เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 อินเดียได้กําหนดข้อจํากัดสำหรับการนําเข้าแล็ปท็อป
แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ PC บางประเภทให้มีผลบังคับใช้ทันที โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคผลิตของประเทศ  รวมทั้งจํากัดอุปทานจากจีน โดยรัฐบาลมีข้อกังวลด้านความมั่นคง แต่ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Union Commerce Secretary Sunil Barthwal ให้ข่าวว่า อินเดียจะยกเลิกข้อจํากัดสำหรับการนําเข้าแล็ปท็อป  จะเป็นเพียงการเฝ้าระวัง โดยรัฐบาลจะจับตามองผู้นําเข้าอย่างใกล้ชิด  ซึ่งการที่รัฐบาลได้เคยกำหนดแผนการออกใบอนุญาตนําเข้านั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อ “รองรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และระบบที่สามารถเชื่อถือได้” เข้าสู่ตลาดอินเดีย อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกรุงวอชิงตันถึงผลกระทบต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Dell, HP, Apple, Samsung และ Lenovo ประกอบกับการประชุมองค์การการค้าโลกครั้งล่าสุด ประเทศผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ สหรัฐฯ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวันได้แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้

ขณะนี้รัฐบาลอินเดียกําลังหารือกับภาคอุตสาหกรรมและมีท่าทีที่จะประกาศคําสั่งใหม่ที่ข้องเกี่ยวกับการนําเข้าสินค้าดังกล่าว โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 66 ผู้ประกอบการจะต้องมีใบอนุญาตนําเข้าสินค้าสู่ประเทศ สำหรับ  คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) และแล็ปท็อป และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่อง สำหรับ “ระบบการจัดการการนําเข้า” รูปแบบใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 66  และกําหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องลงทะเบียนทั้งเชิงปริมาณและมูลค่า  ทั้งนี้การที่รัฐบาลออกมาให้ข่าวยกเลิกข้อจำกัดในครั้งนี้ ทำให้บริษัทผู้ผลิตแล็ปท็อปรายใหญ่ อย่าง Dell, HP, Apple, Samsung และ Lenovo คลายความกังวลลง อย่างไรก็ดี ในช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคม 2566 ประเทศอินเดียมีมูลค่าการนําเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ ซึ่งรวมถึงแล็ปท็อป แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล คิดเป็น 33.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 8% เมื่อเปรียบเทียบจากปีที่ผ่าน

  ข้อมูลเพิ่มเติม

• รัฐบาลอินเดียมีกลยุทธ์ที่จะปรับเปลี่ยนไปสู่การบริหารจัดการการนําเข้า สำหรับภาคอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบการอนุญาตออนไลน์ใหม่นี้จะเป็นไปในรูปเบบไร้สัมผัส
• อินเดียมีการนําเข้าแล็ปท็อปคิดเป็น 87% ของการนำเข้าแล็ปท็อปทั้งหมด โดยในปี 2022-23 มูลค่าการนําเข้าแล็ปท็อปและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคิดเป็น 5.33 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมากกว่า 75% เป็นการนำเข้าสินค้ามาจากจีน
• จีน ถือเป็นประเทศที่ครองสัดส่วนจากการนำเข้าสูงที่สุดของอินเดีย โดยเฉพาะสินค้าในหมวด คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และแล็ปท็อป ซึ่งจีนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 70-80 %
• ปัจจุบันอินเดียตั้งเป้าการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้สามารถสร้างมูลค่าสูงถึง 3 แสนเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2569 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับภาคการผลิตในท้องถิ่น  รัฐบาลอินเดียยังได้กําหนดอัตราภาษีที่สูง สําหรับโทรศัพท์ Smartphone โดยมี “ระบบการจัดการการนําเข้า” รูปแบบใหม่ที่รัฐบาล จะนำมาใช้ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้นำเข้าต่อไปกับสินค้าในหมวดนี้
• การอนุญาตให้นําเข้าสินค้าดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ถึงเดือนกันยายน 2567 ทั้งนี้สินค้าจำพวก IT ฮาร์ดแวร์ที่ผลิตในเขตเศรษฐกิจพิเศษ SEZs สามารถนําเข้าสู่พื้นที่ในประเทศต่อได้โดยไม่ต้องดำเนินการขออนุญาต หากมีการชําระภาษีอากรที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี กิจกรรมทางเศรษฐกิจ อาทิ การบรรจุ การติดฉลาก การตกแต่งใหม่ และการทดสอบ ภายใน SEZ จะไม่ถือว่าเป็นการผลิตเพื่อใช้สิทธิประโยชน์จากการยกเว้นการอนุญาตนําเข้า
• จากรายงานการนําเข้าอินเดียของสถาบัน Volza ระบุว่า อินเดียมีการนำเข้าคอมพิวเตอร์จากประเทศไทย โดยเป็นผู้นําเข้าอินเดีย 263 รายจากซัพพลายเออร์ในประเทศไทย 244 ราย ทั้งนี้ อินเดียเป็นผู้นําเข้าโน้ตบุ๊กรายใหญ่ที่สุดของโลก และมีการนําเข้าโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่จากประเทศไทย

