หน่วยงานการแข่งขันของอิสราเอล (Israel Competition Authority) พบว่า ส่วนแบ่งตลาดของยี่ห้อ Wissotzky ในการขายชาเขียวและชาสมุนไพรให้กับผู้ค้าปลีกนั้นสูงกว่า 70%
หน่วยงานการแข่งขันของอิสราเอล มีหน้าที่กำกับดูแลและต่อต้านการผูกขาด (monopoly) ได้ติดตามและตรวจสอบข้อมูลในช่วงระยะเวลาหลายปี ที่นำไปสู่การประกาศครั้งล่าสุดเริ่มขึ้นเมื่อ 18 เดือนที่แล้วว่า บริษัทชา Wissotzky เป็นผู้ผูกขาด หลังจากการพิจารณาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Wissotzky ได้ผูกขาดใน ตลาดชาเขียวและชาสมุนไพร
เนื่องจากเป็นผู้นำราคาในตลาดที่มีอำนาจพอจะทำให้สามารถเรียกเก็บเงินในราคาที่สูงกว่าซัพพลายเออร์ที่แข่งขันกันสำหรับชาเขียวและสมุนไพร ซึ่งทำให้บริษัทสามารถรักษาการครอบครองส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากอำนาจทางการตลาดของบริษัท คู่แข่งของบริษัทจึงพบว่าเป็นการยากที่จะเพิ่มยอดขายแม้ในกรณีที่เสนอราคาต่ำกว่าที่ Wissotzky เสนอ แม้กระทั่งในสถานการณ์ที่แบรนด์ใหม่เข้ามาในอิสราเอลและประสบความสำเร็จในต่างประเทศ
ตามการประกาศครั้งนี้หมายความว่า Wissotzky จะถูกกำหนดให้เป็น “ซัพพลายเออร์รายใหญ่” และตอนนี้จะต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทั้งหมดที่กำหนดไว้กับซัพพลายเออร์รายใหญ่ สิ่งเหล่านี้รวมถึงข้อห้ามในการแทรกแซงการจัดชั้นวางสินค้าในห่วงโซ่การตลาด ข้อห้ามในการกำหนดเงื่อนไขการขายผลิตภัณฑ์บางอย่างในการซื้อผลิตภัณฑ์อื่น และข้อห้ามทั่วไปในการแทรกแซงราคาของผลิตภัณฑ์ทุกประเภท ลูกค้ารายสุดท้ายในเครือข่ายและข้อจำกัดอื่นๆ ที่ปรากฏในกฎหมายอาหาร (Food Law)
ก่อนการพิจารณาคดี หน่วยงานการแข่งขันของอิสราเอลได้พิจารณาประกาศให้ Wissotzky เป็นผู้ผูกขาดในตลาดชาดำและชาดำปรุงแต่ง มาแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่รวบรวมภายหลังการไต่สวนได้เพิ่มข้อสรุปว่า ส่วนแบ่ง ของชาดำ ของ Wissotzky น้อยกว่า 50% และกำลังใกล้จะพังทลายลง เช่นเดียวกับข้อเท็จจริงที่ว่า Wissotzky มีคู่แข่งที่มีส่วนแบ่งการตลาดที่สำคัญในตลาดนี้เช่นกัน
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีบริษัท 61 ราย เข้าข่ายว่าผูกขาดในอิสราเอล โดยส่วนใหญ่ถูกประกาศในช่วงทศวรรษที่ 80 และ 90 โดยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีเพียงสามบริษัทเท่านั้นที่ได้รับการประกาศให้ผูกขาด โดยทั้งหมดไม่ได้อยู่ในภาคส่วนอาหาร: Ashdod Mort, Delek Drilling ( NewMed Energy ) และบริการคุณภาพสิ่งแวดล้อม วันนี้ Wissotzky เข้าร่วมรายการ ซึ่งรวมถึง Central Bottling Co. (Coca Cola), Strauss (นม) และช็อคโกแลต Elite, กาแฟสำเร็จรูปและผงโกโก้, Tnuva ใน สาขานมและผลิตภัณฑ์นม, Osem สำหรับพาสต้า Tivol and Israeli Food Products Ltd. สำหรับเนยเทียมและมายองเนส ทั้งหมดถูกประกาศฟ้องว่าผูกขาดเมื่อปี 2531 และ 2532
