สำนักสถิติแห่งชาติไนจีเรียรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนกันยายน 2566 ระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งวัดอัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียพุ่งสูงสุดที่ 26.72% ในเดือนกันยายน 2566 สูงสุดในรอบประมาณสองทศวรรษและเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่เก้าซึ่งยังเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 18 ปีเมื่อเทียบแบบเดือนต่อเดือน (สิงหาคม 2566 อยู่ที่ 25.80%)
อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารซึ่งเป็นดัชนีที่จับตามองอย่างใกล้ชิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 30.64% ในเดือนกันยายน 2566 จากร้อยละ 29.34% ในเดือนสิงหาคมฯ โดยที่ดัชนีอาหารที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการขึ้นของราคาน้ำมันและไขมัน ราคาขนมปังและซีเรียล ผลิตภัณฑ์อาหาร มันฝรั่ง มันเทศและพืชหัวอื่นๆ รวมทั้ง ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์และปลา
ทั้งนี้ ท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพที่ย่ำแย่ลงในระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของแอฟริกาเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงโดยชาวไนจีเรียหลายล้านคนยากจนเนื่องจากผลกระทบของการปฏิรูปของประธานาธิบดีโบลา ทินูบู หลังจากยกเลิกการอุดหนุนน้ำมันที่มีมานานหลายทศวรรษซึ่งเพิ่มราคาเป็น สามเท่า และทำให้ค่าเงินไนร่าลดลงมากกว่า 50% ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นแม้ว่าจะเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของแอฟริกา โดยที่อัตราเงินเฟ้อในไนจีเรียเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักนับตั้งแต่ปี 2559 กัดกร่อนรายได้และการออม และอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งสูงสุดในรอบเกือบสองทศวรรษในการประชุมครั้งถัดไป อัตราเงินเฟ้อรายปีอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2548
อย่างไรก็ดี กองทุนการเงินระหว่างประเทศรับทราบอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นของไนจีเรียโดยไนจีเรียสามารถขอเงินทุนได้หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการจัดการกับความไม่สมดุลภายนอก และยังยินดีกับการตัดสินใจล่าสุดของธนาคารกลางไนจีเรียที่จะยกเลิกการห้าม 43 รายการสินค้าก่อนหน้านี้ที่ถูกจำกัดไม่ให้เข้าถึงการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากหน้าต่างอย่างเป็นทางการโดย ถือว่าเป็นก้าวเชิงบวกในทิศทางของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ตลาดกำหนด
ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการซื้อขายเงินไนร่าอยู่ที่ 1,186 ไนร่าต่อดอลลาร์ในตลาดคู่ขนาน (ตลาดมืด) ในขณะที่หน้าต่างแลกเปลี่ยนสำหรับนักลงทุนและผู้ส่งออก (I&E) อย่างเป็นทางการปิดที่ 808 ไนร่าต่อดอลลาร์เนื่องจากเกิดความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบการแลกเปลี่ยนลอยตัวอิสระใหม่ตามความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีที่จะรวมอัตราแลกเปลี่ยนเข้าด้วยกัน
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)