ที่มา : The Star
รายงานโดย นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นามว่า Datuk Seri Anwar Ibrahim ในงาน Majlis Amanat Perdana Menteri Kepada Penjawat Awam, Negeri Sembilan ณ Seremban City Council Hall
ความว่า หลักธรรมาภิบาลและการจัดการเศรษฐกิจสามารถดึงดูดความสนใจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ลงทุนในประเทศที่มั่นใจว่าเศรษฐกิจมาเลเซียจะเติบโตอย่างรวดเร็ว
Datuk Seri Anwar กล่าวว่า สิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว เมื่ออยู่ภายใต้การบริหารของเขา ซึ่งจัดลำดับความสำคัญของเรื่องดังกล่าว การลงทุนจากต่างประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น และซาอุดีอาระเบียได้รับการจดบันทึกเรียบร้อยแล้วเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคม 2566 Elon Musk (Tesla CEO) ได้ขอคำปรึกษาจากเขา เพื่อหารือเกี่ยวกับความมุ่งมั่นที่เป็นไปได้ของเขาในการเพิ่มการลงทุนในประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของวิธีการปกครองและการจัดการเศรษฐกิจที่ดี
นอกเหนือจากนั้น Datuk Seri Anwar กล่าวเสริมว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้พบกับนักลงทุนชาวญี่ปุ่นที่ต้องการเพิ่มและขยายการลงทุนของพวกเขา อีกทั้ง ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Datuk Seri Anwar ได้ไปเยี่ยมประเทศจีน จึงส่งผลให้สถิติการลงทุนจากคนจีนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม Datuk Seri Anwar กล่าวเสริมอีกว่า ก่อนหน้านี้บริษัท the Saudi Aramco จากประเทศซาอุดิอาระเบียได้ตกลงที่จะขยายการลงทุนในรัฐยะโฮร์ นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่มีการลงทุนจากต่างประเทศ ปัญหาต่างๆ จะตามมา อาทิ การว่างงานจะเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจะไม่เติบโต ร้านอาหาร โรงแรม และอื่นๆ ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน
ความคิดเห็น สคต.
รัฐบาลมาเลเซียยังคงยึดมั่นและมีความตระหนักในหลักธรรมาภิบาลและนโยบายที่ดี โดยมีความพยายามในการสร้างบรรยากาศแห่งเสรีภาพ อาทิ การดูแลผู้ด้อยโอกาสจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรของประเทศได้อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น การขจัดความยากจนและการดูแลคนชายขอบ การขจัดการทุจริตภายในประเทศ เสริมสร้างสถาบันของประเทศเพื่อหยุดยั้งการเหยียดเชื้อชาติและลัทธิทางศาสนา อย่างไร
ก็ตาม เมื่อประเทศมีความเจริญก้าวหน้าจะทำให้ประเทศมีความมั่นคง และมั่งคั่งต่อมา
สคต. ขอสนับสนุนผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยที่กำลังมองหาตลาดที่ความมั่นคง อีกทั้ง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐานที่ดี อุตสาหกรรมการผลิต เกษตรกรรม และการท่องเที่ยวก็มีความน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับการทำธุรกิจและลงทุน
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)