หน้าแรกTrade insightข้าว > ภาคธุรกิจโฮเรก้า (HoReCa) ของอิตาลี กลับมาคึกคักสวนทางเศรษฐกิจ

ภาคธุรกิจโฮเรก้า (HoReCa) ของอิตาลี กลับมาคึกคักสวนทางเศรษฐกิจ

ภาคธุรกิจโฮเรก้า (HoReCa) ของอิตาลี กลับมาคึกคักสวนทางเศรษฐกิจ
ภาคธุรกิจโฮเรก้า (HoReCa) กลับมามีความแข็งแกร่งและฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการยกเลิกมาตรการโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของช่องทางการทานอาหารนอกบ้าน ได้แก่ บาร์ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร รถขายอาหารเร่ (Street food) อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานแบบซื้อกลับบ้าน (Takeaway) และการสั่งอาหารให้ส่งถึงบ้าน (Delivery) แต่อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอยู่ ราคาอาหารตามแหล่งบริการอาหารเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอีกระหว่าง 5% – 10% ในปี 2566

ภาคธุรกิจ HoReCa ปิดฉากปี 2565 ด้วยการเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าจะยังคงน้อยกว่าปี 2562 ถึง 4% อย่างไรก็ตาม ปี 2565 เป็นปีแห่งการฟื้นฟูและสร้างเสถียรภาพสำหรับธุรกิจร้านอาหาร และการปรับตัวของแนวโน้มบางอย่าง (เช่น Smart-working, Takeaway และ Delivery) ที่มีการพัฒนารูปแบบและขยายธุรกิจอย่างมากในช่วงล็อกดาวน์โรคระบาดโควิด-19 และก็ยังคงอยู่ แม้ว่าจะปรับลดลงและกลับเป็นปกติแล้วก็ตามในต้นปี 2566 การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจในต้นปี 2566 ไม่ส่งผลกระทบมากต่อธุรกิจการทานอาหารนอกบ้าน และผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากผู้บริโภค (92.9%) โน้มเอียงไปทางการประหยัดค่าสินค้าและบริการอื่นๆ แต่ไม่ลดหรือเลิกการพบปะกันเพื่อสังสรรค์และสนุกสนานตามสถานประกอบการด้านอาหาร อย่างไรก็ตาม แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เป็นลักษณะเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 จะยังติดตามไปในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งอาจสร้างผลกระทบให้ร้านอาหารต้องปรับขึ้นราคาอาหารตามราคาวัตถุดิบ ในขณะที่อำนาจการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง ในบริบทเช่นนี้ ผู้ประกอบการภาคร้านอาหารต่างเตรียมการและหากลยุทธ์ที่มุ่งลดผลกระทบ จากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ HoReCa มากกว่า 80% ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุน จึงจำเป็นต้องผลักภาระบางส่วนให้กับผู้บริโภคด้วยการขึ้นราคา ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าในปี 2566 การเติบโตของการบริโภคอาหารนอกบ้านจะอยู่ที่ +5% ถึง +10% เมื่อเทียบกับปี 2565
เสถียรภาพของภาคธุรกิจ HoReCa ในปี 2566 มาจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ความมั่นคงของความต้องการของผู้บริโภคชาวอิตาลี ความใส่ใจของผู้บริโภคที่มีต่อคุณภาพของส่วนผสม การค้นหาเอกลักษณ์และความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ และข้อเสนอที่เข้าถึงได้มากขึ้น นอกจากนี้ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากการหลั่งไหลเข้ามาของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศอย่างคาดไม่ถึง ช่วยให้ภาคธุรกิจโฮเรก้าทั้งหมด ได้แก่ บาร์ ร้านอาหาร โรงแรม การจัดเลี้ยง มีความคึกคักและค่อยๆชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้นในช่วงล็อกดาวน์
การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวหลังจากการหดตัวในปีล็อกดาวน์โควิด-19 (ปี 2563) การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2565 และกลับมาใกล้ระดับก่อนเกิดโควิดมากขึ้น (-10% เทียบกับปี 2562) และมีแนวโน้มที่ยอดเยี่ยมในปี 2566 ภาวะเงินเฟ้อทำให้ชาวอิตาลีกว่า 60% เลือกการเที่ยวในประเทศ การเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศส่งผลดีต่อธุรกิจ HoReCa และเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับธุรกิจโฮเรก้าโดยตรงทั้งหมดและในวงกว้าง (โดยเฉพาะโรงแรมและร้านอาหาร ที่ได้รับอานิสงค์จากนักท่องเที่ยวมากที่สุด) และอิตาลีเป็นประเทศเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวและนักช้อปปิ้งชาวต่างชาติ ด้วยภูมิประเทศที่มีความหลากหลาย และสินค้าแบรนด์เนมยี่ห้อดังมากมาย ที่สามารถต้อนรับและสร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ
พฤติกรรมการทำงานระยะไกล (smart-working)

