การนำเข้าน้ำมันปาล์มของอินเดียในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 59% ด้วยปริมาณ 1.77 ล้านตัน เป็นสัดส่วน 62% ของการนำเข้าน้ำมันพืชทั้งหมดของอินเดีย โดยส่วนใหญ่เป็นน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) มีน้ำมันปาล์มที่บริสุทธิ์ เพียง 237,379 ตัน ทั้งนี้ การนำเข้าในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน ซึ่งเป็นผลจากการที่โรงกลั่นน้ำมันปาล์มเร่งจัดซื้อเพื่อเตรียมรองรับความต้องการน้ำมันปาล์มในช่วงเทศกาลภายหลังฤดูฝน ประกอบกับแนวโน้มที่ผลผลิตน้ำมันปาล์มจะลดลงจากปริมาณฝนที่ตกน้องลงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกในระยะนี้ยังมีอยู่ในระดับที่ไม่สูง โดยคาดว่าการเร่งนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงเดือนกันยายน ด้วยปริมาณประมาณเดือนละประมาณ 1 ล้านตัน การเร่งจัดซื้อของอินเดียจะทำให้สต็อคในมาเลเซียและอินโดนีเซียลดลง และส่งผลให้ระดับราคาในตลาดโลกจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อคิดเห็น
ความต้องการของอินเดียที่จะซื้อน้ำมันปาล์มดิบถือเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งออกผลผลิตส่วนเกินให้กับอินเดีย นอกจากนี้ น้ำมันดิบที่ได้จากการสกัดจากเนื้อในเมล็ดปาล์ม (Crude Palm Kernel Oil: CPKO) ยังเป็นอีกสินค้าหนึ่งที่ไทยเริ่มขยายตลาดไปอินเดียได้ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ไทยส่งออก CPKO (HS Code 1513.21.10) เป็นมูลค่า 19.05 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการส่งออกมายังอินเดียได้ในรอบสามปี จึงมีความเป็นไปได้ว่าปริมาณการส่งออกจะขยายตัวได้หากมีการประสานให้เกิดการจับคู่ธุรกิจมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ได้จากการบีบหรือสกัดน้ำมันจากเนื้อในปาล์มคือกากเนื้อในปาล์ม (Palm Kernel Meal) สามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบทดแทนอาหารสัตว์ได้ด้วย โดยเฉพาะกากเนื้อในปาล์มที่ได้จากการสกัดด้วยตัวทำละลายที่จะให้โปรตีนและกากใยมากกว่าแต่มีไขมันต่ำกว่า ซึ่งอาจนำไปใช้ผสมในสูตรอาหารทดแทนปลายข้าวที่จะมีผลผลิตลดลงในช่วงเอลนิโญได้ รวมถึงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไทยยังไม่สามารถปลูกได้เพียงพอต่อความต้องการ เช่นเดียวกับข้าวฟ่าง กากถั่วเหลือง กากเมล็ดทานตะวัน กากงา และ กากมันสำปะหลัง
ที่มา: กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)