หน้าแรกTrade insightข้าว > ข้าวไทยเนื้อหอม ชาวอิตาเลียนแห่เรียนทำอาหารไทยคึกคัก ด้านอินฟลูเอนเซอร์อาหารชื่อดังยกข้าวหอมมะลิไทยดีที่สุด

ข้าวไทยเนื้อหอม ชาวอิตาเลียนแห่เรียนทำอาหารไทยคึกคัก ด้านอินฟลูเอนเซอร์อาหารชื่อดังยกข้าวหอมมะลิไทยดีที่สุด

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน ร่วมกับสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ได้จัดโครงการส่งเสริมข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวไทยในตลาดอิตาลี Think Rice, Think Thailand ปีที่ 4 ผ่านการจัดกิจกรรมสอนประกอบอาหารไทย ณ โรงเรียนสอนทำอาหารชั้นนำ Farm 65 ณ เมืองมิลาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และการตระหนักถึงข้าวไทย คุณภาพ และความหลากหลายของข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวไทย และสร้างโอกาสทางการค้า และผลักดันให้ธุรกิจบริการร้านอาหารไทย และร้านอาหาร Thai SELECT ในอิตาลีขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการนำข้าวไทยใช้ในการดัดแปลงรวมกับเมนูอาหารท้องถิ่น เพื่อเพิ่มการบริโภคข้าวไทยในครัวเรือนอิตาลีอย่างถาวร
โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นางสาวอนงค์นารถ มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน เป็นประธานเปิดกิจกรรมสอนประกอบอาหารไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิซึ่งถือเป็นข้าวที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงระดับโลก และสินค้าอาหารไทย ให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางในวงการอาหารในอิตาลี โดยภายในงานมี Influencer / food blogger เชฟร้านอาหารไทย Thai SELECT และร้านอาหารในมิลาน นักธุรกิจ สมาชิกผู้อ่านของสื่อออนไลน์ด้านอาหาร (foodweb.it) และชาวอิตาเลียนที่ชื่นชอบอาหารไทย เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างคับคั่ง รวมถึง Influencer ด้านอาหารที่มีชื่อเสียงของอิตาลีอย่าง Luisa Orizio ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ Blog ของ Giallozafferano (GZ) ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 ปี (ปี 2564-2566) ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามใน Instagram กว่า 6 แสนคน (ระดับ Mass Publisher)

โดย สคต. มิลาน ได้จัดพื้นที่แสดงตัวอย่างสินค้าข้าว ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้อง ข้าวเหนียว รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้าอาหารไทย และสินค้า/ผลิตภัณฑ์ Thai SELECT หลายรายการ เช่น พริกแกง ซอสปรุงรส กะทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เซ็ตเครื่องแกงพร้อมปรุง เครื่องดื่มชาเขียว เครื่องดื่มน้ำผลไม้ เป็นต้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทำความรู้จักสินค้าอาหารไทย พร้อมทั้งแหล่งจำหน่ายสินค้าอาหารไทยภายในมิลาน และในอิตาลี รวมถึงได้แนะนำรายชื่อร้านอาหารไทย Thai SELECT ทั้งในอิตาลีและในประเทศเขตอาณารับผิดชอบของ สคต. มิลาน ให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ทราบและได้มีโอกาสไปลองรับประทาน โดยก่อนเริ่มกิจกรรมสอนประกอบอาหารไทย (Cooking class) มีการเสิร์ฟอาหารว่างไทยที่มีชื่อเสียง เพื่อแสดงถึงความหลากหลายและความมีเอกลักษณ์ของอาหารไทย ได้แก่ สาคูไส้หมู ปอเปี๊ยะทอด เม็ดขนุน และลูกชุบ พร้อมด้วยเครื่องดื่มน้ำผลไม้และน้ำมะพร้าวให้กับผู้ร่วมงาน ซึ่งผู้ร่วมงานต่างชื่นชอบเป็นอย่างมาก และได้สอบถามถึงส่วนผสมและแหล่งซื้อวัตถุดิบดังกล่าวในเมืองมิลาน

