หน้าแรกTrade insightข้าว > กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์กำหนดเวลานำเข้าข้าวลดลงเหลือ 30 วัน

กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์กำหนดเวลานำเข้าข้าวลดลงเหลือ 30 วัน

 

               กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ (DA) เปิดเผยว่า นาย Francisco Tiu Laurel Jr. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์            ได้ลงนามคำสั่ง Memorandum Circular (MC) 53 เนื่องจากตระหนักถึงความจำเป็นในการรับประกันอุปทานและปริมาณสต็อกข้าวที่เพียงพอ และเพื่อให้มั่นใจถึงความพร้อมในการเข้าถึง การเข้าถึง และความสามารถในการซื้อข้าวที่ปลอดภัย โดยได้แก้ไขคำสั่ง Memorandum Circular (MC) 43 กำหนดให้สินค้าข้าวต้องถูกส่งออก 30 วัน นับจากวันที่ออกใบรับรองการนำเข้าสุขอนามัยและ        สุขอนามัยพืช (SPSICs) โดยไม่คำนึงถึงประเทศต้นทาง จากเดิมกำหนดให้ระยะเวลาการนำเข้าข้าวจากในอาเซียน (ยกเว้นเมียนมา) ต้องเดินทางมาถึงฟิลิปปินส์ภายใน 60 วัน และภายใน 90 วัน สำหรับข้าวที่นำเข้าจากประเทศเมียนมาและประเทศอื่นๆ ทั้งนี้         การนำเข้ายังคงอยู่ภายใต้ขั้นตอนการกักกันพืช ณ ด่านขาเข้าเมื่อสินค้าเดินทางมาถึงท่าเรือในฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ในคำสั่งดังกล่าวยังระบุให้ผู้นำเข้าต้องใช้ใบอนุญาต SPSICs อย่างเต็มที่ หากมีการใช้ SPSICs ในระดับต่ำหรือไม่มีเลยอาจส่งผลให้เกิดการลงโทษและบทลงโทษตามหลักเกณฑ์ เนื่องจากทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการคาดการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความพร้อมในการจัดหาข้าว

               กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ยังคาดการณ์ว่า การนำเข้าข้าวจะอยู่ภายใต้การคาดการณ์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ปริมาณ 3.8 ล้านตัน และเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดีย ได้จัดสรรโควตาการส่งออกข้าวปริมาณ 295,000 ตัน สำหรับข้าวขาวที่ไม่ใช่บาสมาติให้กับฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ยังได้แจ้งกับคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎร ก่อนหน้านี้ว่าได้สั่งการให้ผู้ค้าใช้ใบอนุญาตนำเข้าข้าวเพิ่มเติมอีก 1 ล้านตันภายใน 30 วันเช่นกัน เพื่อรองรับอุปทาน โดยข้อมูลของสำนักงานอุตสาหกรรมพืช (BPI) ระบุว่า ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ปริมาณนำเข้าข้าวอยู่ที่ 2.93 ล้านตัน และ       ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุว่า ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2566 มีปริมาณสต๊อกข้าวอยู่ที่ 2.04 ล้านตัน ขณะที่กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ได้ประมาณการปริมาณการเก็บเกี่ยวข้าวในปีนี้ที่ 20 ล้านตันซึ่งจะเกินกว่า 19.76 ล้านตันที่ประกาศไว้ในปี 2565

ที่มา: หนังสือพิมพ์ Business World ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2566

บทวิเคราะห์และข้อคิดเห็น

                      การออกคำสั่งของกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์เกี่ยวกับการปรับแก้ช่วงระยะเวลาการนำเข้าข้าวหลังได้รับใบอนุญาต SPSIC ใหม่ลงเหลือ 30 วัน คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ค้า/ผู้นำเข้าข้าวมีการนำเข้าข้าวเร็วขึ้นเพื่อช่วยเสริมอุปทานและปริมาณสต็อกข้าวในประเทศ ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่สุดในเอเชียเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหารและราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักพื้นฐานของประเทศที่มีความท้าทายหลายประการในด้านอุปทานข้าวในประเทศทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุไต้ฝุ่น ที่ส่งผลต่อความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตร รวมถึงความกังวลต่อผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่อาจทำให้ผลผลิตข้าวในประเทศลดลง ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานการณ์ราคาข้าวในประเทศฟิลิปปินส์ ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งหามาตรการต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีอุปทานและสต็อกข้าวที่เพียงพอในการรับมือกับสถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆ ดังกล่าว โดยการนำเข้าข้าวถือเป็นหนึ่งในแหล่งอุปทานสำคัญในการช่วยเสริมอุปทานข้าวในประเทศ ทั้งนี้ ปัจจุบันฟิลิปปินส์ถือเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของโลกจำเป็นต้องนำเข้าข้าวมากว่า 3 ล้านตันต่อปี โดยไทยเป็นหนึ่งในแหล่ง         นำเข้าข้าวสำคัญของฟิลิปปินส์รองจากประเทศเวียดนาม โดยในปี 2565 ไทยส่งออกข้าวมายังฟิลิปปินส์ปริมาณ 185,714 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีปริมาณส่งออก 146,239 ตัน และในปี 2566 (เดือนมกราคม – ตุลาคม)ไทยส่งออกข้าวมายังฟิลิปปินส์ 138,988 ตัน ลดลงร้อยละ 7.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณส่งออก 150,474 ตัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าฟิลิปปินส์จะมีแนวโน้มความต้องการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้าเพื่อชดเชยอุปทานข้าวในประเทศและเร่งสำรองข้าวไว้ใช้ในช่วงปลายปีและต้นปีหน้า ดังนั้น จึงเป็นโอกาสสำหรับข้าวไทยที่จะขยายการส่งออกมายังตลาดฟิลิปปินส์ ซึ่งข้าวไทยยังคงมีข้อได้เปรียบสำคัญในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานที่เป็นที่เชื่อมั่นใจของผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ และราคาข้าวไทยปัจจุบันอยู่ในระดับใกล้เคียงกับคู่แข่ง แต่ข้าวยังคงต้องแข่งขันกับประเทศคู่แข่งสำคัญคือ เวียดนามที่ครองส่วนแบ่งตลาดข้าวอันดับ 1 ในฟิลิปปินส์ที่มีพันธุ์ข้าวขาวพื้นนุ่มตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาและผลิตพันธุ์ข้าวให้มีความหลากหลาย โดยเฉพาะข้าวขาวพื้นนุ่มเพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดฟิลิปปินส์จึงจะมีโอกาสในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดข้าวในฟิลิปปินส์ได้มากขึ้นต่อไป

———————————————————–

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา

ธันวาคม 2566

 

อ่านข่าวฉบับเต็ม : กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์กำหนดเวลานำเข้าข้าวลดลงเหลือ 30 วัน

Login