หน้าแรกTrade insight > สหรัฐอเมริกาต้องการน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว (used cooking oil)

สหรัฐอเมริกาต้องการน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว (used cooking oil)

วันที่ 16 สิงหาคม 2022 สหรัฐฯประกาศใช้กฎหมาย Inflation Reduction Act (IRA) ที่รัฐบาลประธานาธิบดี ไบเดนจัดทำขึ้นตามนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาดและกระตุ้นการบริโภคเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กฎหมายฯกำหนดให้เครดิตด้านภาษี (tax credit) กับผู้ผลิตสินค้าเชื้อเพลิงที่เป็นแบบยั่งยืนสำหรับใช้กับอากาศยาน (sustainable aviation fuel – SAF) ในอัตราสูงถึง 1.75 เหรียญฯต่อแกลลอน และให้สิ่งจูงใจ (incentive) กับผู้ผลิตไบโอดีเซล ในอัตรา 1 เหรียญฯต่อแกลลอน กระทรวงเกษตรสหรัฐฯระบุว่า จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 สหรัฐฯมีโรงงานผลิตไบโอดีเซลจากวัตถุดิบ UCO (Used Cooking Oil) 72 แห่งและมีแนวโน้มว่าจะมีโรงงานเพิ่มมากขึ้น

 

กฎหมาย IRA กระตุ้นการนำเข้าสหรัฐฯสินค้าน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว ที่สามารถนำไปกลั่นเป็นเชื้อเพลิงไบโอดีเซลและ SAF ที่สามารถนำไปผสมกับเชื้อเพลิงปกติที่ใช้กันทั่วไป เมื่อนำไปใช้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันดีเซลหมุนเวียน (renewable diesel) ที่มีสภาวะทางเคมีเทียบเท่ากับน้ำมันดีเซลที่ผลิตจากปิโตรเลีย นอกจากนี้น้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วมีราคาต่ำกว่าน้ำมันพืชที่เป็นน้ำมันสดใหม่ และมีความเข้มข้นของคาร์บอนต่ำกว่าน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันคาโนล่า (canola oil)

 

ในเดือนตุลาคม 2022 หรือสองเดือนภายหลังที่กฎหมาย IRA มีผลบังคับใช้ การนำเข้าสินค้าขยะที่เป็นน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้วจากจีนเติบโตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีรายงานว่าระหว่างตุลาคม 2021 – ตุลาคม 2022 มูลค่านำเข้าจากจีนสูงเกือบ 390 ล้านเหรียญฯ เฉพาะในระยะ 8 เดือนแรก (มกราคม – สิงหาคม) ของปี 2023 ปริมาณนำเข้าน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้วจากจีนเกือบ 384,000 เมตริกตัน หรือประมาณร้อยละ 65 ของปริมาณนำเข้าสหรัฐฯรวมทั้งสิ้นในช่วงเวลาดังกล่าวของน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว
แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่ใช้น้ำมันดีเซลหมุนเวียน (renewable diesel) มากที่สุดในสหรัฐฯ เพราะรัฐฯมีกฎหมาย Low Carbon Fuel Standard ที่ให้สินเชื่อทางการค้าแก่ผู้ผลิตน้ำมันดีเซลหมุนเวียนที่ใช้วัตถุดิบการผลิตที่มีคาร์บอนต่ำ(low-carbon) เช่น UCO

 

ที่มา: Reuters: “Biden’s IRA drives surge in US imports of Chinese Used cooking oil”, by Andrew Hayley, September 22, 2023

 

ข้อมูลเพิ่มเติม ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ของสคต ลอสแอนเจลิส

หมายเหตุ UCO ในที่นี้ต่างจาก UCO – Unconverted Oil หรือ Hydrocracking oil ที่ใช้เป็นน้ำมันเครื่องบิน ที่บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ผลิตส่งออก

 

ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศสินค้า UCO ในไตรมาสแรกปี 2023 แสดงให้เห็นว่าความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯจะกลายเป็นประเทศนำเข้า UCO ที่แท้จริง (net importer)   ข้อมูลจาก UN Comtrade Database แสดงให้เห็นว่า ประมาณร้อยละ 15 ของ UCO ที่สหรัฐฯนำเข้ามาจาก 6 ประเทศหลักในเอเซียคือ จีน อินเดีย อินโดนิเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเกาหลีใต้ The International Council on Clean Transportation (ICCT)

 

คาดการณ์ว่านโยบายรัฐบาลกลางสหรัฐฯที่เสนอผลประโยชน์และสิ่งจูงใจแก่ภาคธุรกิจที่นำ UCO มาใช้เป็นวัตถุดิบ

 

ในการผลิตไบโอดีเซลหรือการผลิตดีเซลหมุนเวียน (renewable diesel) การให้สิทธิพิเศษด้านภาษีกับสินค้าเชื้อเพลิง SFA และนโยบายและการทำความพยายามของหลายมลรัฐที่จะเข้าสู่ระบบเชื้อเพลิงสะอาด จะไปยกระดับความต้องการนำเข้าและความต้องการบริโภคของสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง อาจจะทำให้ปริมาณนำเข้า UCO ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็น 8,900 กิโลตัน (8,900,000 เมตริกตัน) ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นปริมาณสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับระดับปัจจุบันของปริมาณนำเข้าจาก 6 ประเทศแหล่งอุปทานในเอเซียข้างต้น จึงมีแนวโน้มสูงว่า ความต้องการบริโภคในสหรัฐฯจะเกินความสามารถของแหล่งอุปทานในเอเซียทั้ง 6 ประเทศข้างต้นในการผลิตเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ

