นาย ฟู่ง ดึ้ก เตียน (Phung Duc Tien) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามกล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 การส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามมีมูลค่า 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 64 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยผลลัพธ์ดังกล่าว เป้าหมายที่มีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 ซึ่งสามารถบรรลุได้
เวียดนามมีศักยภาพสูงในการส่งออกผักและผลไม้ไปยังประเทศอื่นๆ เป็นอย่างมาก โดยพื้นที่เพาะปลูกมีแนวโน้มที่จะลดลง เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการ ซึ่งอาจส่งผลให้ผลผลิตผักและผลไม้ลดลง อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่คาดการณ์จะบรรลุผลได้อย่างสมบูรณ์ หากผลผลิตผักและผลไม้มีวิธีแก้ปัญหา เพื่อปรับปรุงมูลค่าและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ จำเป็นต้องเพิ่มการส่งออกผักและผลไม้แปรรูปแทนการขายผลิตภัณฑ์สด และรัฐควรกำหนดนโยบายพิเศษสำหรับภาคการเพาะปลูกอีกด้วย
สำนักงานการค้าต่างประเทศภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าระบุว่า การเติบโตในเชิงบวกของการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในจีน ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามส่งออกผักและผลไม้ไปยังประเทศจีนมูลค่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 80.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นร้อยละ 63.5 ของการส่งออกผักและผลไม้ทั้งหมดของประเทศ
จีนมีการซื้อเพิ่มขึ้น ในขณะที่เวียดนามเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวของผลผลิตผักและผลไม้ทำให้ให้การส่งออกผักและผลไม้สูงขึ้นอย่างต่อเนือง นอกจากส่งออกไปประเทศจีน เวียดนามยังมีอัตราการเติบโตเชิงบวกในการส่งออกผักและผลไม้ไปยังตลาดอื่นๆ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมาเลเซีย
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมงมูลค่า 24,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 11.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในเวียดนามมีสินค้า 7 รายการที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้แก่ กาแฟ (2,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ยาง (1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ข้าว (2,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ผักและผลไม้ (2,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (1,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) กุ้ง (1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และผลิตภัณฑ์จากไม้ (4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ข้าว ผัก และผลไม้มีการเติบโตสูงสุด การส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ในเชิงปริมาณและร้อยละ 34 ในเชิงมูลค่า
สำหรับตลาดนำเข้า จีนกลับมาเป็นผู้ซื้อสินค้าเกษตร ป่าไม้และการประมงรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยสัดส่วนร้อยละ 21.4 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 รองมาสหรัฐฯ ด้วยสัดส่วนร้อยละ 20.2 ตามมาด้วยญี่ปุ่นด้วยสัดส่วนร้อยละ 7.7
(จาก https://vietnamnews.vn/)
ข้อคิดเห็น สคต
เวียดนามถือเป็นแหล่งส่งออกผลไม้ที่สำคัญแหล่งหนึ่งของโลก ปัจจุบันเวียดนามเป็นผู้ส่งออกผักและผลไม้รายใหญ่ของโลก โดยสินค้าเกษตรของเวียดนามมีอยู่ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก การนำเข้าผักและผลไม้ของตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป จากเวียดนามมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ของเวียดนามมีคุณภาพสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทั้งประเทศจีน สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น แนวโน้มการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามไปยังตลาดต่างๆ จะเป็นไปในเชิงบวกในปี 2566 เนื่องจากข้อได้เปรียบจากข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ ที่เวียดนามลงนาม ตลาดจีน และสหรัฐอเมริกา ถีอเป็นแหล่งนำเข้าผลไม้ที่สำคัญของไทย รวมทั้งการที่ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างพิจารณาอนุญาตให้นำเข้าลำไยของเวียดนาม อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้ไทยไปยังตลาดดังกล่าว เนื่องจากไทยและเวียดนามมีผลไม้ที่คล้ายคลึงกัน
ที่มา: กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)