หน้าแรกTrade insightยานยนต์เเละส่วนประกอบ > BMW กำลังจะล้ำหน้า Tesla ในด้านการขับเคลื่อนอัตโนมัติ

BMW กำลังจะล้ำหน้า Tesla ในด้านการขับเคลื่อนอัตโนมัติ

ตั้งแต่ในปี 2020 เป็นต้น3มา บริษัท BMW ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สัญชาติเยอรมันได้ออกมาประกาศว่า จะปล่อยรถที่มี SAE-Level 3 ออกสู่ตลาด แต่จนแล้วจนรอด จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีทีท่าที่จะได้เห็นรถดังกล่าวออกมา ซึ่งล่าสุด BMW ได้ออกมาชี้แจงว่า “จะมีการปล่อย SAE-Level 3 ออกสู่ท้องตลาดในเร็ว ๆ นี้ โดย SAE (หรือ Society of Automotive Engineer) หรือสมาคมวิศวกรยานยนต์ ได้ทำการกำหนดระดับมาตรฐานรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติไว้ โดยแบ่งออกเป็น 6 ระดับ กล่าวคือ (1) ระดับ 0 คือ ไร้การขับเคลื่อนอัตโนมัติ (2) ระดับ 1 ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (3) ระดับ 2 ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (4) ระดับ 3 ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ควบคุมรถได้ส่วนใหญ่ (5) ระดับ 4 ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ควบคุมรถได้ทั้งหมด แต่ยังต้องการการควบคุมจากผู้ขับขี่ในสภาวะผิดปกติต่าง ๆ อาทิ สภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรง และสุดท้าย (6) ระดับ 5 ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ควบคุมรถได้ทั้งหมด ซึ่งไม่ต้องการควบคุมจากผู้ขับขี่เลย

ปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่มีมาตรฐานการขับเคลื่อนอัตโนมัติอยู่ระดับที่ 1 เท่านั้น โดยมีการจำแนกเป็นประเภทง่าย ๆ กล่าวคือ รถยนต์ที่มี Cruise Control หรือรถยนต์ของค่าย Tesla ก็ยังคงมีระดับมาตรฐานรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติอยู่ในระดับที่ 2 เท่านั้น หรือสามารถใช้ได้แค่ Auto Pilot และ Self-Driving ในบางพื้นที่เท่านั้น แต่สำหรับรถที่ BMW จะปล่อยออกสู่ท้องตลาดที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น คือ รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3 ที่มีความสามารถในการขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยไม่ต้องการการควบคุมของผู้ขับขี่ แต่ยังคงต้องการความสนใจจากผู้ขับขี่บ้างในบางสถานการณ์ โดย BMW ได้พยายามผลักดันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติขึ้นไปให้ถึงระดับ 3 ก็เพราะว่า ในรถยนต์รุ่นนี้ได้มีการใช้เทคโนโลยี LiDAR ซึ่งเป็นความร่วมมือกับบริษัท Innoviz โดยจะใช้เซนเซอร์แบบใหม่ที่มีความสามารถในการรับรู้สูง

สำหรับ ระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในระดับ 3 ของ BMW นี้ มีการกำหนดที่นำมาใช้งานกับรถยนต์ BMW 7 รุ่นก่อนหน้านี้ โดยปัจจุบัน BMW และ Innoviz กำลังเร่งพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีใหม่นี้ขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการนำเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3 ไปทดลองใช้ในรถ Demo โดยหากการปรับปรุงครั้งนี้สำเร็จ BMW ตั้งเป้าจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้ในรถยนต์อีกหลายประเภท ด้านนาย Nicolai Martin รองผู้บริหารด้านประสบการณ์การขับขี่ในเครือ BMW เปิดเผยว่า “เรายินดีมากที่ได้ร่วมมือกับ Innoviz ในการปรับปรุงใช้เทคโนโลยี LiDAR ซึ่งเราหวังว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นมาตรฐานที่จะทำให้เกิดความร่วมมือในด้านอื่น ๆ อีกในอนาคต” มากไปกว่านั้นปัจจัยหลักที่ทำให้ BMW พยายามเป็นอย่างมากที่จะหาทางบังคับใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ เพราะว่า ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่เป็นอันดับหนึ่ง ในขณะที่นาย Elon Musk ได้ออกมาตอบโต้ว่า LiDAR นั้นเป็นระบบที่ทั้งแพงและเกินความจำเป็น และยังพูดอีกว่า “บริษัทที่ใช้ LiDAR ไปไม่รอดแน่นอน” อย่างไรก็ตาม BMW และอีกหลายบริษัทเชื่อว่า เทคโนโลยีนี้จะสามารถผลักดันให้ระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติพัฒนาขึ้นไปได้อีกไกล และมีความเป็นไปได้ว่า เราอาจจะได้พบเห็นระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่มีความฉลาดมากกว่านี้อีกมากในอนาคต

 

ที่มา :

Handelsblatt

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login