หน้าแรกTrade insightอุตสาหกรรมอื่นๆ > ตัวเลขนักท่องเที่ยวพุ่งสูงขึ้น

ตัวเลขนักท่องเที่ยวพุ่งสูงขึ้น

กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเช็กพบกับความท้าทายใหม่ ห้องพักที่นอกเหนือจากโรงแรมระดับ 1 ดาว ถึง 5 ดาว ในกรุงปราก โดยเฉพาะในเขตปราก 1 ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยใจกลางกรุงปราก มีห้องพักรองรับนักท่องเที่ยวกว่า 17,003 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สร้างความกังวลแก่ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจด้านโรงแรมและห้องพักเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่อพิจารณาถึงห้องพักในโรงแรมระดับ 1 ดาว ถึง 5 ดาว ซึ่งจ่ายค่าธรรมเนียมโดยตรงกับเทศบาลเมือง จะพบว่าจำนวนห้องพักทั้งหมดในปราก 1 สูงถึง 44,000 ห้อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากกว่าผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่าภาวะนักท่องเที่ยวล้นเมือง ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติสาธารณรัฐเช็กรายงานว่า “เมื่อสิ้นปี 2023 เขตปราก 1 มีที่พักรวม 309 แห่ง ซึ่งรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวน 32,792 ราย ตัวเลขนี้ไม่รวมที่พักที่ไม่ได้รายงาน ซึ่งบ่งชี้ว่าจำนวนที่พักจริงอาจสูงกว่านี้มาก”

 

Petr Mestecký ประธานสมาคม “Livable Housing in Prague Center” ประเมินว่าที่พักใจกลางกรุงปรากสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 12,500 ราย ซึ่งที่พักเหล่านี้อยู่ในอพาร์ตเมนต์ คิดเป็นประมาณ 3 ใน 4 ของที่พักที่จ่ายค่าธรรมเนียมแก่เทศบาลเมือง จำนวน 50 เช็กคราวน์ต่อวัน โดยปัจจุบันการใช้อพาร์ตเมนต์เพื่อการเช่าระยะสั้นกลายเป็นปัญหาที่ถกเถียงกัน ในส่วนของสมาคมฯ ไม่เห็นด้วยที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเช่าที่พักเหล่านี้ สถานการณ์ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นในการเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายธุรกิจการท่องเที่ยว ที่จะนำเครื่องมือใหม่ ได้แก่ e-Tourist ซึ่งกำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนในแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์โต้แย้งว่าสิ่งนี้อาจส่งผลให้วิกฤตที่อยู่อาศัยเลวร้ายลง ในขณะที่กรุงปรากกำลังเผชิญกับกระแสการท่องเที่ยวที่เฟื่องฟู การรักษาสมดุลระหว่างการต้อนรับนักท่องเที่ยวและการรักษาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหานี้ ที่จะกำหนดอนาคตของเมืองในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวและศูนย์กลางเมืองที่น่าอยู่อาศัยในอนาคต

 

ในส่วนของภาคบริการสาธารณรัฐเช็กมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ซึ่งเป็นการเร่งตัวหลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ในไตรมาสแรก ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติสาธารณรัฐเช็ก (ČSÚ) นอกจากนี้ Jana Gotvaldová หัวหน้าแผนกสถิติการค้า การขนส่ง และบริการของ ČSÚ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2567 รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากทุกภาคส่วนของภาคบริการ โดยภาคการขนส่งและพื้นที่จัดเก็บสินค้าเป็นภาคบริการที่มีการเติบโตมากที่สุด โดยรูปแบบการเติบโตที่สม่ำเสมอนี้บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวและการขยายตัวที่แข็งแกร่งในภาคบริการของสาธารณรัฐเช็ก ดังนั้นเมื่อภาคบริการต่างๆ เติบโต อาจนำไปสู่โอกาสการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น  การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่สูงขึ้น จึงมีแนวโน้มที่จะส่งผลดีต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสาธารณรัฐเช็กโดยรวมต่อไป

 

ข้อคิดเห็น/เสนอแนะของ สคต.

จากข้อมูลทางเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็กด้านการท่องเที่ยวและภาคบริการที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจเช็ก จึงถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ประกอบการไทย ในการขยายการส่งออกสินค้ามายังตลาดสาธารณรัฐเช็กเพิ่มเติม ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรเตรียมความพร้อมในการศึกษาข้อมูลแนวโน้มตลาดและความต้องการของผู้บริโภค เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาดต่อไป ทั้งนี้ ปี 2566 สาธารณรัฐเช็กนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่า 237,563 ล้านเหรียญสหรัฐ จากประเทศเยอรมนี จีน โปแลนด์ สโลวาเกีย เนเธอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรเลีย ฮังการี ฝรั่งเศส และเบลเยียม ตามลำดับ โดยนำเข้าจากประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 785 ล้านเหรียญสหรัฐ

อ่านข่าวฉบับเต็ม : ตัวเลขนักท่องเที่ยวพุ่งสูงขึ้น

Login