ที่มาภาพ: https://asiatimes.com/
ในปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับสังคมผู้สูงอายุ (Aging society: 老龄化社会) แม้แต่ประเทศจีนเองก็เผชิญปัญหาจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 2020 มีจำนวนประชากรอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปจำนวน 191 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 13.5 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจำนวนผู้สูงอายุในจีนคิดเป็น 1 ใน 4 ของผู้สูงอายุของทั่วโลก ในปี 2021 มีผู้สูงอายุคิดเป็นร้อยละ 14 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2000 ที่มีเพียงร้อยละ 7 ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุที่เร็วมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น กราฟด้านล่างแสดงถึงร้อยละของผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปจากประชากรทั้งหมด
ที่มาภาพ: https://finance.sina.com.cn/
ปัญหาสังคมผู้สูงอายุที่จีนเผชิญอยู่นั้น เกิดจากนโยบายควบคุมประชากรของรัฐบาลที่อนุญาตให้แต่ละครอบครัวมีลูกได้เพียงหนึ่งคน ทำให้อัตราการเกิดลดลง ซึ่งส่งผลให้ในปัจจุบันมีประชากรวัยทำงานน้อยลงมาก ซึ่งตรงข้ามกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปี และเนื่องจากทางรัฐบาลไม่ได้เตรียมนโยบายเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุได้ทัน ทำให้เกิดสภาวะ ‘แก่ก่อนรวย (未富先老)’ ซึ่งหมายถึงสังคมผู้สูงอายุที่มาอย่างรวดเร็วนำหน้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ผู้สูงอายุจำนวนมากไม่มีความพร้อมทางด้านการเงินในการใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุ
แม้ว่าทางภาครัฐพยายามแก้ไขปัญหามาเป็นระยะเวลานาน เริ่มตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายลูกคนเดียวเป็นนโยบายลูกคนที่สองตั้งแต่ปี 2559 และในปี 2564 ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งโดยอนุญาตให้มีลูกคนที่สาม และมีนโยบายช่วยเหลือด้านการศึกษาของบุตรหรือออกกฎหมายต่างๆเพื่อเอื้ออำนวยต่อผู้ที่ต้องการมีบุตร แต่สถานการณ์ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง การมีบุตรน้อยของคนจีนเปลี่ยนแปลงจากนโยบายจำกัดการมีบุตรของรัฐบาล กลายเป็นต้องการมีบุตรน้อยลงด้วยความสมัครใจ โดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ได้มีการระบุสาเหตุของการที่คนจีนในยุคปัจจุบันต้องการมีบุตรน้อยลงดังนี้
-
- การมีบุตรทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นทั้งทางด้านการศึกษา ที่อยู่อาศัย และการรักษา
- ไม่มีคนช่วยดูแลบุตร
- หาจุดสมดุลระหว่างการมีบุตรและการทำงานไม่ได้
- ความไม่แน่นอนของรายได้และอาชีพ
จีนใช้เวลากว่า 30 ปี เพื่อนำประชาชนร้อยละ 90 เข้าสู่ระบบประกันพื้นฐานในช่วงเกษียณอายุได้สำเร็จ เพื่อให้ประชาชนมีระดับพื้นฐานชีวิตที่ดี โดยจีนมีระบบประกันสังคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีเงินบำนาญประมาณ 13 ล้านล้านหยวน แต่ระดับเงินบำนาญต่อหัวกลับไม่สูง และยังต้องเผชิญกับปัญหาด้านจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งคาดว่าเงินเงินบำนาญจะหมดในปี 2578 ให้เกิดความท้าทายเป็นอย่างมาก ทางรัฐบาลยังคงต้องหาทางแก้ไขเรื่องนี้ต่อไป
ในปัจจุบันรัฐบาลจีนได้มีแผนการพัฒนาระบบบริการบำนาญอัจฉริยะเพื่อให้ผู้สูงอายุเกษียณอย่างมีคุณภาพ ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อส่งเสริมการสร้างที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุสร้างสภาพแวดล้อมที่ปราศจากสิ่งกีดขวางและการปรับปรุงที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุในโครงการต่างๆ เช่น การฟื้นฟูเมือง การปรับปรุงชุมชนเมืองเก่า และการปรับปรุงบ้านที่ทรุดโทรมในพื้นที่ชนบท เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ให้เงินอุดหนุนตามนโยบายแก่ครอบครัวของผู้สูงอายุที่ยากจน สนับสนุนการซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุของครอบครัว และทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตที่บ้านได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น
