หน้าแรกTrade insightข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ > ราคาข้าวท้องถิ่นไนจีเรียพุ่งสูงขึ้น 137%

ราคาข้าวท้องถิ่นไนจีเรียพุ่งสูงขึ้น 137%

สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานราคาอาหารประจำเดือนตุลาคม 2024 ระบุว่าราคาข้าวท้องถิ่นพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งให้ข้อมูลภาพรวมเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มราคาอาหารทั่วประเทศไนจีเรียโดยราคาข้าวท้องถิ่นของไนจีเรียพุ่งสูงขึ้น 137.32 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้เป็นหนึ่งใน 10 อาหารหลักที่แพงที่สุดของประเทศ

ตามรายงานของสำนักงานสถิติฯ ราคาข้าวท้องถิ่นในเดือนตุลาคม 2024 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,944.64 ไนราต่อถุง 1 กก.เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 819.42 ไนราในเดือนตุลาคม 2023 โดยที่ราคาข้าวในท้องถิ่นที่พุ่งสูงขึ้นเน้นย้ำถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อราคาอาหาร ซึ่งกลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับครัวเรือนในไนจีเรียที่ต้องดิ้นรนกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น

ในทางภูมิศาสตร์ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในราคาข้าวท้องถิ่นทั่วไนจีเรียโดยรัฐโคกีบันทึกราคาข้าวท้องถิ่นสูงสุดที่ 2,693.41 ไนราต่อถุง 1 กก. ในขณะที่รัฐเบนูวบันทึกราคาต่ำสุดที่ 1,267.25 ไนราซึ่งความแตกต่างของราคาเหล่านี้ในแต่ละรัฐสะท้อนถึงความแตกต่างในระดับภูมิภาคในด้านอุปทาน อุปสงค์ และช่องทางการจัดจำหน่ายอาหารหลัก อีกทั้ง ยังบ่งชี้ถึงความท้าทายที่เกษตรกรและผู้ผลิตในท้องถิ่นเผชิญต่อการตอบสนองความต้องการท่ามกลางต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นและความท้าทายด้านการขนส่ง

นอกจากนี้ รายงานของสำนักงานสถิติฯ ยังระบุด้วยว่าอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารในไนจีเรียยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือนตุลาคม โดยอยู่ที่ 39.16 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีจาก 31.52 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น รวมถึงผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การขึ้นราคาน้ำมัน และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน

อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปีเกิดจากราคาสินค้าต่อไปนี้เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวโพด ข้าว (ประเภทขนมปังและธัญพืช) มันเทศ มันฝรั่ง (ประเภทมันฝรั่ง มันเทศและหัวพืชอื่นๆ) น้ำมันปาล์ม น้ำมันพืช (ประเภทน้ำมันและไขมัน) และไมโล ลิปตัน บูร์วิตา (ประเภทกาแฟ ชาและโกโก้) ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารที่เพิ่มขึ้นเป็นแนวโน้มที่น่ากังวลสำหรับชาวไนจีเรีย เนื่องจากบ่งชี้ว่าราคาอาหารมีแนวโน้มที่จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้งบประมาณครัวเรือนมีแรงกดดันเพิ่มขึ้น นอกจากข้าวพื้นเมืองแล้ว ข้าวเกษตร ซึ่งโดยทั่วไปขายโดยเกษตรกรในท้องถิ่น ก็พบว่าราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นโดยราคาข้าวเกษตรในเดือนตุลาคม 2024 เพิ่มขึ้น 138.90 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 2,023.68 ไนราต่อถุง 1 กก.จาก 847.08 ไนราต่อถุง 1 กก.ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ราคาข้าวเกษตรแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในแต่ละรัฐ โดยรัฐนาซาราวารายงานราคาสูงสุดที่ 3,120.49 ไนราต่อถุง 1 กก ในขณะที่รัฐเบนิวมีราคาต่ำสุดที่ 1,354.87 ไนรา ทั้งนี้ ข้าวเกษตรซึ่งโดยปกติแล้วเป็นตัวเลือกที่เอื้อมถึงได้มากกว่าเมื่อเทียบกับข้าวแปรรูปท้องถิ่น กลับมีราคาแพงขึ้นอย่างมาก ทำให้วิกฤตค่าครองชีพสำหรับคนไนจีเรียหลายคนเลวร้ายลงไปอีก สื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์รายงานว่าราคาข้าว Ofada และข้าวนำเข้าก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ส่งผลให้ราคาอาหารในไนจีเรียมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยข้าว Ofada ซึ่งเป็นพันธุ์ท้องถิ่นที่ปลูกเป็นหลักในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย มีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งในเดือนตุลาคม ราคาข้าว Ofada เฉลี่ยอยู่ที่ 2,428.65 ไนรา เพิ่มขึ้นจาก 811.83 ไนราในเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งเพิ่มขึ้น 199.16 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับอาหารหลักและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ ข้าวที่นำเข้าจากตลาดต่างประเทศ ก็มีการปรับขึ้นราคาอย่างมากซึ่งได้รับอิทธิพลจากการลดค่าของเงินไนรา   ภาษีนำเข้า และความผันผวนของราคาในตลาดข้าวทั่วโลกโดยราคาเฉลี่ยของข้าวที่นำเข้าในเดือนตุลาคม 2024 เพิ่มขึ้นเป็น 2,471.28 ไนราต่อถุง 1 กก. จาก 1,016.12 ไนราต่อถุง 1 กก. ในเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้น 143.21 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีโดยรัฐโคกิบันทึกราคาสูงสุดสำหรับข้าวชนิดนี้ที่ 3,187.35 ไนรา ในขณะที่ไนเจอร์มีราคาต่ำสุดที่ 2,017.04 ไนรา

อนึ่ง การเพิ่มขึ้นของราคาส่วนใหญ่มาจากความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศซึ่งทำให้ข้าวที่นำเข้ามีราคาแพงขึ้น รวมถึงราคาข้าวโลกที่สูงขึ้นซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความขัดแย้งในยูเครนและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ราคาข้าวที่นำเข้าสูงขึ้นนั้นซ้ำเติมด้วยการที่ไนจีเรียต้องพึ่งพาการนำเข้าเพื่อตอบสนองความต้องการข้าวในประเทศ แม้ว่าผลผลิตในท้องถิ่นจะเติบโตขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของประเทศได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ต้องพึ่งพาข้าวที่นำเข้ามากขึ้น ราคาข้าวท้องถิ่น ข้าว Ofada และข้าวที่นำเข้าที่สูงขึ้นมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เงินเฟ้อด้านอาหารในไนจีเรียสูงขึ้นซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ววุฒิสมาชิกได้เรียกร้องให้รัฐบาลกลาง รัฐ และท้องถิ่นแก้ไขปัญหาต้นทุนอาหารพื้นฐานที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งยังคงเพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศแม้จะเป็นฤดูเก็บเกี่ยว

อ่านข่าวฉบับเต็ม : ราคาข้าวท้องถิ่นไนจีเรียพุ่งสูงขึ้น 137%

Login