ในช่วงล็อกดาวน์โรคระบาดโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานอย่างพลิกผัน การทำงานอยู่กับบ้านแบบระยะไกล ส่งผลกระทบในทางลบต่อธุรกิจ HoReCa ทั้งหมด ทำให้คนที่เคยออกไปทำงานนอกบ้านงดอาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันนอกบ้าน หลังจากที่รัฐบาลยกเลิกมาตรการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 การทำงานอยู่กับบ้านก็ค่อยๆลดลง และในปี 2565 ยังคงเป็นการปรับให้เป็นมาตรฐานของโมเดลไฮบริด โดยการทำงานจากที่บ้านยังคงอยู่เป็นเวลา 2-3 วันต่อสัปดาห์ (และมีแนวโน้มลดลงในปี 2566 ที่บริษัทหลายแห่งยกเลิก smart-working โดยสิ้นเชิง) และมีแนวโน้มสูงขึ้นในการออกไปทานอาหารมื้อเย็นนอกบ้าน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือวิวัฒนาการขยายตัวของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในคลับ บาร์ หรือร้านอาหาร ซึ่งระหว่างปี 2564 ถึง 2565 มีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มจาก 15% เป็น 25%
ความยั่งยืนกลายเป็นปัจจัยสำคัญ
ความยั่งยืนกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนการแข่งขันของสินค้าอุปโภคบริโภค เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ประเด็นด้านความยั่งยืนทำให้ภาคอุตสาหกรรมหันมาดำเนินนโยบายยั่งยืนมากขึ้นในกระบวนการผลิต และในตัวผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน โดยใช้ส่วนผสมที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ การใช้ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ การใช้ผลผลิตที่มีและหาได้จากเกษตรกรหรือผู้ผลิตในท้องถิ่น การไม่เหลือทิ้ง เป็นต้น เพื่อแสดงให้เห็นความไม่ดูดายต่อสังคมและการมีส่วนรับผิดชอบผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
การพัฒนารูปแบบธุรกิจ

ช่วงล็อกดาวน์โรคระบาดโควิด-19 ผลักดันให้การพัฒนารูปแบบส่งสินค้าอุปโภคและบริโภคถึงบ้าน “Food and Grocery Delivery” เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการขยายตัวของแพลตฟอร์มบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2565 ผู้บริโภคชาวอิตาลีเกือบ 4 ใน 10 คนใช้บริการส่งถึงบ้าน มีมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า จาก 1.5 พันล้านยูโร เป็น 4.0 พันล้านยูโร ช่วงระหว่างปี 2562 – ปี 2564 แต่หลังจากการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ การฟื้นตัวของการบริโภคอาหารนอกบ้านค่อยๆเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงกลางปีที่มีอากาศดีและเป็นช่วงท่องเที่ยวพักผ่อน ธุรกิจเดลิเวรี่ปรับตัวลงเป็นปกติ แต่จะคึกคักขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่คนอยู่บ้านมากขึ้น
ภาคธุรกิจ HoReCa มีความยืดหยุ่นในการรับมือกับความผันแปรของสถานการณ์เศรษฐกิจ เนื่องจากพื้นฐาน 3 ประการ ได้แก่ ผู้ประกอบการในแต่ละสาขามีประสบการณ์และจุดยืนที่ชัดเจน มีความยืดหยุ่นในการปรับการบริหารจัดการให้เข้ากับกำลังซื้อของผู้บริโภค และการยอมรับความยั่งยืนว่าเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นในการแข่งขัน รวมถึงการใช้นโยบายความยั่งยืนในการพัฒนาธุรกิจ
ความคิดเห็นของ สคต.มิลาน
1. ภาคธุรกิจ HoReCa เป็นธุรกิจที่มีการกระจายสินค้าและบริการในวงกว้าง ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาช่องทางธุรกิจดังกล่าว ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจที่ต้องการซื้อสินค้าแบบขายส่งในปริมาณมาก เพื่อนำไปกระจายตามเครือข่าย จึงเป็นช่องทางที่ผู้ประกอบการไทยจะสามารถขายสินค้าได้มากและต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นภาคที่มีการหมุนเวียนสินค้าจำนวนมากและระบายสินค้าได้รวดเร็ว
2. สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มเป็นสินค้าหลักของธุรกิจ HoReCa ผู้ประกอบการไทยสามารถเจาะตลาดสินค้าดังกล่าว เช่น อาหารแช่แข็ง ข้าว ซอสปรุงรส เครื่องเทศ ฯลฯ สำหรับการนำไปปรุงอาหาร ซึ่งจะไม่เน้นยี่ห้อ แต่จะต้องมีคุณภาพและราคาที่แข่งขันได้ และต้องคำนึงถึงใบรับรองมาตราฐานสินค้า ที่สร้างความน่าเชื่อถือและรับประกันคุณภาพสินค้า นอกจากนี้ เครื่องดื่มแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ชาไข่มุก น้ำรสผลไม้เมืองร้อนที่ให้ความสดชื่น น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ เป็นที่นิยมแพร่หลายและรู้จักดีแล้วสำหรับคนรุ่นใหม่ และหากสามารถเข้าสู่เครือข่ายธุรกิจ HoReCa ได้ จะทำให้ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
3. ผู้ประกอบการไทยสามารถสอบหาข้อมูลการประกอบการของภาคธุรกิจ HoReCa อิตาลี และพบปะกับนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องจากทั่วโลก ด้วยการมาชมงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นสำหรับภาคธุรกิจดังกล่าวโดยเฉพาะ ในงานแสดงสินค้า Host Milano (https://host.fieramilano.it/) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง 13-17 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์แสดงสินค้าเมืองมิลาน

————————————————————————————–
www.beverfood.com/bain-company-nonostante-incertezza-2023-i-consumi-horeca-aumento-wd
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
8 สิงหาคม 2566

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login