หน้าแรกTrade insightการค้าระหว่างประเทศ > รัฐบาลอียิปต์ริเริ่มโครงการลดราคาสินค้าจำเป็นเพื่อลดผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรง

รัฐบาลอียิปต์ริเริ่มโครงการลดราคาสินค้าจำเป็นเพื่อลดผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรง

รัฐบาลอียิปต์ประกาศริเริ่มโครงการลดราคาสินค้าจำเป็น โดยเฉพาะสินค้าอาหาร เพื่อลดผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรง โดยจะแจ้งรายละเอียดโครงการในสัปดาห์ถัดไป

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 นายกรัฐมนตรี Mostafa Madbouly ได้ประชุมหารือเพื่อขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ สหพันธ์สภาหอการค้าอียิปต์ สหภาพอุตสาหกรรม บริษัทอาหารและผู้ค้าในประเทศ รวมถึงธนาคารกลางอียิปต์ กระทรวงอุปทานและการค้าภายใน กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและการฟื้นฟูที่ดิน และกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม  โดยโครงการลดราคาสินค้าจำเป็นเป็นการดำเนินการร่วมกันของหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีอุปทานของสินค้าต่าง ๆ ที่เพียงพอในตลาดอียิปต์ จนสามารถรักษาราคาสินค้าจำเป็นให้คงที่ไว้ได้ โดยเฉพาะสินค้าอาหาร  นอกจากนี้ ธนาคารกลางอียิปต์จะต้องจัดหาเม็ดเงินดอลลาร์สหรัฐที่จำเป็นต่อการนำเข้าสินค้าจำเป็นอื่นๆ เพื่อป้องกันสินค้าขาดตลาด จนส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในภาพรวม

ทั้งนี้ ราคาของสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในอียิปต์ รวมถึงสินค้าอาหาร ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน และเศรฐกิจโลกซบเซา กอปรกับภาวะการขาดแคลนเงินดอลลาร์สหรัฐ และวิกฤตค่าเงินปอนด์อียิปต์ ที่อ่อนค่าลงกว่าร้อยละ 50 ได้ส่งผลให้อียิปต์เข้าสู่ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจจนถึงปัจจุบัน

 

 

ข้อสังเกต

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปประจำปีของอียิปต์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 39.7 ในเดือนสิงหาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 38.2 ในเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งสูงกว่าระดับที่ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ว่า ในปี 2566 อียิปต์จะมีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 32.3 ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 2564 และ 2563 อย่างมีนัยสำคัญ ที่ร้อยละ 5.2 และร้อยละ 5 ตามลำดับ ทำให้สินค้าและบริการสำคัญมีราคาที่สูงขึ้นในหลายรายการ เช่น

  • ราคาสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 71.9 เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • ราคาผักเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.4 ในเดือนสิงหาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.5 ในเดือนก่อนหน้า
  • ราคาบริการที่อยู่อาศัยและร้านอาหารเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 49.5 ต่อปี

การควบคุมและลดผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรงเป็นการดำเนินการที่สำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลอียิปต์ในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นเงื่อนไขสำคัญที่อียิปต์จะต้องดำเนินการเพื่อแลกกับเงินกู้มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้อนุมัติแล้วเมื่อเดือนธันวาคมปี 2565 โดยรัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อควบคุมการขึ้นราคาสินค้าจำเป็น และลดผลกระทบโดยในเดือนกันยายน 2566 ประธานาธิบดีได้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสำหรับพนักงานภาครัฐจาก 3,500 ปอนด์อียิปต์ เป็น 4,000 ปอนด์อียิปต์

นอกจากนี้ รัฐบาลอียิปต์ยังประสบกับภาระหนี้สาธารณะที่สูงกว่าร้อยละ 92 ของจีดีพี และปัญหาพลังงานในประเทศ ซึ่งอียิปต์จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อนำเข้าน้ำมันมาใช้การผลิตไฟฟ้า ท่ามกลางราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่า อียิปต์อาจมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ถีบตัวสูงขึ้นจาก 65-70 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล เป็น 90 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล

โครงการลดราคาสินค้าจำเป็นอาจช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ในระยะสั้นเท่านั้น รัฐบาลอียิปต์ยังคงต้องใช้พยายามต่อไป เพื่อจัดการกับวิกฤตเศรษฐกิจกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน เพื่อมิให้ส่งผลกระทบรุนแรงและต่อเนื่องจนกลายเป็นปัญหาในระยะยาว จนยากที่จะแก้ไขและฟื้นฟูให้เข้าสู่ภาวะปกติได้ดังเดิม

——————————————–

ที่มา :

https://english.ahram.org.eg/NewsContent/3/12/509509/Business/Economy/Egypt-government-to-launch-initiative-to-reduce-pr.aspx

https://english.ahram.org.eg/NewsContent/1/64/508478/Egypt/Politics-/President-Sisi-raises-public-sector-wages-amp;-Tak.aspx

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login