ข้อคิดเห็น

·  ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนํา ทั้งชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เสริม รวมถึงเป็นผู้ส่งออกฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์รายใหญ่อันดับ 2 ของอินเดีย ด้วยแรงงานไทยมีทักษะสูงในการผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ประเทศมีระบบการศึกษาที่แข็งแกร่ง มีการฝึกอบรมด้านเทคนิคในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เฉพาะทาง สคต.มุมไบ เห็นว่า การขยายความร่วมมือ ทางด้านทักษะแรงงานระหว่างกัน มีการแลกเปลี่ยนการอบรมทางเทคนิค โดยเฉพาะทักษะด้านการผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการขยายมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศ

• ด้วยตลาดอินเดียยังมีความต้องการคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อปและอุปกรณ์เสริมจํานวนมาก ในขณะที่ประเทศไทยมีอุปทานจากภาคการผลิตที่สามารถรองรับ และตอบสนองอุปสงค์ของตลาดอินเดียได้ การยกเลิกข้อจำกัดด้านการนําเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ PC และแล็ปท็อป จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตไทยและผู้ส่งออกไทยในการสร้างแต้มต่อทางการค้า ประกอบกับในช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียเฝ้าระวังการตีตลาดของสินค้าจากจีน และส่งเสริมการผลิตในท้องถิ่นอินเดียตามนโยบายของรัฐ การนําเข้าของอินเดียในสินค้าหมวดคอมพิวเตอร์ได้หดตัวลงประมาณ 10 พันล้านดอลลาร์ (คิดเป็น 23.1%) ผู้ประกอบการไทยควรเร่งปรับตัวเพื่อคว้าโอกาสในการทดแทนสินค้าของจีนที่เริ่มสูญเสียส่วนแบ่งตลาด สามารถผลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสสําหรับบริษัทไทยที่มีไลน์การผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเดียวกัน

https://www.indiatimes.com/technology/news/india-rolls-back-laptop-import-restrictions-617650.html#:~:text=The%20Indian%20government%20has%20decided%20to%20roll,only%20%22trusted%20hardware%20and%20systems%22%20enter%20India
https://www.reuters.com/world/india/india-issue-end-to-end-digital-authorization-it-hardware-imports-2023-10-19/#:~:text=NEW%20DELHI%2C%20Oct%2019%20(รอยเตอร์,system%22%20takes%20effect%20from%20Nov.
https://indianexpress.com/article/business/economy/govt-tweaks-licensing-norms-laptop-computer-imports-place-online-authorisation-system-8990566/
https://www.volza.com/p/computer/import/import-in-india/coo-thailand/

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)