หน้าแรกTrade insight > ติดตามสถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมอาหารเสริมสำหรับเด็กของจีน

ติดตามสถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมอาหารเสริมสำหรับเด็กของจีน

อาหารเสริมสำหรับทารกหมายถึงอาหารที่นอกเหนือจากนมแม่ อาทิ น้ำผลไม้ น้ำผัก ข้าวบด ผลไม้บด ผักบด ข้ามต้มสุก ก๋วยเตี๋ยว ผลไม้ชิ้นเล็ก เป็นต้น โดยในช่วงที่เป็นทารก นมแม่คืออาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทารก แต่อย่างไรก็ดี ทารกมีการเจริญเติบโตขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วง 4 เดือนเป็นต้นไป การให้ทารกดื่มนมแม่หรือนมผงเพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถตอบสนองความต้องการสารอาหารของทารกได้เท่าที่ควร ดังนั้น ทารกจึงต้องกินอาหารอื่นๆ เพื่อช่วยเพิ่มเติมสารอาหาร และคุณค่าทางโภชนาการอีกทางหนึ่งด้วย

การให้อาหารเสริมสำคัญสำหรับเด็กทารกที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยอาหารเสริมมีบทบาทที่สำคัญ 2 ประการ ได้แก่ (1) เพื่อชดเชยสารอาหารจากนมที่ไม่เพียงพอและส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดีต่อสุขภาพของเด็ก และ (2) เป็นการฝึกการทำงานของระบบทางเดินอาหารสำหรับเด็ก การเคี้ยวและหน้าที่ทางสรีระวิทยาอื่นๆ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์แนะนำว่า การเริ่มต้นให้อาหารเสริมแก่เด็กทารกควรเป็นช่วงระหว่าง 4 – 5 เดือนเป็นต้นไป โดยเด็กทารกที่มีอายุครบ 4 เดือน จะมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการช้าลง ดังนั้น จึงควรเริ่มให้อาหารเสริม ซึ่งข้าวบดผงสำหรับทารกถือเป็นอาหารเสริมตัวแรกที่ดีที่สุด เนื่องจากอุดมไปด้วยแคลเซียม เหล็ก และสังกะสี ขณะที่ซุปข้าวที่ทำเองจะมีคุณค่าทางโภชนาการไม่ครบถ้วน ซึ่งจะทำให้เด็กทารกประสบปัญหาการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ช้าลง นอกจากนี้ หลังจาก 6 เดือนขึ้นไป ควรให้อาหารเสริมประเภทข้าวบดผงที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็ก ผลไม้บด ผักบด ปลาบด ไก่บด เป็นต้น ขณะที่เด็กที่มีอายุประมาณ 1 ขวบขึ้นไปสามารถเริ่มให้รับประทานอาหารที่มีความใกล้เคียงกับอาหารสำหรับผู้ใหญ่ได้

ปัจจุบัน จีนมีบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับทารกทั้งสิ้น 160 ราย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในมณฑลเจียงซี กวางตุ้ง ซานตง และเฮยหลงเจียง โดยมณฑลเจียงซีเป็นมณฑลที่มีบริษัทผู้ผลิตอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกมากที่สุด และผลิตภัณฑ์ข้าวบดผงคือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับทารกที่เป็นหลัก

เมื่อพิจารณาจากความต้องการอาหารเสริมสำหรับทารกในตลาดจีน พบว่าผู้ปกครองมีความตระหนักด้านโภชนาการของทารกที่แข็งแกร่งขึ้น พฤติกรรมการบริโภคอาหารของทารกเริ่มเปลี่ยนไปจากการบริโภคอาหารหลักอย่างนมผงเท่านั้นเป็นการบริโภคอาหารเสริมเพื่อเสริมสร้างโครงสร้างอาหารของทารกมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดต่างประเทศ ตลาดอาหารเสริมสำหรับทารกในจีนถือกำเนิดขึ้นช้ากว่า จึงทำให้แบรนด์ต่างประเทศเป็นผู้ครองส่วนแบ่งหลักของตลาดอาหารเสริมสำหรับทารกในจีน อาทิ แบรนด์ Gerber แบรนด์ LittleFreddie และแบรนด์ Heinz โดยหลายปีที่ผ่านมานี้ ก็พบว่ามีแบรนด์อาหารเสริมสำหรับทารกของจีนเกิดขึ้นจำนวนมากและได้รับการตอบรับที่ดี อาทิ แบรนด์ Qiutianmanman แบรนด์ baobaochanle แบรนด์ Mixiaoya แบรนด์ woxiaoya แบรนด์ Three Squirrels และแบรนด์ Bestore ซึ่งส่งผลทำให้ตลาดอาหารเสริมสำหรับทารกในจีนมีการแข่งขันเพิ่มขึ้นทุกวัน และพบว่าความต้องการอาหารเสริมสำหรับเด็กทารกของจีนในปีล่าสุดคือปี ค.ศ. 2019 อยู่ที่ประมาณ 9,700 ล้านหยวน หรือประมาณ 48,500 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวน เท่ากับ 5 บาท)