ในส่วนของกิจกรรม Cooking class มีการจัดเตรียมวัตถุดิบ เครื่องปรุง อุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างครบครัน และรายละเอียดขั้นตอนการปรุงอาหารแต่ละเมนูบนเคาน์เตอร์ประกอบอาหาร จำนวน 16 เคาน์เตอร์ ให้กับผู้ร่วมกิจกรรม โดยกิจกรรมสอนประกอบอาหารไทยดำเนินการสอนโดยเชฟชาวไทยที่มีประสบการณ์ด้านอาหารไทย คุณกมล กมลทิพย์มงคล หรือชื่อที่เรียกในวงการอาหาร เชฟ Michel Kay โดยนำเสนอเมนูอาหารไทย 4 รายการที่เน้นใช้ข้าวไทยเป็นหลักให้กับผู้ร่วมกิจกรรมได้ทดลองทำไปพร้อมกัน ได้แก่ สลัดข้าวไรซ์เบอร์รี่ แกงพะแนงไก่พร้อมข้าวหอมมะลิ ข้าวผัดต้มยำกุ้ง และข้าวเหนียวดำเปียกมะพร้าวอ่อนและข้าวโพด โดยเชฟได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการประกอบอาหารไทยเองทุกขั้นตอน รวมถึงได้บอกถึงคุณประโยชน์ของข้าวแต่ละชนิด และเผยเคล็ดลับการปรุงอาหารไทยให้มีรสชาติไทยที่แท้จริง ซึ่งบรรยากาศระหว่างการทำอาหารเป็นไปอย่างสนุกสนาน มีการซักถามเกี่ยวกับขั้นตอนการปรุงอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมตื่นเต้นกับการได้มีโอกาสทำอาหารไทยไปพร้อมกับเชฟไทยที่มีประสบการณ์ ซึ่งต่างชื่นชอบเมนูอาหารไทยทั้ง 4 รายการอย่างมาก โดยเฉพาะเมนูข้าวผัดต้มยำกุ้ง และประทับใจที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมการสอนประกอบทำอาหารไทยในครั้งนี้ เนื่องจากได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมด้านอาหารไทยที่มีความหลากหลาย โดย สคต. มิลาน ได้มอบ Cookbook ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน เพื่อนำไปทดลองทำอาหารไทยเองที่บ้าน ซึ่งส่วนหนึ่งของผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยเฉพาะเชฟร้านอาหารไทย และร้านอาหารไทย Thai SELECT จะนำเมนูอาหารที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ ไปนำเสนอในร้านอาหารของตนต่อไป

ความคิดเห็นของ สคต. มิลาน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน มีความเห็นว่า การจัดกิจกรรมสอนประกอบอาหารไทยในครั้งนี้ ได้รับผลตอบรับและความสนใจจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ เนื่องจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับข้าวไทย ผลิตภัณฑ์ข้าว และสินค้าอาหารไทยเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้มีโอกาสเรียนรู้การทำอาหารไทยที่ถูกต้องจากเชฟไทยที่มีประสบการณ์ ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคท้องถิ่นเพิ่มขึ้น และถือเป็นการขับเคลื่อนให้การส่งออกสินค้าข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าว และอาหารไทยมายังตลาดอิตาลีขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับครัวเรือนอิตาลีในการนำข้าวไทยมาใช้ประกอบอาหารเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันผู้บริโภคในอิตาลีหันมาให้ความสนใจอาหารไทยและอาหารเอเชียเพิ่มมากขึ้น โดยพบว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การเปิดร้านอาหารไทยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารไทยในรูปแบบ Fine dining และรูปแบบ Take away ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ซึ่งร้านอาหารไทยดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการที่จะช่วยผลักดันให้ความต้องการบริโภคข้าวไทยในอิตาลีขยายตัวเพิ่มขึ้น เห็นได้จากในปี 2566 (มกราคม – กรกฎาคม) ไทยส่งออกสินค้าข้าวมายังอิตาลีขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น +25.29% หรือคิดเป็นมูลค่า 447.24 ล้านบาท (ข้าว ถือเป็นสินค้าส่งออกมายังอิตาลี ในอันดับที่ 20)

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login