รัฐบาลอียิปต์เร่งแก้วิกฤตเศรษฐกิจ
ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี มอบนโยบายให้รัฐบาลโดยเร่งบรรเทาภาระวิกฤตเศรษฐกิจ ที่กระทบต่อประชาชน ลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ดำเนินการปฏิรูปโครงสร้าง และเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนให้สูงสุด
อียิปต์ยกระดับบทบาทของภาคเอกชนโดยขจัดอุปสรรคของระบบราชการและส่งเสริมความเป็นกลางทางการแข่งขัน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าดึงดูดใจสำหรับการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับรายได้
นับตั้งแต่ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อียิปต์ประสบปัญหากับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเมืองประจำปีพุ่งขึ้นเป็น 35.7% ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นจาก 32.7% ในเดือนพฤษภาคม และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานประจำปีเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 41.0 ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 40.3 ในเดือนพฤษภาคม
ในเดือนสิงหาคม คณะกรรมการนโยบายการเงิน ของ Central Bank of Egypt ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1 (100 bps) ในการประชุมครั้งแรกในปีงบประมาณ 2566/2567 การเพิ่มในครั้งนี้ ทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยโดยรวมในปี 2566 ทั้งหมดเป็นร้อยละ 3 (300bps) และคิดเป็นร้อยละ 12 (1200 bps) นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022
ข้อสังเกต
การปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลตั้งแต่ปี 2559 ตามแนวทางของ IMF ช่วยให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ก็เพิ่มค่าครองชีพให้กับชาวอียิปต์จำนวนมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งนี้กลับทำให้ระดับความยากจนรุนแรงขึ้นและทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้มากขึ้น
อีกทั้ง ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเปราะบางทางเศรษฐกิจของอียิปต์ ในการพึ่งพาภาคส่วนต่างๆ ของประเทศ เช่น การท่องเที่ยว และการส่งเงินกลับประเทศของแรงงานอียิปต์ในต่างแดน ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโรคระบาด ส่งผลให้เศรษฐกิจหดตัว
โดยในปี 2566 อียิปต์ต้องเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ ดังนี้
- การเติบโตของประชากร อียิปต์มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้การว่างงานรุนแรงขึ้น และก่อให้เกิดอัตราความยากจนสูง
- การว่างงาน แม้จะมีประชากรจำนวนมาก อายุน้อย และกำลังเติบโต อียิปต์ก็ประสบปัญหากับอัตราการว่างงานที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนหนุ่มสาว สิ่งนี้เกิดจากความไม่ลงตัวระหว่างทักษะที่ระบบการศึกษามอบให้กับความต้องการของตลาดแรงงาน
- หนี้สาธารณะ อียิปต์มีหนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูง ซึ่งใช้งบประมาณส่วนใหญ่ของรัฐบาลในการชำระหนี้ ทำให้มีพื้นที่น้อยลงสำหรับการลงทุนภาครัฐที่มีประสิทธิผลในด้านต่างๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และการดูแลสุขภาพ
- เงินเฟ้อและค่าครองชีพ การปฏิรูปทางเศรษฐกิจตามนโยบายของ IMF เช่น การลดค่าของเงินปอนด์อียิปต์และการลดเงินอุดหนุน ทำให้ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง
- การกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ แม้ว่าอียิปต์จะมีภาคส่วนที่หลากหลาย แต่เศรษฐกิจกลับพึ่งพาแหล่งรายได้ที่ผันผวนอย่างมาก เช่น การท่องเที่ยว ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นคงทางการเมืองและเหตุการณ์ระดับโลก เช่น การระบาดของโควิด-19 รวมถึงบริษัทใหญ่ของอียิปต์เป็นของกองทัพ ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจไม่ได้ถูกกระจายสู่ภาคเอกชนมากนัก
- ความไม่มั่นคงทางการเมือง อียิปต์เผชิญกับช่วงเวลาที่ไร้เสถียรภาพทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอาหรับสปริง ปี 2553 สร้างความกังวลแก่นักลงทุนในระยะยาว ส่งผลให้เกิดการชะลอการลงทุนจากต่างประเทศ และขัดขวางกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
- โครงสร้างพื้นฐานและการลงทุน อียิปต์ประสบปัญหาในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความคาดเดาไม่ได้ของกฎระเบียบ นอกจากนี้ การขาดโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
- ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ยังคงมีอยู่ในระดับสูง โดยประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใกล้หรือต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจน ในขณะที่สังคมส่วนน้อยควบคุมความมั่งคั่งส่วนใหญ่ของประเทศ
การจัดการกับความท้าทายทางเศรษฐกิจเหล่านี้จำเป็นต้องมีนโยบายที่ครอบคลุมซึ่งส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและครอบคลุม ปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ลงทุนในทุนมนุษย์ และเสริมสร้างเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมสำหรับกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย
การลงทุนในภาคต่างๆ เช่น พลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีดิจิทัลสามารถกระจายเศรษฐกิจและเป็นการสร้างงานได้มากขึ้น นโยบายเศรษฐกิจควรให้ความสำคัญกับการลดความยากจนและการกระจายความมั่งคั่งเพื่อให้แน่ใจว่าการเติบโตอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ อียิปต์จำเป็นต้องลงทุนในทุนมนุษย์เพื่อให้ประชากรวัยหนุ่มสาวมีทักษะที่จำเป็นในระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาและการฝึกอบรม และส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา
แม้ว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลจะมีความจำเป็น แต่การปฏิรูปในอนาคตจำเป็นต้องคำนึงถึงผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชากรที่เปราะบางที่สุด ควรมีการเพิ่มมาตรการคุ้มครองทางสังคมเพื่อรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิรูปดังกล่าว
——————————————–
https://english.ahram.org.eg/NewsContent/1/64/506130/Egypt/Politics-/Sisi-directs-gov%E2%80%99t-to-mitigate-impacts-of-economic.aspx
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)