หน้าแรกTrade insightเครื่องดื่ม > รู้จักปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผู้ช่วยแห่งวงการอุตสาหกรรมอาหารของจีน

รู้จักปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผู้ช่วยแห่งวงการอุตสาหกรรมอาหารของจีน

หลายปีที่ผ่านมานี้ สืบเนื่องจากความตระหนักในเรื่องสุขภาพของชาวจีน ทำให้การรับประทานอาหารที่เหมาะสมเริ่มกลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสำคัญและถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในชีวิตประจำวันมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันมีการผสมผสานของเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่อย่างต่อเนื่อง อย่าง Big Data และ Artificial Intelligence (AI) ทำให้อาหารที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะบุคคลกลายเป็นแนวโน้มใหม่ในการพัฒนาของอุตสาหกรรมอาหารจีน

ปี ค.ศ. 2016 จีนได้ออกโครงร่างแผน “ชาวจีนสุขภาพดี” หรือ Healthy China 2030 ซึ่งมีแผนการดำเนินงานด้านโภชนาการแห่งชาติ แนวทางการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับลักษณะของประชากรที่แตกต่างกัน และแนะนำให้ประชาชนสร้างนิสัยการกินที่สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์มากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ปัจจุบันพบว่า จีนมีนักโภชนาการ 1 คน ต่อประชากร 400,000 คน จึงทำให้การดำเนินงานในปัจจุบันยังคงห่างไกลจากเป้าหมายที่วางไว้อยู่มาก เนื่องจากจีนมีเป้าหมายที่จะพัฒนานักโภชนาการ 1 คน ให้เพียงพอต่อประชากร 10,000 คน

หลายปีที่ผ่านมานี้ โปรแกรมสูตรอาหารทางอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่อัตราส่วนของส่วนผสมและเครื่องปรุงรส แต่ยังไม่สามารถคำนวนข้อมูลด้านพลังงานและเกลือที่อยู่ในอาหารแต่ละจานได้อย่างแม่นยำ ซึ่งยากต่อการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ จึงเป็นโอกาสให้แก่ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันอาหารเพื่อสุขภาพของจีน ที่ได้เริ่มเข้าสู่สนามอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น

ปัจจุบัน ภายใต้นโยบาย Healthy China 2030 ทำให้ชาวจีนมีความต้องการด้านอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น ส่งผลให้แอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพการกินดื่มเฉพาะบุคคลกำลังกลายเป็นกระแสของตลาด และเป็นแนวโน้มการพัฒนาที่สำคัญของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของจีน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากรายงานโภชนาการและโรคเรื้อรังของชาวจีน ที่เปิดเผยว่า ประเทศจีนมีประชากรอ้วนและน้ำหนักเกินถึง 600 ล้านคน มีผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงถึง 245 ล้านคน มีผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานถึง 140 ล้านคน ซึ่งถึงแม้ว่าคนรุ่นใหม่จะตระหนักถึงการรับประทานเพื่อสุขภาพมากขึ้น แต่จีนก็ยังประสบกับปัญหาจำนวนนักโภชนาการไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ประกอบการชาวจีนที่มองเห็นโอกาสและความต้องการของตลาดได้พัฒนาเครื่องมือโภชนาการอัตโนมัติที่เหมาะสมกับร่างกายของผู้บริโภคขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันสือเก้อเหอ (食各和) แอปพลิเคชันที่เป็นผู้ช่วยด้านอาหารและโภชนาการที่จะแนะนำสูตรอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยนักโภชนาการมืออาชีพ มีคลิปแนะนำความยาว 60 วินาที ที่สะดวกและใช้งานง่ายสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลา เงินในกระเป๋า และสามารถรับประทานอาหารได้อย่างถูกหลักโภชนาการอีกด้วย

แอพลิเคชันสือเก้อเหอ (食各和)

ที่มา: https://www.qqtn.com/azsoft/846645.html

แอปพลิเคชันสือเก้อเหอ ทำงานโดยให้ AI เรียนรู้จากการเลือกอาหาร และทำจริง รวมทั้งให้ผู้บริโภคได้ให้ฟีดแบ็กหลังจากได้ลองรับประทานแล้ว เพื่อที่ครั้งต่อไป AI จะสามารถแนะนำแพ็กเกจอาหารที่มีโภชนาการที่ดีกว่า ที่เหมาะสมกว่า และมีความแม่นยำกว่าตามความชอบและรสนิยมของผู้บริโภคแต่ละราย ซึ่ง AI ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็จะนำข้อมูลที่เก็บได้มาวิเคราะห์และปรับปรุงสูตรอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาสูตรอาหารให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

สำหรับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ AI จะจัดชุดอาหารที่มีโภชนาการที่แม่นยำให้แก่ผู้บริโภคแต่ละราย โดยเมื่อถึงเวลาเลือกซื้ออาหาร AI จะแนะนำรสชาติที่ชอบตามข้อมูลการกินดื่มของผู้ใช้ในแต่ละวัน ซึ่งจะถูกส่งถึงศูนย์ตรวจสุขภาพและจะได้รับการวินิจฉัยอย่างสม่ำเสมอโดยแพทย์เฉพาะทางและระบบ AI จะทำการบันทึกไว้ และสามารถแนะนำเมนูอาหารที่เหมาะสมและถูกสุขอนามัย และมีความหลากหลายได้ในครั้งต่อๆ ไป

ตัวอย่างเมนูอาหารที่ AI แนะนำ

ที่มา: Little Red Book

ปัจจุบัน AI มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของโลกและของจีนเป็นอย่างมาก เนื่องจาก AI สามารถออกแบบสูตร สร้างสรรค์รสชาติ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคทั่วไปได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลัง HELL ENERGY ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องดื่มชูกำลังตัวแรกของโลกที่พัฒนาโดย AI ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ที่มา: HELL ENERGY

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ชีสจากพืช ที่ถูกพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ใกล้เคียงกับชีสที่ทำจากนม

ที่มา: thedailymeal.com

สำหรับด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่าบริษัท Yili  ได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์รุ่นลิมิเต็ด เพื่อต้อนรับเอเชียนเกมส์ที่จะจัดขึ้นที่เมืองหางโจว โดยใช้เทคโนโลยี AIGC มาช่วยในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ให้ความงามแบบคลาสิก และมีความสมัยใหม่ผสมผสานเข้าด้วยกันให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ในการดื่มร่วมกับการได้เห็นรูปลักษณ์และมุมมองใหม่ๆ ผ่านกล่องบรรจุภัณฑ์

ที่มา: Yili

ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายในด้านวิทยาศาสตร์การอาหารขั้นพื้นฐาน การผลิตทางการเกษตร การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค การควบคุมการผลิต การจัดการห่วงโซ่อุปทานและช่องทางการค้าปลีกที่ AI สามารถเข้ามาช่วยได้ ยกตัวอย่างเช่น ด้านการเกษตร ข้อมูลที่ได้จาก AI สามารถแนะนำและให้ความคิดเห็นแก่เกษตรกรในการเพิ่มสัดส่วนของทรัพยากร ให้เข้าใจการหว่านเมล็ดพันธุ์ การรดน้ำ การเพาะปลูกในแต่ละครั้งให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ให้มีผลผลิตที่ดีและสูง ส่วนด้านวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคก็พบว่าเทคโนโลยี AI สามารถวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารของจีนสามารถกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ปัจจุบัน AI มีอิทธิพลและถือเป็นเครื่องมือปฎิวัติวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของจีนที่น่าจับตามอง

ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย

การพัฒนาของเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทำให้ชาวโลกมีความเป็นอยู่ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่งให้ความต้องการของผู้บริโภคถูกยกระดับ และอุตสาหกรรมต่างๆ ล้วนแต่ต้องปรับตัว วางแผนกลยุทธ์ใหม่ๆ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดนวัตกรรมสมัยใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ และปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ก็ถือเป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัยที่เข้ามาตอบโจทย์ และกระตุ้นให้เกิดความต้องการใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะรายงานข้างต้นก็ถือเป็นกรณีศึกษาที่ดีสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารของไทยที่สามารถนำเอาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาใช้พัฒนาและมาต่อยอดธุรกิจโดย AI สามารถช่วยในการออกแบบสูตร ออกแบบบรรจุภัณฑ์ สร้างสรรค์รสชาติใหม่ๆ ที่ช่วยประหยัดต้นทุน และยังมีความแม่นยำมากกว่าการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคโดยใช้แบบสอบถามหรือวิธีการจัดเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิม รวมทั้งยังสามารถนำเอามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับคนรักสุขภาพ ที่ต้องการดูแลร่างกาย และจัดสรรอาหารและเครื่องดื่มให้เหมาะสมกับร่างกายเฉพาะบุคคล เพื่อขจัดปัญญาการเข้าไม่ถึงการรับคำปรึกษาจากนักโภชนาการมืออาชีพ เป็นต้น ซึ่งหากผู้ประกอบการไทยสามารถพิจารณาใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสาร และแนวทางการพัฒนาในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของจีนจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถพัฒนาสินค้าและบริการที่เหมาะสมในการเจาะตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสในการแย่งชิ่งส่วนแบ่งตลาดอาหารและเครื่องดื่มในตลาดจีนได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

 https://www.foodaily.com/articles/33471

https://www.foodaily.com/articles/33462

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login