หลายปีที่ผ่านมานี้ ปริมาณการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกของจีนเพิ่มขึ้น มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ถึงร้อยละ 82 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ และมีการคาดการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2024 ตลาดอุตสาหกรรมอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกของจีนจะมีมูลค่าถึง 43,623 ล้านหยวน หรือประมาณ 218,115 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ผู้ปกครองใช้ในการพิจารณาเลือกซื้ออาหารเสริมให้กับลูกน้อยมากเป็นอันดับแรก คือ ปัจจัยด้านความปลอดภัย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61.3 รองลงมา ได้แก่ ความสมดุลของโภชนาการ ร้อยละ 57.5 ความชอบของลูก ร้อยละ 43.8 ชื่อเสียงของแบรนด์ ร้อยละ 39.4 และราคา ร้อยละ 37.5 ตามลำดับ

ปัจจุบันพบว่าความตระหนักรู้เกี่ยวกับโภชนาการสำหรับทารกเพิ่มสูงขึ้น นิสัยการบริโภคอาหารสำหรับทารกมีการเปลี่ยนแปลง นโยบายและการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ของตลาด ทำให้ความต้องการอาหารเสริมในตลาดจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้ง การประกาศนโยบายลูกคนที่สามผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ระดับรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรจีนที่สูงขึ้นรวมถึงผู้ปกครองหันมาให้ความสำคัญต่ออาหารการกินของบุตร ทำให้ปริมาณการบริโภคของอุตสาหกรรมอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกของจีนเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี ค.ศ. 2016 พบว่าปริมาณการบริโภคอาหารเสริมสูงมากกว่า 300,000 ตัน ซึ่งในที่นี้กว่าครึ่งเป็นปริมาณความต้องการสินค้านำเข้า และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าปริมาณการบริโภคในภาพรวมของอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 และคาดว่าปริมาณการบริโภคอาหารเสริมในปี ค.ศ. 2023 จะสูงถึง 570,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 42,800 ล้านหยวน หรือประมาณ 214,000 ล้านบาท

ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย

ปัจจัยด้านรายได้ ความตระหนักในคุณค่าโภชนาการของอาหารสำหรับเด็กที่เพิ่มขึ้น นิสัยการบริโภคที่เปลี่ยนแปลง และนโยบายต่างๆ ที่ส่งเสริมการเติบโตของทารก เช่น นโยบายลูกคนที่สาม ส่งผลให้ตลาดอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกของจีนมีทิศทางที่สดใส โดยมีการคาดการณ์ว่าขนาดตลาดอุตสาหกรรมอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกของจีนจะมีมูลค่าถึง 43,623 ล้านหยวน หรือประมาณ 218,115 ล้านบาท ดังนั้น ตลาดอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกของจีนจึงเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะการที่ไทยเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตอาหารและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถพิจารณาขยายตลาดอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกผ่านการตลาดออนไลน์ควบคู่ไปกับหาคู่ค้าในตลาดออฟไลน์ผ่านงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในจีน รวมทั้งการควบคุมปริมาณคุณค่าทางอาหาร โภชนาการและความปลอดภัยให้ถูกต้องตามมาตรฐานการนำเข้าสินค้าประเภทอาหารของจีน รวมทั้งใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่เหมาะสม เพื่อให้การขยายตลาดส่งออกอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกในจีนประสบความสำเร็จ และสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดอาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกในจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

https://www.chinairn.com/hyzx/20230508/175653621.shtml

  สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login