ท่ามกลางกระแสเสียงร้องของเกษตรกรของหลายประเทศสมาชิกอียู รวมทั้ง โปแลนด์ ด้วยเกรงว่าความตกลง EU-Mercosur จะนำพาสินค้าเกษตรของกลุ่มเมอร์โคซูร์ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำเข้ามาตีตลาดจนเกษตรกรยุโรปต้องล้มหายตายจาก บัดนี้ ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องทบทวนและหันกลับมามองถึงผลประโยชน์และโอกาสจากความตกลงดังกล่าวที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจการค้าของโปแลนด์และอียูในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อให้ผ่านพ้นไปได้
ความตกลงอียู-เมอร์โคซูร์ดูเหมือนจะเข้ามาเป็นตัวแปรในสมการทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่จะพลิกสถานการณ์ของสหภาพยุโรปที่กำลังประดังประเดด้วยวิกฤติการณ์ด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจอีกทั้งยังต้องเผชิญการแข่งขันทางการค้ากับยักษ์ใหญ่อย่างจีนและสหรัฐฯ อย่างน้อยตลาดเมอร์โคซูร์ซึ่งมีประชากรราว 270 ล้านคน ก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าของอียูจำนวนไม่น้อย
การเข้าถึงตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ในกลุ่มเมอร์โคซูร์ ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก ได้แก่ บราซิล อาร์เจนตินา อุรุกวัย และปารากวัย มีประชากรรวมกันกว่า 270 ล้านคน หมายถึงการค้าขายที่จะมีต้นทุนด้านพิธีการศุลกากร ภาษีนำเข้า และมาตรการทางการค้าอื่นๆ ลดต่ำลงจนหมดสิ้นไประหว่างสหภาพยุโรปกับเมอร์โคซูร์ จะช่วยสร้างโอกาสให้สหภาพยุโรปในการขายสินค้าและบริการได้เพิ่มขึ้นหลากหลายประเภท โดยเฉพาะ สินค้ายานยนต์ ยา เครื่องจักร และเคมีภัณฑ์ มีผู้ประมาณการว่า สหภาพยุโรปจะสามารถส่งสินค้าออกไปยังเมอร์โคซูร์เพิ่มขึ้นปีละหลายพันล้านยูโร
ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโปแลนด์ แม้ว่าโปแลนด์ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเมอร์โคซูร์ไม่มากนัก ก็มีโอกาสจะขยายการค้าขายกับเมอร์โคซูร์เช่นเดียวกับสมาชิกอียูอื่นๆ สินค้าศักยภาพสร้างชื่ออย่างโดดเด่นให้แก่โปแลนด์ในตลาดโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักรกลทางการเกษตร และเครื่องจักรอุตสาหกรรม จะได้รับส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในตลาดเมอร์โคซูร์ นอกจากนี้ กลุ่มยาและเภสัชภัณฑ์ และเครื่องสำอาง ก็มีแนวโน้มที่ดี สามารถตอบสนองความต้องการสินค้าคุณภาพสูงของตลาดได้ดี นอกจากนี้ สาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม พลังงานหมุนเวียน รวมถึงโซลูชั่นการรีไซเคิลและการจัดการน้ำ สินค้าและบริการด้าน IT และสินค้านวัตกรรมของโปแลนด์ก็ น่าจะเข้าไปเติมเต็มตลาดเมอร์โคซูร์ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงการค้า e-Commerce ได้ สำหรับสินค้าเกษตรและอาหารที่ส่งออกไปยังเมอร์โคซูร์ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับอัตราภาษีนำเข้าที่สูง ก็จะได้รับประโยชน์ในการเข้าสู่ตลาดโดยปราศจากอุปสรรคทั้งที่เป็นภาษีและอุปสรรคทางการค้าอื่นๆ ความตกลงฉบับนี้ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้โปแลนด์ได้มาซึ่งวัตถุดิบราคาถูก โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและวัตถุดิบในการผลิต เช่น น้ำมันพืช และวัตถุดิบอาหารสัตว์ (protein feed stuffs) ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของสินค้าอาหารสำเร็จรูปของโปแลนด์ในตลาดโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม/ข้อคิดเห็นของสคต. วอร์ซอ
อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปและโปแลนด์ยังต้องติดตามการปฏิบัติตามพันธกรณีของความตกลงฉบับนี้อย่างใกล้ชิด แม้ว่าการนำเข้าสินค้าอ่อนไหวจะถูกจำกัดไว้โดยโควตา อาทิ เนื้อโค เนื้อสัตว์ปีก น้ำตาล และน้ำผึ้ง เพื่อปกป้องตลาดภายในสหภาพยุโรปจากสินค้าต้นทุนต่ำของเมอร์โคซูร์ ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบต่อเกษตรกรของอียู อีกทั้ง ยังต้องคงไว้ซึ่งมาตรฐานและกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าอย่างเข้มงวดเพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค
ที่มา:
1. Trade.gov.pl
2. TVP World
อ่านข่าวฉบับเต็ม : ความตกลงอียู-เมอร์โคซูร์ : ความหวังใหม่ของโปแลนด์
