หน้าแรกTrade insightข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ > “บริษัท CGC ครบรอบ 50 ปี ยอดจำหน่ายสินค้า Private Brand พุ่งขึ้นอันดับ 3”

“บริษัท CGC ครบรอบ 50 ปี ยอดจำหน่ายสินค้า Private Brand พุ่งขึ้นอันดับ 3”

มีซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น เพิ่มอำนาจในการต่อรอง
วันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 50 ปี ของบริษัท CGC ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2516 จากการรวมตัวกันของซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่น เพื่อผนึกกำลังให้เป็นองค์กรขนาดใหญ่ สร้างอำนาจต่อรองในการจัดซื้อสินค้า และต่อสู้กับซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ในญี่ปุ่น โดยปีนี้เป็นปีแรกที่ยอดจำหน่ายโดยรวมของซูเปอร์มาร์เก็ตที่เป็นสมาชิกมีมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.17 ล้านล้านบาท) และสินค้า Private Brand (PB) ของบริษัทมียอดจำหน่ายสูงติดอันดับต้นๆ ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาสินค้าและค่าแรงสูงขึ้น ความสามารถในการต่อรองราคาเพื่อจัดซื้อและจัดหาสินค้าจึงนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดของธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น
ณ เดือนกรกฎาคม 2566 มีบริษัทเข้าร่วมเป็นสมาชิกทั้งหมด 208 บริษัท รวมจำนวนซูเปอร์มาร์เก็ต 4,433 แห่ง และรวมยอดจำหน่ายของสมาชิกทั้งหมดได้ทะลุ 5 ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หากเปรียบเทียบยอดจำหน่ายบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกพบว่า บริษัท CGC มียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 3 รองจากบริษัท Seven & i Holdings Co., Ltd. ที่มียอดจำหน่าย 11.8113 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2.78 ล้านล้านบาท) บริษัท AEON CO., LTD. ที่มียอดจำหน่าย 9.1168 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2.15 ล้านล้านบาท)
ความร่วมมือหลักของสมาชิกบริษัท CGC คือ การพัฒนาสินค้าประเภท Private Brand (PB) ร่วมกัน แม้ CGC จะไม่ได้เปิดเผยยอดจำหน่ายสินค้า PB แต่คาดการณ์ได้ว่า ยอดจำหน่ายสินค้า PB มีมูลค่าเป็นอันดับ 3 รองจาก แบรนด์ “Seven Premium” PB ของบริษัท Seven & i Holdings (ยอดจำหน่าย 1.38 ล้านล้านเยน) และแบรนด์ “TOPVALU” PB ของบริษัท AEON (ยอดจำหน่าย 9.025 แสนล้านเยน) โดยแบรนด์ “CGC” และ “SHOPPERS’ PRICE” เป็นสินค้า PB ของบริษัท CGC มีหลากหลายประเภทตั้งแต่อาหารสด อาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม รวมแล้วประมาณ 1,800 รายการ
อาหารและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันต่างมีราคาสูงขึ้น แต่รายได้ประชากรยังเพิ่มขึ้นไม่ทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นดังกล่าว ทำให้สินค้า PB ที่ราคาย่อมเยาได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่ต้องการประหยัดและลดการใช้จ่าย ยอดจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคมและสิงหาคม 2566 ของแบรนด์ “TOPVALU” สินค้า PB ของบริษัท AEON เท่ากับ 489,300 ล้านเยน (ประมาณ 115 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าค่าสาธารณูปโภคและค่าแรงที่สูงขึ้นจะส่งผลให้ซูเปอร์มาร์เก็ตบริหารจัดการกิจการได้ยากลำบากขึ้น แต่เนื่องจากสินค้า PB ที่มีราคาถูกสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้จึงเป็นสินค้าที่ช่วยเพิ่มผลกำไรและกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับซูเปอร์มาร์เก็ต
อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ที่ค่าครองชีพและค่าสาธารณูปโภคต่างๆ สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายอย่างเช่นในปัจจุบัน ซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นจำนวนไม่น้อยต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก จึงอาจทำให้เกิดการควบรวมกิจการระหว่างสมาชิก CGC อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2556 ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าบริษัท CGC ไม่ได้เป็นเพียงแค่องค์กรที่มีการรวมตัวของซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นเพื่อจัดหาสินค้าและสร้างอำนาจการต่อรองราคาร่วมกันเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำธุรกิจของซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืนขึ้นอีกด้วย

 

บทวิเคราะห์ (ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย)
บริษัท CGC เป็นการรวมตัวของซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อสร้างอำนาจการต่อรองในการจัดซื้อสินค้าและการร่วมพัฒนาสินค้า PB เพื่อจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตที่เป็นสมาชิก ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่นซึ่งมีเครื่องข่ายอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น สินค้า PB ส่วนใหญ่ผลิตในรูปแบบการจ้างผลิต (OEM) มีภาพลักษณ์ด้านราคาที่ย่อมเยา ซึ่งประเทศไทยเองก็มีผู้ประกอบการไทยหลายรายที่รับจ้างผลิตและส่งออกสินค้าอาหารแปรรูปไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพดหวานกระป๋อง ปลากระป๋อง ฯลฯ นอกจากนี้ บริษัท CGC ยังมีช่องทางจำหน่ายสินค้าที่สามารถเจาะลงไปถึงกลุ่มผู้บริโภคท้องถิ่นในต่างจังหวัดที่ไม่ใช่เมืองใหญ่ซึ่งอาจยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสหรือคุ้นเคยกับอาหารไทย/สินค้าแบรนด์ไทย เช่น แกงไทยสำเร็จรูป กะทิกระป๋อง ข้าวหอมมะลิไทย ฯลฯ มากนัก จึงอาจเป็นโอกาสดีสำหรับสินค้าไทยให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคระดับท้องถิ่นได้

ฉบับที่ 8 ประจำวันที่ 17 – 24 พฤศจิกายน 2566
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
แปลและเรียบเรียงจาก
หนังสือพิมพ์ Nikkei ฉบับวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566

อ่านข่าวฉบับเต็ม : “บริษัท CGC ครบรอบ 50 ปี ยอดจำหน่ายสินค้า Private Brand พุ่งขึ้นอันดับ 3”

Login