Department for Environment, Food and Rural Affairs (Defra) ได้เปิดเผยว่าการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single use plastic bag) ในห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตลดลงร้อยละ 98 นับตั้งแต่ห้างค้าปลีกในสหราชอาณาจักรเก็บเงินค่าถุงพลาสติกจากผู้บริโภคตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ในปี 2558 ห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตในสหราชอาณาจักรเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการซื้อถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เป็นจำนวนเงิน 5 เพนซ์ต่อใบ และต่อมาในปี 2564 ได้ปรับค่าธรรมเนียมขึ้นเป็น 10 เพนซ์ต่อใบ โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ขยายมาตรการดังกล่าวครอบคลุมธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากห้างค้าปลีกด้วย
การจำหน่ายถุงพลาสติกในห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ 7 ห้าง คือ Asda, Marks and Spencer, Morrisons, Sainsbury’s, The Co-operative Group, Tesco และ Waitrose ลดลงจาก 7,600 ล้านใบในปี 2557 เป็น 133 ล้านในในปี 2565 ทางด้านกระทรวงสิ่งแวดล้อมของสหราชอาณาจักรเห็นว่านโยบายดังกล่าวได้ช่วยลดจำนวนถุงพลาสติกเป็นอย่างมาก โดยเฉลี่ยในขณะนี้ชาวสหราชอาณาจักรมีการซื้อถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวจากห้างค้าปลีกเพียง 2 ใบต่อปี ลดลงจากปี 2557 ที่ชาวสหราชอาณาจักรมีการซื้อถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวโดยเฉลี่ย 140 ถุง
มาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลายมาตรการที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้นำมาใช้เพื่อลดการผลิตพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยในปี 2561 รัฐบาลสหราชอาณาจักรมีการห้ามใช้ไมโครบีดส์ในผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (personal care) ได้แก่ ยาสีฟัน สบู่อาบน้ำ เป็นต้น ในปี 2563 รัฐบาลฯ ยังได้มีมาตรการเกี่ยวกับการใช้หลอดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และก้านสำลีปั่นหู (cotton buds) ทั้งนี้ในปี 2565 รัฐบาลฯ ได้มีมาตรการเก็บภาษีสำหรับบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีพลาสติกรีไซเคิลน้อยกว่าร้อยละ 30
British Retail Consortium (BRC) เห็นว่าห้างค้าปลีกในสหราชอาณาจักรต่างทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลฯ ในการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ตั้งเป้าเป้าหมายในระยะยาวคือการจัดการกับปัญหามลพิษพลาสติกที่แหล่งกำเนิด โดยการห้ามใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวเพิ่มเติมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป อีกทั้งโครงการคืนเงินมัดจำสินค้า (deposit return scheme) เพื่อลดจำนวนขยะและเพิ่มอัตราการรีไซเคิล อีกด้วย
ที่มา: The Guardian และ Gov.uk
ข้อมูลเพิ่มเติม/ ความเห็น สคต. รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้มีการตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ทั้งนี้รัฐบาลฯ ยังมีความพยายามที่จะลดการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยในส่วนของห้างค้าปลีกในสหราชอาณาจักร ได้เริ่มดำเนินการลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก มีการให้บริการสินค้าแบบ Refill Station ในบางสินค้า รวมทั้งลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งโดยการเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ในราคา 10 เพนซ์ต่อใบ
ในส่วนของผู้ประกอบการไทยนั้น ผู้ประกอบการควรติดตามมาตรการเกี่ยวกับการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ของสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าไทย ซึ่งจะส่งผลให้มีการนำเข้าสินค้าไทยมาจำหน่ายในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าบรรจุภัณฑ์ของไทยที่มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการขยายการส่งออกมายังสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)
