ที่มา : The Star
ยอดขายรถยนต์ในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เป็น 63,676 คัน จาก 49,934 คัน ในปี 2565 เนื่องจากการฟื้นฟูของห่วงโซ่อุปทานยานยนต์และการปฏิบัติตามการจองที่ได้รับสำหรับการเปิดตัวรุ่นใหม่
ไม่นานมานี้ รายงานโดย สมาคมยานยนต์มาเลเซีย (Malaysian Automotive Association : MAA) กล่าวว่า สำหรับเดือนกรกฎาคม 2566 ปริมาณอุตสาหกรรมรวม (TIV) สูงกว่าเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 1.7
(ซึ่งอยู่ที่ 62,593 คันในเดือนมิถุนายน) เนื่องจากยอดขายรถยนต์ยังคงมีแรงต้านที่สูงขึ้น
จากจำนวนยอดขายรถยนต์เมื่อกรกฎาคมนั้น ประกอบด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล 57,939 คัน
และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อยู่ที่จำนวน 5,737 คัน ในขณะที่ ในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว (2565) รถยนต์ส่วนบุคคล 44,574 คันและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 5,360 คัน จำนวนยอดขายรถยนต์รวมรายปีเพิ่มขึ้น
เป็น 429,807 คัน จาก 381,680 คันในช่วงเวลาเดียวกันจากที่แล้ว
MAA กล่าวว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมรวมที่บันทึกไว้ในเดือนกรกฎาคม 2566 อยู่ที่ 66,862 คัน ซึ่งสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน (58,051 คัน) สำหรับการคาดการณ์ในเดือนสิงหาคม MAA กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์คาดว่าจะสูงกว่าเดือนกรกฎาคม 2023 เล็กน้อย รายงานเสริมว่า แนวโน้มว่าสูงขึ้นเนื่องจาก
การเปิดตัวรุ่นใหม่ 2 – 3 รุ่น รวมถึงแคมเปญส่งเสริมการขายวันชาติมาเลเซียโดยบริษัทรถยนต์บางแห่ง
เมื่อเดือนที่ (กรกฎาคม) MAA ได้รายงานปรับการคาดการณ์ปริมาณอุตสาหกรรม (TIV) เพิ่มขึ้นสำหรับปี 2566 เป็น 725,000 คันจาก 650,000 คันที่รายงานในเดือนมกราคม เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจ
ที่มั่นคงการเปิดตัวโมเดลใหม่ และการปรับปรุงเพิ่มเติมในสภาพแวดล้อมห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์
แม้จะมี TIV ที่แข็งแกร่งสำหรับปีนี้ แต่ Hong Leong Investment Bank Research รายงานล่าสุด ว่ายังคงรักษาการเรียกร้องที่เป็นกลางสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในท้องถิ่น แม้ว่ายอดปัจจุบันจะสูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากยอด TIV อาจจะลดลงหลังจากปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ Backlog ขนาดใหญ่ซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่จำนวน 300,000 คัน โดย Hong Leong Investment Bank Research คงยึดมั่นใน TIV ที่ 700,000 คันในปี 2566 เนื่องจากคาดว่าจะมีการส่งมอบที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยคำสั่งซื้อที่ค้างอยู่ในระดับสูงของอุตสาหกรรมและการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ
แม้ว่าผลการดำเนินงานของ TIV จะทำลายสถิติที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ แต่ RHB Research รายงานการคาดการณ์ว่า จำนวนยอดขายรถยนต์จะลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2567 และยังคงคาดว่ามูลค่าหุ้น
ของบริษัทเหล่านี้จะมีมูลค่าที่แข็งแกร่งในปี 2566 นอกจากนี้ ความเสี่ยงด้านลบที่สำคัญต่อภาคส่วนนี้ ได้แก่ คำสั่งซื้อและการส่งมอบที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ ตลอดจนปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ฟื้นตัวขึ้น
ข้อมูล : ปริมาณอุตสาหกรรมรวม TIV ปี 2561 – 2565 ที่มา : Berita Harian
2565 – 720,658 คัน
2564 – 508,911 คัน
2563 – 529,514 คัน
2562 – 604,287 คัน
2561 – 598,598 คัน
ข้อมูล : ปริมาณอุตสาหกรรมรวม TIV ในเดือนมกราคม – มิถุนายน ของปี 2565 และ 2566 ที่มา : The Edge
ความคิดเห็น สคต.
ปัจจัยหลักที่ทำให้ตัวเลข [ประมาณการ] ยอดขายรถยนต์ในมาเลเซียเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้เนื่องจากการสนับสนุนจากยอดขายจากผู้ผลิตรถยนต์ระดับประเทศของมาเลเซีย และประสิทธิภาพของผู้ผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับชาติ อีกทั้ง เนื่องจากในปีนี้ยังได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่มั่นคง 2023 โดยเศรษฐกิจท้องถิ่นของประเทศมาเลเซียคาดว่าจะขยายตัวระหว่างร้อยละ 4 ถึงร้อยละ 5 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้รักษาเสถียรภาพอัตราดอกเบี้ยของตลาดในแง่ของการเงินหรือเงินกู้
ถึงแม้ว่าการคาดการณ์ดังกล่าวจะมีความมั่นคง อย่างไรก็ตาม สคต. เล็งเห็นว่า ภาคอุตสาหกรรม
ยานยนต์ยังคงได้รับความเสี่ยงจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ อาทิ การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง ความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น รายได้รายวันที่หดตัว อัตราเงินริงกิตที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงิน USD
และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในประเทศและทั่วโลก
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)