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม นาย Nir Barkat กล่าวว่า “ผมมีความสุขที่เห็นว่า Competition Authority ตื่นขึ้นจากการหลับใหลอันยาวนาน และหลังจาก 20 ปีที่ผ่านมาได้ประกาศใช้มาตรการต่อต้านผูกขาดในอิสราเอล บทบาทของ Competition Authority คือการปกป้องประชาชนจากการผูกขาดและใช้เครื่องมือทางกฎหมายทั้งหมดสำหรับ การแข่งขันอย่างเป็นธรรม นโยบายของข้าพเจ้าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจคือต่อสู้กับการผูกขาดและการเอาเปรียบประชาชน ความคาดหวังของข้าพเจ้าจากหน่วยงานการแข่งขันซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจคือการดำเนินการอย่างเฉียบขาดต่อผู้ใดก็ตามที่ขัดขวางการแข่งขัน การกระทำที่เป็นการผูกขาดและ กดขี่ข่มเหงประชาชน ผมคาดว่า อีกหลายๆ ก้าวจะเป็นไปในทิศทางนี้”
ที่มา : en.globes.co.il – 26 มิ.ย. 2023
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
จากข้อมูลในเว็บไซต์ wisszotskygroup.com ได้บอกเล่าถึงความเป็นมาว่าเริ่มตั้งแต่ปี 1849 นาย Klonimus Wolff Wissotzky ก่อตั้งบริษัท Wissotzky Tea ในมอสโก ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ยอดเยี่ยมทำให้บริษัทได้รับลูกค้าที่ชื่นชอบจำนวนมากอย่างรวดเร็วทั่วจักรวรรดิรัสเซียและในประเทศใกล้เคียง Wissotzky Tea Company ขยายกิจกรรมเชิงพาณิชย์ไปทั่วยุโรป โดยก่อตั้งโรงงานในโปแลนด์ และเปิดสาขา Wissotzky ในนิวยอร์กและลอนดอน โดยสาขาหลังนี้บริหารงานโดย นาย Achad Ha’am นักเขียนชื่อดัง ต่อมา ในปี 1936 นาย Shimon Zeidler ทายาทของตระกูล Wissotzky ก่อตั้งโรงงานชาแห่งแรกในอิสราเอล และในปี 2015 Wissotzky เริ่มนำเข้าแบรนด์คุณภาพสูงจากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึง Grand Italia, Ulker, McVities’ และ Godiva ซึ่งในปัจจุบัน Wissotzky ได้นำเข้าชาเพื่อมาบรรจุภัณฑ์ในยี่ห้อของตนเองวางขายในประเทศอิสราเอล
ในซุปเปอร์มาเก็ตและร้านค้าปลีกทั่วไปในอิสราเอลบนชั้นวางสินค้าในหมวดชาประเภทต่างๆจะเป้นสินค้ายี่ห้อ Wissotzky เกือบทั้งหมด หรือประมาณ 80% โดยมีชาหลากหลายประเภท เช่น English breakfast, earl grey, chamomile, ชาเขียว ชาผลไม้ และชาสมุนไพรต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ชายี่ห้อ Wissotzky ครองส่วนแบ่งตลาดเกือบทั้งหมดทำให้แทบจะไม่มีผู้ค้าชารายใดสามารถเข้ามาแข่งขันได้ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการชาภายในประเทศหรือสินค้าชาจากต่างประเทศ ข้อสังเกตอีกประการ คือ หน่วยงานภาครัฐของอิสราเอลให้ความสำคัญต้องการปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคชาวอิสราเอลที่มีความเป็นอยู่ในสภาวะที่ค่าครองชีพในประเทศสูงมาก
——————————————————————————————-
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเทลอาวีฟ
3 กรกฎาคม 2566
Disclaimer :ข้อมูลต่างๆที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเทลอาวีฟ จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดใดที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดและโดยทางใด
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)