ในด้านบริการการดูแลผู้สูงอายุ ทางรัฐบาลมีการวางแผนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมการดูแลผู้สูงอายุ เพิ่มการสนับสนุนทางการเงินและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดหาบริการดูแลผู้สูงอายุ พัฒนาประกันความรับผิดอย่างครอบคลุมสำหรับสถาบันดูแลผู้สูงอายุเพื่อให้ความคุ้มครองความเสี่ยงสำหรับการดำเนินงาน ใช้ประโยชน์จากการลงทุนระยะยาวของกองทุนประกันเพื่อจัดตั้งชุมชนและสถาบันบริการดูแลผู้สูงอายุอย่างจริงจังผ่านการลงทุนใหม่
อีกทั้ง ทางรัฐบาลวางแผนจะจำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อพัฒนาระบบบริการดูแลผู้สูงอายุอัจฉริยะ โดยจะเน้นที่การใช้งานง่ายสำหรับคนแก่เพื่อลดอุปสรรคในการใช้บริการ และราคาไม่สูงเพื่อเพิ่มการเข้าถึงของผู้สูงอายุ ใช้เทคโนโลยีเพื่อรวมทรัพยากรทางการแพทย์และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงระบบการฝึกอบรมและการจ้างงานเพื่อการให้บริการอย่างมืออาชีพ
แม้ว่าการที่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นนั้นจะเป็นปัญหาของรัฐบาลที่น่าหนักใจของรัฐบาล แต่ก็เป็นโอกาสทางธุรกิจของหลายๆสินค้าและบริการ เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุมีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกปี ถือเป็นอีกตลาดหนึ่งที่ใหญ่และน่าสนใจในการตีตลาด จากการสำรวจพบว่าร้อยละ 75 ของผู้สูงอายุอาศัยอยู่คนเดียวหรือกับคู่สมรสเท่านั้น มีจำนวนน้อยที่มีลูกหลานคอยดูแล และช่องทางการรับข่าวสารมาจากการฟังวิทยุและดูโทรทัศน์เป็นหลัก มากกว่ากับข้อมูลจากโลกออนไลน์ และสินค้าที่เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าสูงอายุนั้น ได้แก่ ธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุ สินค้าเพื่อสุขภาพและอาหารเสริม บริการการแพทย์ เครื่องสำอาง บริการเพื่อความบันเทิงและการท่องเที่ยว เช่น หมากล้อมและเครื่องดนตรี E-commerce ผู้สูงอายุเป็นผู้ตัดสินใจซื้อด้วยตนเอง ส่วนประกันภัย ลูกหลานมักจะเป็นผู้ซื้อให้พ่อแม่
ข้อคิดเห็นของสคต.เซี่ยงไฮ้
สังคมผู้สูงอายุเป็นปัญหาของหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศจีน ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุของจีนเป็นกลุ่มที่ใหญ่และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจ เนื่องจากอัตราการเกิดน้อยลง ส่งผลให้หลายธุรกิจมีโอกาสทางการค้าเพิ่มมากขึ้น เช่นสถานพยาบาลและสถานบริการดูแลผู้สูงอายุ อีกทั้งผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่รักษาสุขภาพของตัวเอง ทำให้สินค้าและบริการอย่างการนวดแผนไทย หมอนยางพาราเพื่อสุขภาพ สมุนไพร มีโอกาสเข้ามาตีตลาดผู้สูงอายุในจีนได้
_____________________________________________________________________
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
วันที่ 12 พฤษภาคม 2566
https://thaibizchina.com/article/chinese_population/
https://www.bangkokbanksme.com/en/chinese-aging-society
https://finance.sina.com.cn/zl/china/2023-02-07/zl-imyewiyr5155477.shtml
https://www.brandbuffet.in.th/2019/12/chinese-elderly-population-most-in-the-world/
https://thaibizchina.com/แอบส่องตลาด-ชำเลืองมอง/
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)