ในยุคหลัง Covid-19 ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ได้นำมาซึ่งความท้าทายใหม่ๆ มาสู่หลายอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การพัฒนาและการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคใหม่ เช่น Gen Z ผู้บริโภคกลุ่มคนเกิดหลังยุคปี 80 และ ปี 90 และผู้บริโภคกลุ่มแม่ยุคใหม่ที่มีความต้องการบริโภคในด้านคุณภาพ สุขภาพ ความสะดวกสบาย และแสวงหาการบริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การรับประทานอาหารกลางแจ้ง การรับประทานอาหารง่ายๆที่บ้าน หรือแม้แต่อาหารจานเดียว ซึ่งนักวิเคราะห์ของ iiMedia Consulting เชื่อว่าตั้งแต่ปี 2021 การพัฒนาของอุตสาหกรรมทางการเกษตร จะสามารถช่วยส่งเสริมการแปรรูปทางอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้เป็นอย่างมาก เช่น ปลาดอง พริกไทย หมูสามชั้น ไก่ ฯลฯ .
จากข้อมูลจาก iiMedia Research ในปี 2022 ขนาดของตลาดอาหารสะดวกซื้อของจีนสูงถึง 596.1 พันล้านหยวน และคาดว่ามูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมอาหารสะดวกซื้อของจีนเกินหนึ่งล้านล้านหยวนในปี 2026 ในขณะเดียวกัน คาดว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ปี 2024 แบ่งออกได้เป็น 3 แนวโน้มหลัก ดังนี้
1.มุ่งเน้นคุณภาพของสินค้าและเพิ่มการกระตุ้นในความอยากลองสิ่งแปลกใหม่ของผู้บริโภค
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ล่าเมอหลู่ลี่ (辣么卤力) ที่นำสไตล์อาหารของเมืองเสฉวนที่ขึ้นชื่อมาทำเป็นขนมของว่างทานเล่น อีกทั้งยังใช้เนื้อ “กระต่าย” ที่เลี้ยงให้เติบโตตามธรรมชาติหั่นขนาดพอดีคำทานง่าย คิดค้นวิธีขจัดกลิ่นไม่ให้เนื้อเหม็นคาว และมีเครื่องเทศสูตรลับ ที่มีรสเผ็ด หอม ที่มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย
2.มีลูกเล่นใหม่ๆ ที่ง่ายและสะดวกต่อการรับประทาน
จากข้อมูลของ Mintel พบว่า การรับประทานอาหารสะดวก จะกลายเป็นหนึ่งในแนวโน้มที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในปี 2024 ในชีวิตสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคแสวงหาความปลอดภัยและคุณภาพของอาหารเป็นหลักก็จริง แต่ในทางกลับกัน พวกเขาไม่มีเวลาว่างเพียงพอที่จะทำอาหารด้วยตนเอง และ “อาหารสะดวกซื้อ” ก็คว้าจุดอ่อนนี้มาได้ ทำให้ผู้บริโภคมีทางลัดในการได้รับอาหารคุณภาพสูงอย่างรวดเร็วผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และด้านอื่นๆ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคพบความสมดุลระหว่างความอร่อยและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ต้าตัวฝู（大多福）ชุดทำทาโกะยากิ DIY เป็นผลิตภัณฑ์ครบชุดที่สามารถทำทาโกะยากิเองได้ที่บ้าน ชุดนี้ประกอบด้วยส่วนผสมทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับทาโกะยากิ เช่น แป้งผสม ทาโกะยากิ ซอส โบนิโตเฟลก ฯลฯ และใช้กลยุทธในการขาย เช่น ซื้อ3กล่องขึ้นไป แถมเตาทำทาโกะยากิ เป็นต้น โดยแบรนด์จะใช้แพลตฟอร์ม Douyin ที่มีวิดีโอสอนวิธีการทำติดตั้งไว้ด้วย
จากรายงาน “แนวโน้มอีคอมเมิร์ซตลาดอาหารเพื่อสุขภาพปี 2023” ที่เผยแพร่โดย Feigua Data ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 พบว่าความนิยมของ “การกินเพื่อสุขภาพ” บนโซเชียลมีเดีย เช่น WeChat, Baidu และ Douyin แสดงให้เห็นแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดด ในปีที่ผ่านมา บน Douyin ผู้ใช้อีคอมเมิร์ซที่ใช้งานอยู่มากกว่า 60% ได้ซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการการบริโภคเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น อีกด้านหนึ่ง อาหารควบคุมน้ำตาล ควบคุมแคลอรี่ และควบคุมสารปรุงรส ยังคงได้รับความนิยม ในทางกลับกัน ผู้บริโภคสนใจอาหารเสริมสุขภาพ ยา เครื่องสำอาง และอาหารที่มีโปรตีนสูง อีกทั้งยังมีความต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ธาตุต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน “การควบคุม” และ “อาหารเสริม” ในเวลาเดียวกันได้กลายเป็นความต้องการทั่วไปของผู้บริโภคในเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ
3.การเน้นสุขภาพเป็นกุญแจสำคัญ โดยยึดหลักการ “ควบคุม” และ “อาหารเสริม”
ตัวอย่างเช่น แบรนด์เชิ่นจินเทียน（趁今天）เป็นผลิตภัณฑ์น้ำเก๋ากี้ “เก๋ากี้”เป็นตัวยาสมุนไพรของจีนชนิดนึงที่ชาวจีนนิยมนำมาใส่ทำอาหาร และการแช่เก๋ากี้ในถ้วยกระติกน้ำร้อนเป็นกระแสนิยมด้านสุขภาพมาหลายปีแล้ว ดังนั้นแบรนด์จึงได้เพาะปลูกเก๋ากี้ออร์แกนิก พัฒนามาใส่กล่องพกพาสะดวก และ ผลิตภัณฑ์ประเภทเก๋ากี้อีกมากมาย
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย
เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในด้านรสชาติ ความมีลูกเล่นแปลกใหม่ของผลิตภัณฑ์ และยังคงให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองอีกด้วย ทำให้เกิดแนวโน้มการบริโภครูปแบบใหม่ที่เพิ่มความท้าทายให้กับผู้เล่นในตลาดอยู่เสมอ และมีช่องว่างสำหรับโอกาสใหม่ๆ ที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงการประมวลแนวโน้มในเบื้องต้นเท่านั้น ผู้ประกอบการควรศึกษาอัพเดทข้อมูลเทรนด์ผู้บริโภคเพิ่มเติมและหมั่นคิดค้นพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตรงตามความต้องการของตลาดได้ต่อไป
ภาพ: https://www.163.com/dy/article/I62GKQKR05509VFK.html
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)
