หน้าแรกTrade insight > อัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียในเดือนพฤศจิกายนพุ่งสูงสุดในรอบ 18 ปี

อัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียในเดือนพฤศจิกายนพุ่งสูงสุดในรอบ 18 ปี

สำนักสถิติแห่งชาติไนจีเรียรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพฤศจิกายน 2566 ระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งวัดอัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียพุ่งสูงสุดที่ 28.20% ในเดือนพฤศจิกายน 2566 เมื่อเทียบแบบเดือนต่อเดือน (ตุลาคม 2566 อยู่ที่ 27.33%)สูงสุดในรอบประมาณสองทศวรรษและเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สิบเอ็ดและยังเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 18 ปี

อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารซึ่งเป็นดัชนีที่จับตามองอย่างใกล้ชิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 32.84% ในเดือนพฤศจิกายน 2566 จากร้อยละ 31.52% ในเดือนตุลาคมฯ โดยที่ดัชนีอาหารที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการขึ้นของราคาน้ำมันและไขมัน ราคาขนมปังและซีเรียล ผลิตภัณฑ์อาหาร มันฝรั่ง มันเทศและพืชหัวอื่นๆ รวมทั้ง ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์และปลา

นอกจากนี้ สำนักงานสถิติกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพฤศจิกายน 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.87 จุด เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคม 2566 และเมื่อเทียบเป็นรายปี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นร้อยละ 6.73 จุดโดยเทียบกับอัตราที่บันทึกไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 21.47 และตามรายงานอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นร้อยละ 32.84 ดังกล่าวหากเทียบเป็นรายปีสูงขึ้นร้อยละ 7.80 เมื่อเทียบกับอัตราที่บันทึกไว้ในเดือนตุลาคม 2565 (ร้อยละ 23.72)   อีกทั้ง อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารโดยเฉลี่ยต่อปีในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดเดือนตุลาคม 2566 จากค่าเฉลี่ย 12 เดือนก่อนหน้าอยู่ที่ร้อยละ 26.33 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.50 จากอัตราการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยต่อปีที่บันทึกไว้ในเดือนตุลาคม 2565 (ร้อยละ 19.83) และสำนักงานสถิติฯ ยังระบุว่า การเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นตัวขับเคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดของอัตราเงินเฟ้อประจำปีในเดือนพฤศจิกายนฯ

ทั้งนี้ นายโอลาเอมี คาร์โดโซ ผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ ให้คำมั่นว่าจะยุติโครงการแทรกแซงทางการคลังของธนาคารเพื่อลดภาวะเงินเฟ้อโดยวางแผนที่จะกระชับนโยบายในช่วงสองไตรมาสข้างหน้าเพื่อจัดการอัตราเงินเฟ้อหลังจากกลับมาดำเนินการเปิดตลาดใหม่อีกครั้งเพื่อช่วยควบคุมปริมาณเงินแม้ว่าประธานาธิบดีโบลา ตินูบูจะเริ่มการปฏิรูปที่สำคัญที่สุดในรอบหลายทศวรรษของไนจีเรีย แต่ประเทศก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนอัตราแลกเปลี่ยนฯ รายได้จากน้ำมันที่ต่ำ และการโจรกรรมน้ำมันดิบซึ่งเป็นการส่งออกหลักและสร้างรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าการเสื่อมราคาของเงินไนร่า ราคาเชื้อเพลิงและอาหารที่สูงขึ้น รวมทั้ง ต้นทุนด้าน        โลจิสติกส์ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียพุ่งสูงขึ้น

อนึ่ง อัตราเงินเฟ้อในไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในแอฟริกา เพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักนับตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งบั่นทอนรายได้และการออม แม้ว่าธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบสองทศวรรษในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมฯ ในอัตราดอกเบี้ย 25 จุดซึ่งน้อยกว่าที่คาด ทั้งนี้ การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยระดับปานกลางเพื่อยึดการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันก็สนับสนุนการลงทุนต่อไป
เมื่อเร็วๆ นี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศเรียกร้องให้ผู้นำของธนาคารกลางไนจีเรียขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมอัตราครั้งต่อไป ซึ่งการที่ผู้ว่าการธนาคารกลางนิ่งเงียบอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการประชุมขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้นักวิเคราะห์มีความหวังว่าอัตราเงินเฟ้อจะถูกควบคุม อย่างไรก็ตาม ในการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้กับคณะกรรมการร่วมด้านการธนาคาร การประกันภัย และสถาบันการเงินอื่นๆ เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังเพิ่มขึ้นในปี 2567 เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์ที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปเนื่องจากผลผลิตทางเศรษฐกิจต่ำ และมีวิธีเดียวที่จะลดผลกระทบได้คือการเพิ่มการผลิตในท้องถิ่น โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมและพลังงานซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับอัตราเงินเฟ้อมากกว่า 50%

อ่านข่าวฉบับเต็ม : อัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียในเดือนพฤศจิกายนพุ่งสูงสุดในรอบ 18 ปี

Login