หน้าแรกTrade insightยานยนต์เเละส่วนประกอบ > ส่องเทรนด์ตลาดรถยนต์หรูในสิงคโปร์ ปี 2567

ส่องเทรนด์ตลาดรถยนต์หรูในสิงคโปร์ ปี 2567

ผู้ผลิตรถยนต์หรูและรถสปอร์ตระดับพรีเมี่ยมต่างเปิดตัวรถรุ่นที่ขายดีในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อผลักดันให้เกิดความยั่งยืนในอุตสาหกรรมรถยนต์ ผู้บริหารแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียมต่างคาดว่า ความต้องการรถหรูของสิงคโปร์ในปี 2567 จะยังคงแข็งแกร่ง ท่ามกลางปัจจัยทางเศรษฐกิจ และความผันผวนของ COE (COE หรือ The Certificate of Entitlement เป็นใบอนุญาตโควตาสำหรับการเป็นเจ้าของยานพาหนะในสิงคโปร์ เพื่อเป็นการควบคุมจำนวนยานพาหนะบนท้องถนน และการจราจรติดขัด)

แบรนด์ Aston Martin มองว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์ได้มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อมของโลก และความยั่งยืนมากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ต่างปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ และวิธีการผลิตเพื่อช่วยรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ในปี 2567 บริษัทจะเริ่มส่งมอบ Valhalla รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (Plug-In Hybrid Electric Vehicle : PHEV) รุ่นแรกของบริษัท ตามมาด้วยรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle : HEV)  ที่วางแผนจะเปิดตัวในปี 2568 และผลิตภัณฑ์รถสปอร์ต และรถ SUV ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายในปี 2573  และตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุโรงงานที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์สำหรับตลาดสิงคโปร์ภายในปี 2573  และทั้งห่วงโซ่อุปทานภายในปี 2582

สำหรับตลาดสิงคโปร์ บริษัทมีความเห็นว่า ภาษีถนนและค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเพิ่มเติม (Additional Registration Fee : ARF)  ได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางปี 2565 และส่งผลต่อการบริโภคของตลาดรถยนต์สิงคโปร์ และมีการหยุดชะงักระยะสั้น อย่างไรก็ดี ในปี 2567 ธุรกิจที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายในสินค้าหรูยังคงเป็นบวก ทางบริษัทจึงคาดว่ารถยนต์รุ่นใหม่จะกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ได้เป็นอย่างดี

แบรนด์ Audi มองว่า ถึงแม้ว่าจะมีการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และยอดขายรถยนต์จะเติบโตช้าในปี 2567 แต่ตลาดรถยนต์สิงคโปร์มีความยืดหยุ่น และเป็นตลาดที่แข็งแกร่งของรถยนต์หรูระดับพรีเมี่ยม เพราะผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับรถยนต์ที่ความเฉพาะตัวและมีระดับ ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์หรูต่างหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงใหม่ ๆ ซึ่งจะเพิ่มทางเลือกขั้นสูงในตลาดรถยนต์มากขึ้น

การใช้พลังงานไฟฟ้าและนวัตกรรมต่าง ๆ จะยังคงเป็นเทรนด์ในปี 2567 สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต่างแข่งขันเพื่อนำหน้าคู่แข่ง การเปลี่ยนมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในยานยนต์หรู จากความคาดหวังในกลุ่มผู้บริโภค ผู้ผลิตจะต้องนำนวัตกรรมเข้ามาเสริมทัพอีกระดับหนึ่ง เพื่อสร้างประสบการณ์สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง การสร้างประสบการณ์ที่สมจริงให้กับผู้โดยสาร และระดับการเชื่อมต่อที่สูงขึ้น

แบรนด์ Lamborghini กล่าวถึงตลาดรถยนต์ว่า กฎระเบียบของสหภาพยุโรป/รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปล่อยมลพิษ อุตสาหกรรมยานยนต์จึงได้มุ่งเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถไฮบริดมากขึ้น โดยมีความต้องการรถยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษต่ำเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นที่ความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์พยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ในปี 2567 บริษัทได้พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ที่มุ่งเน้นประสบการณ์ผู้ใช้มากขึ้น การเชื่อมต่อเนื้อหาดิจิทัลภายในรถ การเชื่อมต่อจากระยะไกล และเทรนด์การเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ และยังมองว่าตลาดเอเชียแปซิฟิกมีจำนวนประชากรที่มีรายได้สุทธิสูงพิเศษมากขึ้น โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะมีไลฟ์สไตล์ที่หรู และสนใจการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ

แบรนด์ Porche มองว่า ในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ต่างมุ่งสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า แต่ตลาดที่แตกต่างกันจะปรับตัวเข้ากับการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ต่างกัน ทำให้บริษัทยังคงรักษากลยุทธ์บริษัทไว้ ได้แก่ การมีเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่มีประสิทธิภาพและทรงพลัง ตัวเลือกปลั๊กอินไฮบริดที่มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษ และระบบการส่งพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคทั่วโลก แต่แบรนด์ Porche ยังคงมีการเติบโตที่แข็งแกร่งทั่วโลก และจะยังสามารถทำให้ลูกค้าในสิงคโปร์ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับแบรนด์ได้

 

ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ

      จากการที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อน เกิดความตื่นตัวในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม นโยบายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และความยั่งยืน ส่งผลให้การใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) และพลังงานสะอาด กลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่าง ๆ ยังมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระดับสูง เพื่อเพิ่มสมรรถนะของรถยนต์และสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากขึ้น

ประเทศไทยจัดเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปในภูมิภาคมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันรัฐบาลได้มีนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของภูมิภาค ดังนั้น ผู้ประกอบในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต้องเร่งปรับตัว พัฒนาศักยภาพ พัฒนาบุคลากร และพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ได้อย่างยั่งยืน

 

แหล่งที่มาข้อมูล/ภาพ : https://cnaluxury.channelnewsasia.com/people/automotive-car-trends-2024-singapore-242171

อ่านข่าวฉบับเต็ม : ส่องเทรนด์ตลาดรถยนต์หรูในสิงคโปร์ ปี 2567

Login