หน้าแรกTrade insightการค้าระหว่างประเทศ > ภาวะเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักร

ภาวะเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักร

British Retail Consortium (BRC) กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อของราคาสินค้าโดยรวมลดลงเหลือร้อยละ 8.4   ในเดือนมิถุนายน 2566 ลดลงจากร้อยละ 9 ในเดือนพฤษภาคม 2566 เนื่องจากผู้ค้าปลีกลดราคาสินค้าที่จำเป็นหลายชนิด รวมถึง นม ชีส ไข่ เสื้อผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ จากการวิจัยของ Kantar พบว่าราคาสินค้า Grocery เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 ในช่วงสี่สัปดาห์ในช่วงระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม – 11 มิถุนายน 2566 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 โดย Kantar เห็นว่าเมื่อเปรียบเทียบราคาสินค้ากับอัตราเงินเฟ้อของสินค้า Grocery ที่เพิ่มขึ้นในปี 2565 เห็นว่าราคาสินค้ามีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ดี ร้อยละ 70 ของผู้บริโภคยังคงมีความกังวลต่อราคาสินค้าอาหารที่สูงขึ้น

Kantar เห็นว่าผู้บริโภคคำนึงถึงอาหารที่รับประทานและวิธีการปรุงอาหารมากขึ้น เนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพ  ได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดคือผู้บริโภคปรุงอาหารเมนูที่ง่ายและใช้ส่วนผสมน้อยลง ลดการใช้เตาแก๊สในการปรุงอาหาร และมีการใช้เครื่องปิ้งขนมปังและเตาย่างมากขึ้น จากการวิจัยของ Kantar พบว่าชาวสหราชอาณาจักรหันมาทำอาหารด้วยไมโครเวฟเพิ่มมากขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย     โดยผู้บริโภคมีการทำอาหารที่ใช้เตาอบลดลงร้อยละ 4 ในช่วงระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 11 มิถุนยายน 2566 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ในขณะที่อาหารพร้อมรับประทานที่นำมาอุ่นในไมโครเวฟ (microwaved meals) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 โดยผู้บริโภคพยายามลดการใช้พลังงานหลังจากที่ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นจากสงครามยูเครน และหันไปซื้อสินค้า Own label ของห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตในกลุ่มสินค้า Value range มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายสินค้า Value range เพิ่มขึ้นร้อยละ 41 ทั้งนี้ ยอดขายของห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายสินค้าราคาถูก ได้แก่ Aldi และ Lidl เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6 และร้อยละ 23.2 ทำให้ทั้งสองห้างมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น

   ที่มา: BBC News และ The Guardian

ข้อมูลเพิ่มเติม/ความเห็น สคต.

ราคาอาหารในสหราชอาณาจักรกำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 45 ปี โดยสินค้าอาหารหลัก เช่น น้ำตาลและพาสต้าพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาสินค้า Grocery ที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อโดยรวมในสหราชอาณาจักรยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลสหราชอาณาจักรและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศอังกฤษต่างตั้งคำถามต่อห้างค้าปลีกว่าเหตุใดราคาสินค้าที่จำหน่ายในห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตจึงไม่ลดลงอย่างรวดเร็วเท่ากับราคาขายส่งของวัตถุดิบ เช่น ข้าวสาลี ที่ลดลงแล้ว

นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของสินค้าอาหารจะผ่อนคลายลงภายในปีนี้ หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ดัชนีราคาอาหารระหว่างประเทศของ UN (The UN’s international food price index) ได้ลดลงมากกว่าหนึ่งในห้า นับตั้งแต่แตะจุดสูงสุดในเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งเป็นผลจากการลดลงอย่างมากของราคาน้ำมันพืช ซีเรียล และผลิตภัณฑ์จากนม อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของอุตสาหกรรมผลิตนมสดของสหราชอาณาจักรเตือนว่าความตกลงในด้านการตรวจผ่านชายแดนของสหราชอาณาจักรหลัง Brexit มีความเสี่ยงที่จะผลักดันราคาอาหารให้สูงขึ้นอีก เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2567

สคต. เห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรยังคงส่งผลให้ผู้คนยังคงรัดเข็มขัดและปรับพฤติกรรมการบริโภคเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น การปรุงอาหารในเมนูที่ง่ายและใช้ส่วนผสมน้อยลง ลดการใช้เตาแก๊ส และเตาอบในการปรุงอาหาร โดยหันมาใช้ไมโครเวฟในการปรุงอาหารมากขึ้น สำหรับสินค้าอาหารไทยยังคงมีโอกาสในการขยายตลาดในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง ซ้อสปรุงสำเร็จ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค

                                                                                      สรุปโดย สคต. ลอนดอน

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login