การเสนอจัดเก็บภาษีการบริโภคสำหรับเครื่องดื่มที่มีรสหวานและเกมออนไลน์อาจส่งผลกระทบต่อทั้ง 2 อุตสาหกรรมและลดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทต่างๆ
นาย เหงียน วัน เวียต (Nguyen Van Viet) ประธานสมาคมเบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มเวียดนามกล่าวว่า การเสนอจัดเก็บภาษีการบริโภคสำหรับเครื่องดื่มที่มีรสหวานนั้นไม่ยุติธรรม เนื่องจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลไม่ได้เป็นสาเหตุหลักของโรคอ้วนในเวียดนาม
ในปี 2562 กระทรวงการคลังได้กำหนดเก็บภาษีการบริโภคสำหรับเครื่องดื่มที่มีรสหวานร้อยละ 10-20 แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้รับการอนุมัติ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมีประมาณ 44 กิโลแคลอรีต่อ 100 กรัม เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในการผลิตอาหารแปรรูปที่มีน้ำตาล ตัวอย่างเช่น คุกกี้มี 300-400 กิโลแคลอรีต่อ 100 กรัม ส่วนไอศกรีมมี 200 กิโลแคลอรี หากมีการเรียกเก็บภาษีอาจทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจผลิตภัณฑ์อื่นที่มีปริมาณน้ำตาลสูงกว่า
ภาษีการบริโภคจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กในอุตสาหกรรม รวมถึง ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย คนงานในอุตสาหกรรม และชาวไร่อ้อย ซึ่งเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ยังคงพยายามฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
รายงานปี 2564 โดย Central Institute for Economic Management แสดงให้เห็นว่า ภาษีร้อยละ 10 สำหรับเครื่องดื่มที่มีรสหวานสามารถลดรายได้จากอุตสาหกรรมได้ 3.8 ล้านล้านด่ง ในขณะที่เพิ่มรายรับจากงบประมาณของรัฐเพียง 2.72 ล้านล้านด่ง
สำหรับธุรกิจเกมออนไลน์ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาษีที่เสนอเช่นกัน นาย La Xuan Thang ตัวแทนจากผู้ผลิตเกมออนไลน์ VNG กล่าวว่า หากมีการเรียกเก็บภาษี หลายบริษัทอาจใช้วิธี “ลักลอบนำ” เกมเข้าสู่ตลาด และการจัดการจะเป็นเรื่องยากมากขึ้น ภาษีการบริโภคที่จะเสนอมานั้น เป็นความท้าทายมากสำหรับอุตสาหกรรมเกมออนไลน์ของเวียดนาม และกำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการต่างชาติ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทเกมออนไลน์ที่จดทะเบียนในประเทศเพียงร้อยละ 15 เท่านั้นที่ยังคงดำเนินงานอยู่ ส่วนที่เหลือปิดดำเนินการหรือย้ายไปต่างประเทศ เกมช่วยให้ผู้คนมีความคิดสร้างสรรค์ นำเทคโนโลยีที่ทันสมัย และลดความเครียด นอกจากนี้ประเภท e-sports ได้รับการอนุมัติให้เป็นกีฬาโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล
นาย Nguyen Trong Nghia ตัวแทนผู้ผลิตเกมในเวียดนามกล่าวว่า ไม่มีประเทศใดในโลกที่เรียกเก็บภาษีสำหรับเกมออนไลน์ แม้ว่าบางประเทศจะมีนโยบายจำกัดเวลาเล่นหรือควบคุมเนื้อหา รวมถึงเกาหลีใต้และจีน
(จาก https://vietnamnews.vn/)
ข้อคิดเห็น สคต
การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพนับเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอันส่งผลต่อปัญหาทางด้านสาธารณสุขของเวียดนาม จากปัญหาดังกล่าวทำให้ในปัจจุบันได้มีมาตรการทางกฎหมายในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว ได้แก่มาตราทางด้านการรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตรการทางด้านฉลากโภชนาการ และมาตรการทางด้านการควบคุมโฆษณา แต่อย่างไรก็ตามมาตรการทางด้านกฎหมายดังกล่าวในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น การเสนอเก็บภาษีนอกจากเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการแสวงหารายได้ของรัฐ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสังคมรวมถึงการส่งเสริมมาตรการต่างๆ การเสนอภาษีการบริโภคจึงควรถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันพบว่าเวียดนามยังไม่มีการจัดเก็บภาษีการบริโภคจากเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้กฎหมายภาษีการบริโภคยังเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินมาตรการดังกล่าว ดังนั้นจึงมีการเสนอจัดเก็บภาษีการบริโภคสำหรับเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพเพื่อเป็นการจำกัดหรือลดการบริโภครวมถึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคและเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับรัฐ อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีการบริโภคในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มอาจสร้างผลกระทบเชิงลบ เช่น ราคาที่สูงขึ้นและความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลง ซึ่งจะส่งผลให้งบประมาณลดลง รวมถึงห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก น้ำตาลเป็นสินค้าที่มีนโยบายคุ้มครอง เช่น โควตา นโยบายต่อต้านการทุ่มตลาด ดังนั้น การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำตาลจึงขัดต่อนโยบายส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำตาล นอกจากนี้ เป้าหมายของรายได้งบประมาณจะไม่สามารถบรรลุได้เมื่อการเก็บภาษีจะทำให้การผลิตลดลง
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)