หน้าแรกTrade insight > ผู้นำรัฐและดินแดนในแคนาดาร่วมลงนามข้อตกลงยกเลิกอุปสรรคการค้าระหว่างรัฐ

ผู้นำรัฐและดินแดนในแคนาดาร่วมลงนามข้อตกลงยกเลิกอุปสรรคการค้าระหว่างรัฐ

จากโครงสร้างการปกครองแคนาดา แม้จะเป็นประเทศเดียวกัน แต่อำนาจการปกครองบางส่วนจะถูกกระจายไปยังรัฐและดินแดนต่างๆ ซึ่งแต่ละรัฐจะมีอำนาจในการออกกฎหมายและนโยบายของตนเองในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นั้นๆ อันรวมไปถึงนโยบายทางเศราฐกิจและการค้า อาทิ ระเบียบด้านความปลอดภัยของคนทำงาน การติดฉลากสินค้า การออกใบอนุญาตต่าง โดยข้อกำหนดทางเทคนิคหรือข้อจำกัดด้านกฎระเบียบที่แตกต่างกัน ทำให้ภาคธุรกิจมองว่า ข้อกำหนดที่ซับซ้อนเหล่านี้เป็นอุปสารรคต่อการเคลื่อนย้ายสินค้า เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น และสูญเสียเวลาไปกับงานเอกสารที่หลายธุรกิจไม่สามารถรองรับได้

ภายหลังจากช่วงกลางปี 2568 ที่ผู้นำรัฐต่างๆ พยายามผลักดันมาตรการทางการค้า เพื่อเตรียมการยกเลิกและสนับสนุนให้เกิดการค้าเสรีระหว่างรัฐ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2568 ผู้นำรัฐและดินแดนทุกแห่งในแคนาดาร่วมลงนามข้อตกลง “Canadian Mutual Recognition Agreement” มีใจความหลัก เพื่อยกเลิกอุปสรรคการค้าระหว่างรัฐสำหรับหมวดสินค้าหลายประเภท ยกเว้นอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะเริ่มมีผลในเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสนับสนุนภาคธุรกิจให้มีโอกาสทางการค้ามากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ 

ด้านนายราวี คาห์ลอน (Ravi Kahlon) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของรัฐ บริติชโคลัมเบีย กล่าวว่า ข้อตกลงนี้ทางการค้าฉบับใหม่นี้เป็นผลของความพยายามทั่วประเทศที่นำโดยรัฐบริติชโคลัมเบีย เพื่อปรับลดอุปสรรคทางการค้าภายในประเทศ จะทำให้เกิดการยอมรับมาตรฐานร่วมกัน (mutual recognition) สำหรับสินค้าอย่างเสื้อผ้า ของเล่นเด็ก รถยนต์ และสินค้าอื่นๆ โดยสินค้าที่ผ่านข้อกำหนดในรัฐหรือดินแดนหนึ่ง สามารถขายได้ทั่วประเทศแคนาดาโดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติ ป้ายกำกับ หรือการทดสอบเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงถูกกันออกจากข้อตกลงในขณะนี้

ซึ่งหากย้อนกลับไปการค้าในอดีต นายไรอัน มิตตัน (Ryan Mitton)  ผู้อำนวยการด้านกฎหมายของ Canadian Federation of Independent Business ในรัฐบีซี ได้ยกตัวอย่างสินค้า อาทิ จักรยานไฟฟ้า (e-bikes) ที่แต่ละรัฐมีข้อกำหนดต่างกัน เช่น ขนาดล้อและน้ำหนักสูงสุด หรือหมวกฮอกกี้ ที่มีข้อกำหนดเรื่องกระจกหรือหน้ากากป้องกันแตกต่างกัน โดยข้อตกลงใหม่นี้ถือเป็นการยอมรับการผ่านมาตรฐานสินค้าซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นการง่ายต่อผู้ผลิตทั่วไป

ขณะเดียวกัน สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งแคนาดา (Canadian Federation for Independent Business) ได้ชื่นชมข้อตกลง “Canadian Mutual Recognition Agreement” โดยระบุว่า เป็นก้าวสำคัญต่อการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและอาจเพิ่มมูลค่าจีดีพีแต่ละรัฐและแคนาดาโดยรวม อย่างไรก็ตาม ทางสหพันธ์ฯ ได้กดดันให้เจ้าหน้าที่ขยายข้อตกลงให้ครอบคลุมถึงบริการ อาหาร และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้การขนส่งอาหารเร็วขึ้นและถูกลง และเพิ่มความหลากหลายของอาหารและเครื่องดื่มได้ทั่วประเทศ

ซึ่งนายเจมส์ โดนัลด์สัน (James Donaldson) ซีอีโอของสมาคมอาหารและเครื่องดื่มบริติชโคลัมเบีย กล่าวว่า แต่ละรัฐมีมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารที่ต่างกัน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ดังนั้น คาดว่า การลดอุปสรรคทางการค้าด้านอาหารจะต้องใช้เวลานานกว่า อย่างไรก็ดี นายเจมส์ฯ ยังประสงค์ให้มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยอาหารที่เป็นหนึ่งเดียว เพื่อลดอุปสรรคทางการค้า ทั้งด้านการขยายตลาด การลดต้นทุน และเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ดี ก็มาพร้อมการแข่งขันที่สูงขึ้นและความต้องการมาตรฐานที่เข้มงวดกว่าเดิมก็เป็นได้

ความเห็นสคต. ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีธุรกิจในแคนาดาจำนวนมากที่เลิกพยายามขายสินค้าในรัฐอื่นๆ เพราะขั้นตอนการขออนุญาตยุ่งยากเกินไป หรือแม้กระทั่งการจัดตั้งบริษัทในแคนาดา ก็ยังเผชิญกับกฎระเบียบที่ต่างกันในแต่ละรัฐ ดังนั้น การเปิดเสรีการค้าระหว่างรัฐในแคนาดา โดยให้สินค้า บริการ และแรงงานเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี ถือเป็นการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ (รวมถึงไทย) เนื่องจากลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ และยังสามารถเพิ่มขนาดตลาดจากการจำหน่ายสินค้าและบริการทั่วประเทศง่ายขึ้น สำหรับในแง่ผู้บริโภค ราคาสินค้าอาจลดลงและมีตัวเลือกมากขึ้น เพราะการแข่งขันสูงขึ้น รวมไปถึงต้นทุนของผู้บริโภคและผู้ประกอบการลดลง จนนำไปสู่สินค้าและบริการที่ดีขึ้นในอนาคต ทั้งด้านมาตรฐาน ความปลอดภัย และความคุ้มค่าที่ผู้บริโภคจะได้รับ

 


 

อ่านข่าวฉบับเต็ม : ผู้นำรัฐและดินแดนในแคนาดาร่วมลงนามข้อตกลงยกเลิกอุปสรรคการค้าระหว่างรัฐ

Login

ปิดโหมดสีเทา