สมาชิกของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (Vietnam Automobile Manufacturers Association: VAMA) ในเดือนกรกฎาคม 2566 ขายรถยนต์ได้ 24,687 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ในเดือนมิถุนายน 2566 อยู่ที่ 23,800 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า
จากจำนวนรถยนต์ที่จำหน่ายในเดือนก่อน รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 19,221 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 5,318 คัน ลดลงร้อยละ 16 และรถยนต์อเนกประสงค์ 148 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน รถยนต์ประกอบในประเทศอยู่ที่ 13,575 คัน ลดลงร้อยละ 12 ในขณะที่จำนวนรถยนต์นำเข้า (CBU) อยู่ที่ 11,112 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 34
ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 สมาชิกสมาชิกของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนามขายรถยนต์ทุกประเภทรวมจำนวน 162,014 คัน ลดลงร้อยละ 30 ต่อปี โดยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ลดลงร้อยละ 34 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ลดลงร้อยละ 13 และรถยนต์อเนกประสงค์ลดลงร้อยละ 63
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นอกจากหน่วยสมาชิกสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนามแล้ว ตลาดรถยนต์เวียดนามยังรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น เช่น Audi, Jaguar Land Rover, Mercedes-Benz, Nissan, Subaru, Volkswagen และ Volvo แต่ไม่เปิดเผยผลประกอบการ
ในขณะเดียวกัน Thanh Cong Group (TC Group) ประกาศในเดือนกรกฎาคม 2566 มียอดขาย 4,035 คัน ทำให้ยอดขาย 6 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 14,680 คัน สำหรับ VinFast มียอดขาย 3,042 คัน ทำให้ยอดขาย 6 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 14,680 คัน
ในเดือนกรกฎาคม 2566 TC Group และ VinFast, Hyundai ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ด้วยจำนวน 4,035 คัน แม้ว่าจะลดลงร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ตามมาด้วย Toyota, KIA, Mitsubishi และ Ford
ตลาดรถยนต์เวียดนามคาดว่า จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2566 จากนโยบายลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนร้อยละ 50 อย่างไรก็ตาม กำลังซื้ออาจไม่เติบโตอย่างรวดเร็วเหมือนปีก่อน เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของตลาดหุ้น อสังหาริมทรัพย์ และตลาดสินเชื่อผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่เหมือนปีก่อน
(จาก https://vietnamnews.vn/)
ข้อคิดเห็น สคต
จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของแบรนด์ต่างๆ ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค พร้อมกับการส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการเวียดนาม เช่น การลดราคารถยนต์ การลดค่าจดทะเบียนรถ เป็นต้น คาดว่า ยอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการนิยมซื้อรถยนต์มากขึ้นของคนเวียดนาม ซึ่งจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อการเติบโตของการส่งออกชิ้นส่วนจากไทยมายังเวียดนามในปี 2566 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลได้อนุมัติการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนร้อยละ 50 สำหรับรถยนต์ที่ผลิตและประกอบในเวียดนามตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 (เท่ากับการลดลงร้อยละ 5 – 6 ของราคาที่รวมค่าธรรมเนียม/ภาษี) คาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์เวียดนามจะเติบโตในอนาคต จากนโยบายการสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศของรัฐบาลเวียดนามในการส่งเสริมออกนโยบายลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนรถร้อยละ 50 สำหรับรถยนต์ที่ประกอบในประเทศจะเป็นความท้าทายสำหรับรถยนต์นำเข้าในตลาดเวียดนาม
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)