วิธีการป้องกัน ไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 เช็กอาการตัวเองเพื่อคนรอบข้าง
ไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด19 ชื่อภาษาอังกฤษ COVID-19ที่กำลังระบาดอยู่ในช่วงนี้ จากการค้นคว้าขอมูลทางวิชาการพบว่า มีความรุนแรงเทียบเท่ากับโรคซาร์สที่เคยระบาดเมื่อปี พ.ศ. 2545 ในขณะเดียวกันองค์การอนามัยโลกยังไม่สามารถหาที่มาอย่างชัดเจนของโรคนี้ได้ แต่จากการสันนิษฐานคาดว่าอาจจะมาจากเนื้อสัตว์ป่าที่มีการซื้อขาย ปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้แล้ว สำหรับผู้ที่มีอาการใกล้เคียงหรือพบเจอกับผู้ป่วยต้องระวังเช่นกัน เพราะการถูกไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของคนที่ป่วยนั้น สามารถเป็นต้นเหตุของการติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 ได้ ดังนั้นเราควรดูแลตนเองเพื่อให้ร่างกายห่างไกลจากโรคนี้ให้ได้มากที่สุด โดยวิธีการรับมือดังนี้
วิธีการป้องกัน ไวรัสโคโรน่า
เชื้อไวรัสนี้ติดต่อผ่านทางลมหายใจ สารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน เชื้อไวรัสโคโรน่าติดต่อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ควรทานแบบสุกเท่านั้น
✅ ควรทานอาหารที่สุกแล้ว งดอาหารดิบ และเนื้อสัตว์ป่า
✅ หมั่นล้างมือหรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์
✅ ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่ไอ จาม
✅ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และมีมลภาวะเป็นพิษ
✅ งดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงโรคระบาด
✅ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก ถ้าไม่จำเป็น
✅ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ฯลฯ
ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์ทันที
อาการเบื้องต้นที่สังเกตได้จากการติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 มีดังนี้
1. มีไข้สูง > 37.5 องศา
2. ไอ
3. เจ็บคอ
4. น้ำมูกไหล
5. หายใจเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก
คำแนะนำสำหรับผู้เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด
> ก่อนเดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด ที่มีคนจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หากมีอาการป่วย ให้สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น หากอาการไม่ดี ให้ไปพบแพทย์
> หลังเดินทางกลับมายังประเทศไทย
ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามขั้นตอนการคัดกรองผู้เดินทาง และมาตรการป้องกันควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข สังเกตอาการป่วยของตนเอง ภายใน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ โดยให้สวมหน้ากากอนามัยและแจ้งประวัติเดินทาง ควรงดออกไปในที่ชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่กับจำนวนมาก งดการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น