หน้าแรกTrade insightการค้าระหว่างประเทศ > รายงานสถานการณ์สงครามในอิสราเอล

รายงานสถานการณ์สงครามในอิสราเอล

รายงานสถานการณ์สงครามในอิสราเอล
1. ลำดับเหตุการณ์
• วันเสาร์ที่ 7 ต.ค.66 เวลาท้องถิ่นประมาณ 6.30 น. – ฮามาส ขบวนการอิสลามิสต์ปาเลสไตน์เปิดฉากการโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ด้วยการยิงจรวดจำนวนมากกว่า 5,000 ลูก จากฉนวนกาซา และส่งนักรบข้ามพรมแดนเข้ามาฆ่าและจับประชาชนอิสราเอลเป็นตัวประกัน ซึ่งวันที่ 7 เป็นวันสำคัญทางศาสนาของชาวอิสราเอล หรือวันซิมหัต โทราห์ (Simchat Torah) นับเป็นการถล่มที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อนอีกครั้ง ก่อให้เกิดการสู้รบที่รุนแรงและร้ายแรงที่สุดวันหนึ่งในภูมิภาคในรอบหลายทศวรรษ
• ฮามาส กลุ่มติดอาวุธที่ควบคุมฉนวนกาซา ยิงจรวดโจมตีหลายเมืองใหญ่ๆ ทั่วอิสราเอล และได้ส่งกลุ่มมือปืนที่ข้ามกำแพงกั้นบริเวณชายแดนฉนวนกาซามาข้ามพรมแดนไปยังอิสราเอลตอนใต้ พร้อมเข้ายึดฐานทัพและจับตัวประกัน
• หลังจากนั้นเกิดการสู้รบที่ดุเดือดและร้ายแรงวันหนึ่งในภูมิภาคในรอบหลายทศวรรษ การโจมตีเมื่อวันเสาร์เกิดขึ้น 50 ปีกับหนึ่งวันหลังจากกองกำลังอียิปต์และซีเรียเปิดฉากการโจมตีในช่วงวันหยุดยมคิปปูร์(วันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนายูดาห์) ของชาวยิวหรือชาวอิสราเอล เพื่อที่จะยึดคืนดินแดนที่อิสราเอลยึดครองระหว่างความขัดแย้งช่วงสั้นๆ ในปี 1967
• ในช่วงเย็น กองทหารอิสราเอลยังคงปฏิบัติการ เพื่อเก็บกวาดชุมชนที่ถูกบุกรุกโดยนักรบฮามาส
• วันอาทิตย์ที่ 8 ต.ค.66 การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป
• วันจันทร์ที่ 9 ต.ค.66 โฆษก Israel Defense Force (IDF) กล่าวว่าสามารถควบคุมพื้นที่ชายแดนฉนวนกาซาได้แล้วแต่ยังมีผู้ก่อการร้ายหลบซ่อนตัวหลงเหลืออยู่ให้เฝ้าระวัง ในขณะที่ภาคเหนือเขตเวสต์แบงค์เริ่มเหตุการณ์ไม่สงบ
• นับจากสงครามวันแรก มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 800 คน และบาดเจ็บกว่า 2,000 คน ฮามาสจับเป็นตัวประกัน 100 คน สหรัฐฯ ประกาศยืนเคียงข้างอิสราเอล พันธมิตรประเทศประนามการก่อการร้ายครั้งนี้
2. ผลกระทบต่อไทย
• ด้านแรงงานไทย 29,000 คนที่ทำงานเกษตรในอิสราเอล มีแรงงานไทยหลายคนได้รับอันตรายเสียชีวิตและถูกจับเป็นตัวประกัน
• ด้านการค้าการนำเข้าส่งออกจากไทย
แม้ว่าอิสราเอลจะมั่นใจว่าจะชนะสงครามครั้งนี้ แต่ก็ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก กระทรวงการคลังอิสราเอลประมาณการว่าเศรษฐกิจอิสราเอลได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงมูลค่าความเสียหายหลายพันล้านเชคเกล และนอกเหนือจากผลกระทบโดยตรงต่องบประมาณด้านกลาโหมแล้ว กระทรวงการคลังประสบปัญหาการอ่อนค่าของเงินสกุลเชคเกล และการจัดอันดับเครดิตทางเศรษฐกิจของอิสราเอล ซึ่งในการปฏิบัติการทางทหารครั้งก่อน ไม่ส่งผลต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอลและเงินเชคเกลยังคงมีเสถียรภาพ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติได้เรียนรู้ว่าไม่ควรตื่นตระหนักมากเกินไปกับสถานการณ์ความมั่นคงในอิสราเอล ซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนว่าสงครามครั้งนี้รุนแรงมาก อาจยาวนานและยากขึ้นโดยที่เศรษฐกิจอิสราเอลอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนไหว อีกทั้งการปฏิรูประบบตุลาการของรัฐบาลก่อให้เกิดความกังวลในตลาดหุ้นรวมกับสถานการณ์ความมั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์และความแตกแยกทางสังคมและการเมืองของอิสราเอลจะกระตุ้นให้ค่าเงินเชคเกลอ่อนค่าลง
เมื่อเศรษฐกิจอิสราเอลได้รับผลกระทบจากสงครามย่อมกระทบต่อการค้าการลงทุนกับต่างประเทศรวมทั้งการค้ากับไทย หากสงครามสามารถยุติลงได้ใน 1 – 2 สัปดาห์ อิสราเอลจะสามารถฟื้นฟูเยียวยาประเทศและเศรษฐกิจได้เหมือนที่ผ่านมา แต่หากสงครามยืดเยื้อก็ต้องใช้เวลานานในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของธุรกิจ
ผลกระทบเชิงบวก
โอกาสของไทยในการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นจากภาวะสงครามและการขาดแคลนสินค้า ประเทศไทยอาจมีโอกาสส่งออกสินค้าจำเป็นไปยังอิสราเอลเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ข้าว อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์
ผลกระทบเชิงลบ
1) ปัญหาการขนส่งสินค้าไทยไปยังประเทศอิสราเอลอาจจะล่าช้าและราคาค่าขนส่งแพงมากชึ้น
2) สินค้านำเข้าจากอิสราเอลมายังไทย เช่น เพชร ปุ๋ย เคมีภัณฑ์ เป็นต้น อาจมีปัญหาในการผลิตและการส่งออกจากอิสราเอล
3) แม้ไทยอาจจะส่งออกสินค้าอาหารได้เพิ่มขึ้น แต่การส่งออกสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพไปตลาดอิสราเอลอาจชะลอลงจากกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวอิสราเอลลดลงเนื่องจากภาวะสงครามเช่น รถยนต์และชิ้นส่วน อัญมณีและเครื่องประดับ
4) นักธุรกิจอิสราเอลอาจชลอการเดินทางเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศไทย
3. แนวทางการรับมือ
• ติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจการค้าที่เกี่ยวข้องทุกวัน และวิเคราะห์ผลกระทบ รวมถึง แนวทางการแก้ไขให้ทันต่อเหตุการณ์
• หารือกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค และแนวทางการแก้ไข
• ศึกษาโอกาสส่งออกสินค้าศักยภาพของไทย เพื่อทดแทนตลาดอิสราเอล หากสงครามยืดเยื้อรุนแรง
—————————————————————–

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login