อินเดียงดการถ่ายทำหรือประชาสัมพันธ์สินค้าในตุรกีและอาเซอร์ไบจาน พร้อมเตือนว่า หากมีการถ่ายทำเกิดขึ้น บริษัทนั้นจะถูกคว่ำบาตรจากประชาชนและภาคธุรกิจในประเทศ รวมถึงสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลอินเดียในการ เพิกถอนใบอนุญาตความปลอดภัยของบริษัทตุรกี Celebi Ground Handling India Pvt. Ltd. ซึ่งเคยให้บริการในสนามบินหลัก 9 แห่งของอินเดีย โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
ทั้งนี้ มาตรการตอบโต้ของอินเดียต่อปากีสถานและพันธมิตรสามารถสรุปได้เป็น 5 ประการ ดังนี้
- การดำเนินมาตรการทางการค้า ประกอบด้วย
– รัฐบาลอินเดียออกคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากปากีสถานทั้งหมด รวมถึงสินค้าที่มาจากประเทศอื่นแต่มีต้นทางหรือผ่านปากีสถาน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568
– เพิ่มการตรวจสอบสินค้าเข้าประเทศจากประเทศในอ่าว เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิหร่าน เพื่อป้องกันสินค้าปากีสถานเล็ดลอดเข้ามาทางอ้อม
– การประกาศหยุดการค้ากับตุรกีและอาเซอร์ไบจานโดยทันที โดย CAIT
– การหลีกเลี่ยงการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าจากตุรกี อาทิ แอปเปิล หินอ่อน และเครื่องประดับ ของผู้ค้าอินเดียตามเมืองต่าง ๆ เช่น ลัคเนา
- การควบคุมสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์
– หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคกลางของอินเดียสั่งให้แพลตฟอร์มอย่าง Amazon, Flipkart และ Etsy หยุดขายธงและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับปากีสถาน
– แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอินเดีย เช่น Myntra และ Ajio หยุดขายสินค้าแบรนด์ตุรกี เช่น Trendyol, Koton, LC Waikiki และ Mavi โดยสินค้าทั้งหมดถูกขึ้นว่า “หมดสต็อก”
- ด้านสนามบินและบริการภาคพื้น
– อินเดียเพิกถอนใบอนุญาตความปลอดภัยของบริษัทตุรกี Celebi Hava Servisi AS ซึ่งให้บริการภาคพื้นในสนามบิน 9 เมืองของอินเดีย
– สนามบินในเดลี มุมไบ และอาเมดาบัด ประกาศยกเลิกสัญญากับบริษัทดังกล่าว
- ด้านการท่องเที่ยว
– พบว่าการจองท่องเที่ยวไปตุรกีและอาเซอร์ไบจานลดลงถึงร้อยละ 60 และอัตราการยกเลิกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 250 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
– สายการบิน Air India ร้องขอให้รัฐบาลไม่อนุญาตให้ IndiGo ขยายสัญญาเช่าเครื่องบินกับ Turkish Airlines
– บริษัททัวร์ต่าง ๆ เช่น MakeMyTrip, Ixigo, Easy Trip และ Cox & Kings หยุดกิจกรรมส่งเสริมการขายและทริป เยือนตุรกีและอาเซอร์ไบจาน
- ด้านอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ
– มีการลบภาพศิลปินชาวปากีสถานออกจากสื่อประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์และมิวสิกวิดีโอของอินเดีย
– CAIT เรียกร้องให้ค่ายหนังและบริษัทโฆษณาเลิกถ่ายทำในตุรกี
– การจำกัดการเข้าถึงช่อง YouTube ของนักคริกเก็ตปากีสถาน เช่น Shoaib Akhtar รวมถึงช่องข่าวจากปากีสถาน
– นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม X (Twitter เดิม) ยังเปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากรัฐบาลอินเดียให้บล็อกบัญชีมากกว่า 8,000 บัญชีในประเทศ พร้อมคำเตือนว่าหากไม่ปฏิบัติตามอาจมีโทษทั้งปรับและจำคุก
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า อินเดียกำลังดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเชิงรุกและหลากหลายด้านต่อปากีสถานและพันธมิตรของปากีสถานอย่างตุรกีและอาเซอร์ไบจาน ทั้งในภาคการค้า การเดินทาง ความบันเทิง และสื่อสารมวลชน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและตอบโต้การสนับสนุนศัตรูของประเทศอย่างชัดเจน โดยท่าทีของอินเดียสะท้อนถึงแนวโน้มของการใช้กลไกเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือทางการทูต ซึ่งประเทศในเอเชีย รวมถึงไทย ควรจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในด้านการจัดหาสินค้า การลงทุน และความสัมพันธ์กับประเทศคู่ขัดแย้ง
แหล่งอ้างอิง
- Times of India: Big Ban Actions: How India is shunning Pakistan and its allies like Turkey & Azerbaijan (May 17, 2025)
- Economic Times: Indian traders announce full boycott of Türkiye, Azerbaijan over pro-Pakistan stance (May 16, 2025)
- Bloomberg News (India Bureau), Reuters India, CAIT Press Conference Release
อ่านข่าวฉบับเต็ม : อินเดียคว่ำบาตรตุรกี-อาเซอร์ไบจานเต็มรูปแบบ หลังสนับสนุนปากีสถาน