 

สคต ลอสแอนเจลิสมีความเห็นว่า การคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของความต้องการ UCO ของสหรัฐฯมีโอกาสสูงขึ้น เพราะหลายภาคส่วนในสหรัฐฯกำลังวิตกกังวลกับปัญหาสิ่งแวดล้อม การหมดสิ้นไปของทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นแร่ธาตุที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมัน และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาวะอากาศและเร่งหาทางบรรเทาปัญหาเหล่านั้นด้วยการแสวงหาพลังงานสะอาดมาใช้ทดแทน นอกเหนือไปจากการใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานสะอาดแล้ว UCO ยังสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าได้หลากหลายรายการ เช่น สบู่ อาหารสัตว์ เป็นต้น

 

ประเทศไทยไม่ควรมองข้ามศักยภาพของ UCO สถานการณ์ความต้องการปัจจุบันของสหรัฐฯ และควรพิจารณาหาโอกาสเข้าสู่ตลาด UCO สหรัฐฯ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มโอกาสร้างรายได้เข้าประเทศแล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจรายย่อยในประเทศหลายรายที่การทำธุรกิจได้สร้าง UCO ขึ้นมาจำนวนมาก และช่วยลดปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อมภายในประเทศที่มาจากการทิ้ง UCO ในรายงาน Global Supply and Trade of Used Cooking Oil จัดทำโดย GlobalData ระบุว่าประเทศไทยมีการบริโภคน้ำมันพืชต่อคนต่อปีสูงติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกแต่ระดับการเก็บสะสม UCO ต่ำมาก ซึ่งอาจหมายถึงว่า ประเทศไทยกำลังทิ้งวัตถุดิบที่มีคุณค่าและกำลังเป็นที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อประเทศและเป็นที่ต้องการของหลายประเทศทั่วโลก

 

การนำเข้า UCO อยู่ภายใต้กฎระเบียบของหน่วยงาน APHIS (Animal & Plant Health Inspection Service)   กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ โดยสรุปกำหนดว่า การนำเข้า UCO ว่า ถ้าเป็นน้ำมันที่ผลิตจากเนื้อสัตว์ เช่น น้ำมันหมู จะต้องผ่านการตรวจสอบและได้รับใบรับรอง (certification) ว่า ได้ผ่านเข้ากระบวนการให้ความร้อน (heat treatment) ในระดับที่สามารถฆ่าเชื้อโรค foot-and-mouth disease (FMD), swine vesicular disease (SVD), classical swine fever (CSF), virulent Newcastle disease (VND) และ highly pathogenic avian influenza (HPAI) กระทรวงเกษตรสหรัฐฯแนะนำผู้สนใจที่จะนำเข้า/ส่งออกสินค้าน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้วไปยังสหรัฐฯ ให้ส่งอีเมล์ไปขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมที่ apie@usda.gov ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ

 

HS1518.00.40.00 เป็นรหัสศุลกากรที่ศุลกากรสหรัฐฯกำหนดให้ใช้สำหรับการนำเข้า UCO ที่เป็นไขมันและน้ำมันที่มาจากสัตว์และผัก ที่ผ่านเข้ากระบวนการต้ม ออกซิไดล์ ทำให้แห้ง-dehydrated sulfurized, blown, polymerized ด้วยความร้อนเพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนทางเคมี รหัสศุลกากรนี้มีอัตราภาษีกิโลกรัมละ 8% ad valoremแต่ประเทศที่ได้รับสิทธิ GSP ไม่ต้องเสียภาษี

 

ในปี 2021 ราคาขาย UCO จากแหล่งผลิต (ร้านอาหาร) ทั่วไปในสหรัฐฯ ประมาณ 66 เซ็นต์ต่อปอนด์ สูงกว่าในปี 2020 ร้อยละ 80

 

บริษัทสหรัฐฯที่มีศักยภาพจะนำเข้า UCO ได้แก่
1. Baker Commodities Inc. (https://bakercommodities.com) 4020 Bandini Blvd., Vernon, CA 90058 | info@bakercommodities.com

 

2. Greasecycle, LLC, (https://grease-cycle.com) 3900 Commerce Park Dr., Raleigh, NC 27610, info@grease-cycle.com

 

3. Grand Natural Inc. (www.grandnaturalinc.com) 135 S. Lemon St., Orange, CA 92866, Tel. 855 519-5550, info@grandnaturalinc.com

 

4. Darling Ingredients Inc., (www.darlingii.com) (Valley Protein, Inc.), 5601 N. MacArthur Blvd., Irving, TX 75038, Tel. 469 524 8176

 

5. Chevron Renewable Energy Group (www.regi.com) 416 S. Bell Ave., Ames, IA 50010, Tel. 515 239 8000

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส | ตุลาคม 2566 
หมายเหตุ: ข่าวข้างบนนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งที่จัดทำและนำเสนอข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณชนทั่วไป และบางส่วนเป็นความเห็นส่วนบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส นำมารวบรวมเผยแพร่เพื่อแก่ผู้สนใจ เนื่องจากเป็นข้อมูลและความเห็นจากบุคคลที่สาม การนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณเฉพาะบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login