หน้าแรกTrade insightอิเล็กทรอนิกส์และดิจิทัล > สมาชิกอินเทอร์เน็ตไนจีเรียเพิ่มขึ้นเป็น 157.5 ล้านรายกับตลาดอีคอมเมิร์ซ

สมาชิกอินเทอร์เน็ตไนจีเรียเพิ่มขึ้นเป็น 157.5 ล้านรายกับตลาดอีคอมเมิร์ซ

สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานล่าสุดเกี่ยวกับ ‘ข้อมูลโทรคมนาคม: เสียงที่ใช้งานและอินเทอร์เน็ตต่อรัฐ ข้อมูลการโอนและภาษี (ไตรมาส 1 ปี 2023)’ ว่าสมาชิกอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดของไนจีเรียเพิ่มขึ้นเป็น 157,551,104 รายในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 หรือเพิ่มขึ้น 8.02 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ 145,851,496 ล้านที่บันทึกไว้ในไตรมาส 1 ปี 2022 นอกจากนี้ เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.75 โดยที่รัฐลากอสมีจำนวนสมาชิกอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานสูงสุดที่ 26,716,136 ราย ตามมาด้วยรัฐโอกุนและรัฐคาโนจำนวน 13,241,205 และ 12,567,096 รายตามลำดับ

รายงานข้อมูลดังกล่าวแสดงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในไนจีเรียเป็นภาคส่วนที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพมหาศาลในการประสบความสำเร็จด้วยการใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีมือถือที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซจึงมีความสำคัญอย่างมากในไนจีเรียซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา มีการเติบโตอย่างน่าทึ่งในภาคอีคอมเมิร์ซโดยผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายและสามารถเข้าถึงการช้อปปิ้งออนไลน์อย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ การเติบโตของอีคอมเมิร์ซในไนจีเรียนั้นมาจากปัจจัยหลายประการ อาทิ อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้คนเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ง่ายขึ้น การใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้นมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งและการเป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในไนจีเรียได้สร้างโอกาสทางธุรกิจมากมายและให้อำนาจแก่บุคคลจำนวนมากในการเริ่มต้นกิจการของตนเอง นอกจากนี้ อีคอมเมิร์ซยังช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นซึ่งจะเป็นการขยายการเข้าถึงตลาดของพวกเขา

ทั้งนี้ การเติบโตของอีคอมเมิร์ซในไนจีเรียคาดว่าจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการนำระบบการชำระเงินดิจิทัลมาใช้เพิ่มมากขึ้นทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซถูกกำหนดให้ขยายตัวต่อไปโดยมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่สำคัญในไนจีเรีย ได้แก่ Jumia, Konga และ Yudala เป็นต้น ดังนั้นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในไนจีเรียต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงเนื่องจากธุรกิจออนไลน์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและยอมรับว่าอีคอมเมิร์ซเป็นหนทางในการเอาชนะความท้าทายทางธุรกิจแบบดั้งเดิม ดังนั้น โอกาสและความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซมี ดังนี้

โอกาส  – ไนจีเรียมีประชากรจำนวนมากและมีชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น ทำให้มีฐานผู้บริโภคจำนวนมาก

  • การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ได้รับการปรับปรุงและการรุกผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ทำให้สามารถเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น
  • ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสามารถกำหนดเป้าหมายตลาดเฉพาะและตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะได้
  • ความไว้วางใจของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในการช็อปปิ้งออนไลน์สร้างโอกาสในการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ
  • ความร่วมมือกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์และการชำระเงินทำให้การดำเนินงานมีความคล่องตัวสำหรับผู้ประกอบการ

ความท้าทาย  – ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การจ่ายไฟไม่เพียงพอและเครือข่ายถนนที่ไม่ดีอาจเป็นอุปสรรคต่องานฯ

  • การฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ตและอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ก่อให้เกิดความกังวลด้านความปลอดภัยส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของลูกค้าและธุรกรรมออนไลน์
  • ระบบโลจิสติกส์ในการจัดส่งและการชำระเงินสร้างปัญหาในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อและรับการชำระเงิน
  • การเข้าถึงเงินทุนสำหรับสตาร์ทอัพอีคอมเมิร์ซอาจถูกจำกัด ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจ
  • กฎระเบียบและนโยบายของรัฐบาลอาจสร้างอุปสรรคในการเข้ามาและส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ

แม้จะมีความท้าทาย แต่ผู้ประกอบการก็สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสได้โดยการปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มของตลาดโดยมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของลูกค้าและสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งในสังคมการค้าออนไลน์

แนวโน้มการเป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในไนจีเรีย

  • การเพิ่มขึ้นของการค้าบนมือถือและความสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพมือถือซึ่งมีการเติบโตอย่างมากในไนจีเรีย โดยมีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่ใช้สมาร์ทโฟนเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซจึงควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่
  • เปิดรับการค้าขายผ่านโซเชียลและใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ
  • การค้าเพื่อสังคมซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อขายผลิตภัณฑ์และบริการ ได้กลายเป็นเทรนด์ที่ทรงพลังในไนจีเรียโดยผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสามารถใช้ประโยชน์จากเทรนด์นี้ได้โดยการมีส่วนร่วมกับลูกค้าบนโซเชียลมีเดีย และใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การช็อปปิ้งแบบเรียลไทม์ และการติดแท็กผลิตภัณฑ์
  • เปลี่ยนไปใช้ประสบการณ์การช็อปปิ้งส่วนบุคคลและคำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เนื่องจากในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ผู้บริโภคคาดหวังประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบเฉพาะตัวมากขึ้น
  • ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสามารถใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและให้คำแนะนำที่ปรับให้เหมาะสมซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและผลักดันยอดขาย
  • เพิ่มความนิยมของ dropshipping และโมเดลการตลาดแบบเครือข่ายพันธมิตรเนื่องจาก Dropshipping และการตลาดแบบเครือข่ายพันธมิตรกำลังได้รับความสนใจในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไนจีเรียซึ่งผู้ประกอบการสามารถสำรวจโมเดลเหล่านี้โดยที่พวกเขาร่วมมือกับซัพพลายเออร์หรือบริษัทในเครือเพื่อขายสินค้าโดยไม่ต้องเก็บสินค้าคงคลัง ลดต้นทุนล่วงหน้า และขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์

 

       ข้อมูลเพิ่มเติม/ข้อคิดเห็นของ สคต.

ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่ต้องการขยายธุรกิจมาที่ไนจีเรียควรใช้ประโยชน์จากโอกาสที่กำลังเติบโตซึ่งการปรับตัวและติดตามข่าวสารล่าสุดในธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีการพัฒนาตลอดเวลาในไนจีเรียเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งรวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การนำแนวทางปฏิบัติด้านบรรจุภัณฑ์และการจัดส่งอย่างมีความรับผิดชอบ แนวโน้มเหล่านี้เน้นย้ำถึงความต้องการของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในไนจีเรียที่ต้องมีความกระตือรือร้นในการปรับตัวด้วยการติดตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมและการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม ผู้ประกอบการสามารถก้าวนำหน้าการแข่งขันและเจริญเติบโตในภาคธุรกิจสาขาอีคอมเมิร์ซของไนจีเรียที่กำลังพัฒนานี้ได้

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login